ReadyPlanet.com


โดนฟ้องร้องฐานแอบอ้างใช้ชื่อบุคคลอื่น


เรียน  ท่านทนาย

ผมรบกวนสอบถามครับ ผมเคยเป็นพนักงานอยู่บริษัทฯ แห่งหนึ่ง แต่ตอนนี้ได้ออกมาประกอบอาชีพอิสระเอง แล้วผมมีการสั่งซื้อกล่องจากบริษัทxx ซึ่งบริษัทฯ เก่าที่ผมลาออกมา ก้สั่งกล่องกับบริษัทxx นี้เหมือนกันครับ ปีนึง ผมจะมีสั่งกล่องประมาณ สัก 3-4 ครั้ง ครั้งละประมาณ 100 ใบ และทุกครั้งที่พนักงานของบริษั่ทxx นำกล่องมาส่ง จะมีเซลที่เป็นคนขายกล่องมาด้วยทุกครั้ง เพราะต้องเก็บเงินสดทุกครั้ง แต่ทุกครั้งที่มาส่งจะมี ใบส่งของมา และในใบส่งของนั้น จะเป็นชื่อ ของบริษัทฯ เก่าที่ผมเคยได้ลาออกมา และผมเคยแจ้งเซลไปแล้วว่า ผมไม่ได้มีส่วนกับบริษัทฯ นี้แล้ว และให้เซลเปลี่ยนใบเสร็จรับเงินมาให้ด้วย แต่เซลก้แจ้งกับผมว่า กับลูกค้าคนอื่นๆ ก้ทำแบบนี้ ไม่มีปัญหา เพราะเวลาสั่งกล่อง จะสั่งออกมาเป็นรอบเดียวกัน และเพื่อให้ได้ราคาที่ถูกด้วย ผมก้ถามทุกครั้งว่าไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ยถ้าทำแบบนี้ ทางเซลก้แจ้งว่า ไม่มีปัญหา และผมก้ได้เซนรับกล่องและจ่ายเงินทุกครั้งในใบส่งของนั้น

แต่แล้ว อยู่มาวันนึง ทางบริษัทฯ เก่าผม ได้ส่งตัวแทนของทนายเข้ามาพบผมที่บ้าน และแจ้งกับผมว่า ทางบริษัทฯ จะทำการฟ้องร้องผม ในข้อหาแอบอ้างใช้ชื่อของบริษัทฯ และปลอมแปลงเอกสารในการสั่งกล่อง แล้วไม่ชำระเงินด้วย ทั้งหมด 3 คดี ซึ่งทางผมเอง ก้ได้แจ้งกับทางตัวแทนทนายไปแล้วว่า ผมไม่เคยทำเรื่องแบบนี้ ทุกทีที่สั่งกล่องผมก้สั่งด้วยตัวผมเอง และจ่ายเงินสดทุกครั้ง ไม่มีการติดค้าง ทางตัวแทนทนายแจ้งกับผมว่า ต้องการให้ผมเข้าไปขอโทษกับทางบริษัทฯ เก่าผม แล้วจะไม่เอาเรื่อง แต่ผมไม่ได้ทำผิดอะไร ผมเลยไม่เข้าไปครับ

หลังจากนั้น ผมได้โทร.เข้าไปหาเซลคนนั้น ที่ผมสั่งกล่องกับเขามาตลอด พอโทร.เข้าไปกลับกลายเป็นคนอื่นรับโทรศัพท์ แล้วแจ้งกับผมว่า เซลคนนั้นได้ออกไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฏาคม แต่ผมก้ยังแปลกใจอยู่ครับ เพราะเมื่อต้นเดือนเซลคนนี้ ก็ยังนำกล่องมาส่งให้กับผมอยู่ และจ่ายเงินสดไปแล้วครับ

คำถาม - ถ้าในกรณีแบบนี้ ผมควรทำอย่างไรดีครับ ผมจะสู้คดีได้มั้ย ในเมื่อผมบริสุทธิ์ใจ แต่เป็นทางเซลเองที่เป็นคนแจ้งผมแบบนี้ตลอด ร้อนใจมากครับ เพราะทางทนายแจ้งว่า จะส่งแจ้งความตำรวจ วันจันทร์นี้แล้วครับ ขอบพระคุณมากครับ



ผู้ตั้งกระทู้ ชุมพร :: วันที่ลงประกาศ 2011-08-18 22:28:04


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2219617)

ผมขอแสดงความเห็นดังนี้ครับ

ข้อเท็จจริงที่คุณเล่ามานั้น อาจเข้าข่ายร่วมกันฉ้อโกงได้ครับ ส่วนความสุจริตใจของคุณเป็นเรื่องข้อเท็จจริงที่คุณอ้าง แต่ศาลจะเชื่อคุณมากน้อยเพียงใดก็เป็นเรื่องในรายละเอียดที่จะต้องรอฟังผลในทางคดีต่อไป หากคุณหาตัวเซลล์คนที่คุณอ้างมายืนยันได้ก็อาจเป็นประโยชน์ แต่ถ้าเขามาศาลแล้วเบิกความคนละอย่างกับที่คุณเล่ามาก็อาจเท่ากับมามัดตัวคุณให้หนักลงไปอีกก็ได้ครับ พยานหลักฐานการรับสินค้ากับชื่อผู้สั่งซื้อสินค้ามันฟ้องอยู่ในตัวของมันเอง การต่อสู้คดีเป็นสิทธิของจำเลย (ผู้ต้องหา) แต่ศาลจะเชื่อเราแค่ไหนเพียงใดก็ต้องปรึกษากันในรายละเอียดเกี่ยวกับพยานหลักฐานที่จะนำมาหักล้างข้ออ้างของโจทก์ได้ครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-09-24 12:09:24



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล