ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนครับว่าผมเป็นทนายใหม่ได้ปีกว่า ๆ เอง และพึ่งผ่านการว่าความคดีอาญา(เช็ค)เพียงเรื่องเดียวแต่ต้องมาเจอศึกหนักเพราะเป็นคดีอาญาข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ซึ่งจำเลยเป็นญาติกับผม(ไม่รับก็ไม่ได้เพราะถูกบังคับ)  สิ่งที่จะขอความเมตตาจากท่านคือในวันนัดพร้อมอัยการแถลงว่าจะสืบพยานโจทก์ ๒ ปาก  ซึ่งผมก็อ้างทั้ง ๒ คน เป็นพยานด้วย ปากแรกไม่ห่วงเพราะเป็นประจักษ์พยานแต่พยานอีก ๑ ปาก อยู่ต่างจังหวัด ซึ่งอัยการท่านแถลงว่าสามารถนำมาสืบที่ศาลเองได้  ส่วนผมแถลงว่าจะสืบพยาน ๓ ปาก แต่ที่เป็นกังวลคือผมไม่ได้แถลงว่าหากอัยการไม่นำพยานปากที่อยู่ต่างจังหวัดมาสืบหรือไม่ติดใจสืบ จำเลยจะขอส่งประเด็นไปสืบยังศาลที่พยานมีภูมิลำเนา ซึ่งพยานปากนี้เป็นปากสำคัญมากที่สุดในคดีที่จะต้องเบิกความรับรองเอกสารว่าทรัพย์ที่จำเลยเอาไปนั้นอยู่ในที่ดินที่กำลังมีข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิกันอยู่ (อัยการแถลงไม่ยอมรับเอกสาร) หากวันสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วอัยการไม่สืบพยานปากดังกล่าวจริง ๆ ถ้าผมแถลงขอศาลส่งประเด็นไปสืบพยานปากดังกล่าวแล้ว ศาลไม่อนุญาต ผมจะอ้างเจ้าหน้าที่ศาลที่รับรองเอกสารมาเบิกความว่าเอกสารที่ผมอ้างเป็นเอกสารที่ถ่ายจากต้นฉบับจริงศาลจะรับฟังหรือไม่ครับ(คดีเกิดในศาลเดียวกันโจทก์จำเลยเป็นคนเดียวกันทั้งแพ่งและอาญา) ถ้าศาลไม่รับฟังผมขอความเมตตาจากท่านช่วยแนะนำและหาทางออกให้ผมด้วยครับ ตอนแรกผมคิดว่าจะเรียกสำนวนมาผูกรวมแต่กลัวว่าถ้าอัยการไม่เอาเจ้าของที่ดินมาสืบมันก็ไม่มีประโยชน์ เพราะโจทก์ในคดีแพ่งไม่ได้เบิกความรับรอง ตอนนี้ผมเครียดมากครับ ผมจึงขอความเมตตาท่านช่วยชี้แนะทางออกให้ทนายใหม่อย่างผมด้วยนะครับ กราบขอบพระคุณมากครับ (จะปรึกษาหัวหน้าสำนักงานที่ไปฝึกมาท่านก็เสียชีวิตแล้ว) ผมพยายามค้นฏีกาเรื่องนี้ กับฏีกาเรื่องลักทรัพย์ในที่พิพาท แต่หาเท่าไรก็ยังหาไม่ได้ครับ พึ่งรู้ครับว่าว่าความคดีอาญามันหนักหนาสาหัสสำหรับทนายใหม่จริง ๆ และก็ไม่ทราบจะไปปรึกษาใครจริง ๆ เพราะพึ่งกลับไปอยู่ต่างจังหวัดยังไม่ทันไปสมัครเป็นทนายประจำสำนักงาน โดนแจคพอตเสียก่อน กราบขอบพระคุณล่วงหน้าอีกครั้งนะครับสำหรับคำแนะนำ