สวัสดีค่ะ คุณทนาย

เมื่อปี 2544 เดือน เจ็ด ดิฉัน ได้ผ่อนซื้อ คอนโด ไว้ ประมาณ 400000 บาท ก็ได้ผ่อนชำระเรือยมา จนกระทั่งต้องเดินทางไปต่างประเทศ เลยให้พี่สาวพักอาศัย โดยได้ส่งเงินมาให้พี่สาวเป็นผู้ชำระ เรื่อยมา จนสองสามปีต่อมากลับมาพบว่ามีป้ายติดประกาศแจ้งยึดขายทอดตลาด ถ้าไม่ไป ชำระซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ไม่ได้ต่างไปจากยอดหลังสุดที่เราจ่ายก่อนจากไทยไป ประมาณ สองแสน ได้ขอร้องให้พี่ย้ายออกและคิดจะขาย แต่พี่ไม่ยอมออกเพราะต้องการให้เราจ่าย ในตอนนั่น ไม่รู้จะทำอย่างไร เลยตัดสินใจ ยอมให้ยึดขายทอดตลาดไป  และตัดสินใจจะไม่กลับมาใช้ชิวิตที่ไทยอีก แต่ พอเมื่อต้นปีนี้ช่วงเดือน มกราคม คุณแม่ได้โอนที่ให้ผืนหนึ่งให้ เพราะถ้าเป็นชื่อท่าน พี้น้องก็รบเร้าให้ท่านเอาไปจำนอง แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถใช้หาเงินมาคืนธนาคารได้ สุดท้ายดิฉันก็ต้องไปคนไปไถ่ถอนออกมา ปีนี้ท่านแก่แล้ว คิดว่าไม่มีแรงทีจะทำงานหนัก เพื่อช่วยเหลือลูกได้อีกต่อไป เลยตัดปัญหา โอนที่เป็นชื่อดิฉัน แต่พอดิฉันเดินทางเออกนอกประเทศได้ไม่นาน เมื่อต้นเดือนที่แล้ว เดือน มิถุนายน ค่ะ ก็มีจดหมาย แจ้งให้ชำระหนี้ ซึ่งส่งมาจากบริษัท หนึ่ง ในเนื้อจดหมายเขียนว่า ทางบริษัท ได้ดำเนินการขายคอนโดนั้นไปแล้วแต่ ไม่เพียงพอ ยังมีหนี้ส่วนต่างที่ต้องชำระ  พอพี่สาวโทรไป ทางบริษัท ก็บอกว่าไม่มีข้อมูลไม่รู้จดหมายส่งไปได้อย่างไร ขอเวลาตรวจสอบ ทำให้ไม่แน่ใจว่า เอกสารนี้เป็นเอกสารที่แท้จริงหรือไม่ หรือว่าหลอกลวง  ไม่แน่ใจว่่าควรจะทำอย่างไร ควรติดต่อกับธนาคารโดยตรงหรือไม่ แล้วจริง ๆ ดิฉันจำเป็นต้องจ่ายหนี้ส่วนต่างนีหรอไม่ เพราะจากนับเวลามาแล่้ว ก็เป็นเวลาสิบสามปีแล้ว น่าจะสิ้นอายุความหรือไม่ ขอความกรุณาให้คำแนะนำด้วยค่ะ