 | |
1. ผมซื้อบ้านเพื่อแยกมาอยู่จากพ่อแม่ แต่ขอส่วนลดพนักงานของแฟน (เขาทำงานบริษัทขายบ้าน) 2. ชื่อในการทำสัญญา เลยต้องเป็นชื่อคู่ และลามไปถึงกู้แบ๊งค์ ชื่อคู่ และหลังโฉนด 3. ผมผ่อนมาเป็นส่วนใหญ่ เขาให้มาไม่ถึง 8% ของยอดผ่อนต่อเดือน บางเดือนก็ไม่ให้ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ให้ 4. 2 ปี 6 เดือน ต่อมา แต่งงานกัน จดทะเบียน ผมทำงานหนักหาเงินมาผ่อนบ้าน รับงานข้างนอก สร้างธุรกิจส่วนตัว ขณะที่เขาทำงานประจำ ไม่หาความก้าวหน้าทำไปวันวัน ไม่คิดจะช่วยงานที่ผมหาผมสร้าง มาเลย 5. ลายเริ่มออก ผู้หญิงอยากได้โน่นนี่คือทรัพย์สมบัติที่หามาได้ เริ่มอ้างสิทธิ์บอกใครต่อใครว่าบ้านเป็นของเขา หาเรื่องกวนประสาทโดยเฉพาะ เรื่องผู้หญิงอื่น เช็คโทรศัพท์ พูดจาไม่ให้เกียรติ ไม่เคารพผม ไม่เคารพพ่อแม่ผม ขี้เกียจทำงาน โดยอ้างว่าทำงานข้างนอกก็เหนื่อยแล้ว ทะเลาะกันเอาแต่ อารมณ์ ท้าให้หย่าต่อหน้าผู้ใหญ่ฝ่ายผม และฝ่ายเขา เอาแม่ตัวเองมาอยู่ ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของทรัพย์สินในบ้าน(ทรัพย์สิน เกือบทั้งหมดผมหามา แม่ผมให้มา) เอาคนอื่น คนนอก ญาติ และคนอื่นอื่นมาเที่ยวบ้าน แล้วอ้างว่าเป็นบ้านตัวเอง เจอหน้าเมื่อไหร่ ประชดประชัน แดกดัน หาเรื่องกับผู้หญิงรอบข้างผม ไม่มองว่าเป็นคนที่ร่วมงานด้วยหรืออย่างไร (โทรไปใช้คำพูดแรงแรง) ใรความ เป็นจริงผมไม่ได้ยุ่งกับหญิงอื่นเลยตั้งแต่แต่งงาน แต่เขาก็คงคิดว่าผมชอบไปเจาะแจะกับหญิงอื่น 6. เครียดมาเกือบ 7 เดือน แม่ผมเป็นโรคตับอยู่แล้ว เริ่มป่วยหนัก และต้องใช้เงินสูงเพื่อเปลี่ยนตับ (ก่อนหน้านี้เข้า ICU เพราะเครียดเรื่องของผู้หญิงมาทีนึงแล้ว) เมื่อเขาอยากหย่านัก ก็เลยบอกไปหย่าก็หย่า ต่อหน้าผู้ใหญ่ และอยากขายบ้าน เพื่อปลดภาระ ทรัพย์สินแบ่งครึ่งและจะเพิ่มให้ตามสมควร 7. เขาไม่ยอมหย่า บอกว่าที่พูดไป เพราะอารมณ์ ถ้าอยากหย่า ก็จ้างหย่า เริ่มเรียกตั้งแต่ 1 ล้าน ขึ้น เป็นล้านห้า และสองล้านในที่สุด จะเอาเป็นเงินสดเท่านั้น จ่ายทันที 8. เลยบอกว่า เรื่องทรัพย์สิน บ้าน ยกให้ไป ในส่วนที่ผ่อนมายกให้หมด เขาอ้างว่า ไม่เอาบ้านพร้อมหนี้ไม่เอา เลยบอกว่าไม่มีเงินขนาดนั้น เขาบอกว่าทรัพย์สินพ่อแม่ ขายแล้วเอามาให้ซิ 9. สุดท้าย รับรู้ว่าเขาต้องการทรัพย์สมบัติเรา และถ้าเช่นนั่น เขาท้าให้ฟ้องหย่า ถ้าไม่ได้ก็อยู่ไปแบบนี้ เขาก็อยู่ บ้าน ที่ผมผ่อน พร้อมแม่เขาใช้ทัพย์สินเราอย่างสุขสบาย พอกลับมาที่บ้านก็ใช้คำพูดเหน็บแนม กระแนะ กระแหนจนผมต้องออกมาอยู่บ้านพ่อแม่ เพราะทนพฤติกรรมแบบนี้ไม่ไหว 10. กลับมาทบทวนทางออก ฟ้องหย่า 10 ข้อ ดูไม่ค่อยมีน้ำหนัก เพราะไม่มีหลักฐาน และบ้านที่ผ่อนถ้าปล่อยยึด แบ็งค์คงมาไล่เบี้ยกับทางผมแน่นอน เพราะเขาไม่มีทัพย์สมบัติชื่อเขาเลย
ผมควรทำอย่างไรให้ออกจากวิถีอุบาทว์แบบนี้ | |
ผู้ตั้งกระทู้ วร :: วันที่ลงประกาศ 2011-07-13 14:51:38 |
| [1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2199678) | |
ในข้อกฏหมายผมก็เห็นด้วยกับคุณว่าเหตุฟ้องหย่าน่าจะไม่มีน้ำหนักเพียงพอ เพราะตามข้อเท็จจริงที่ให้มาเป็นการอ้างฝ่ายเดียวและเป็นเรื่องปกติของสามีภริยาที่อยู่กินด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วก็จะพบปัญหาเช่นคู่ของคุณจำนวนมาก ทางออกที่ 1. กดดันด้วยการไม่ผ่อนส่งบ้าน ทางเลือกนี้ หากไม่ได้ผลจะพังทั้งสองฝ่าย คือถูกเจ้าหนี้ฟ้อง และในที่สุดแบกรับภาระดอกเบี้ยไม่ไหว อาจถูกฟ้องให้เป็นบุคคลล้มละลายได้ ทางออกที่ 2 ฟ้องหย่า ขอให้แบ่งสินสมรสซึ่ง แม้น้ำหนักจะมีน้อยก็ตาม แต่อย่างน้อยก็อาจได้ไปเจรจาตกลงกันในชั้นศาลและอาจมีผู้ประนีประนอม ช่วยหาทางออกและทำเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจทำให้สถานการณ์ดีขึ้นกว่าเดิมก็อาจเป็นได้ คำถามของคุณไม่ใช่ปัญหาในทางกฎหมายโดยตรงจึงมีข้อจำกัดในการตอบอยู่มาก
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-07-27 09:51:25 | |
ความคิดเห็นที่ 2 (2199690) | |
ฟ้องหย่าขอแบ่งสินสมรส | |
ผู้แสดงความคิดเห็น * วันที่ตอบ 2011-07-27 09:55:20 | |
| [1] |
