ReadyPlanet.com


อยากทราบเรื่องการแบ่งสินสมรสค่ะ (ด่วนมาก)


เรียน คุณทนาย

ดิฉันอยากขอความกรุณาช่วยให้ความกระจ่างดิฉันหน่อยค่ะ พอดีน้าชายดิฉันไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายเลย เรื่องมีอยู่ว่า น้าชายของดิฉันแต่งงานและจดทะเบียนสมรสกับภรรยาเค้า และระหว่างที่ใช้ชีวิตสมรสอยู่ด้วยกัน เกิดมีปัญหาจนถึงขั้นจะหย่ากัน ปัญหาอยู่ตรงเค้าได้สร้างห้องเช่า เป็นตึกใหญ่  โดยใช้เงินจากการหยิบยืมจากญาติฝ่ายหญิงส่วนนึง และเงินกู้จากธนาคารที่น้าชายไปกู้โดยใช้ชื่อตัวเองเป็นผู้กู้ และเงินส่วนตัวของน้าชายเป็นบางส่วน มารวม ๆ แล้วสร้างอาคารหลังนี้ขึ้นมา

ดิฉันอยากทราบว่า ที่ดินที่เป็นสมบัติเก่า ก่อนแต่งงานของน้าดิฉัน และได้ใช้สร้างห้องเช่าในปัจจุบันหลังจากจดทะเบียนสมรส (ถือเป็นสินสมรสที่ต้องนำมาแบ่งครึ่งด้วยหรือเปล่าค๊ะ) แล้วถ้าใช่มีวิธีไหนบ้างไหมค๊ะ ถ้าน้าไม่ต้องการให้ฝ่ายหญิงมีสิทธืในสมบัติเก่า (ที่ดิน) นี้ รบกวนอย่าสูงนะค๊ะ ขอความกรุณาบอกทางออกให้หน่อยค่ะ



ผู้ตั้งกระทู้ คนมีปัญหา :: วันที่ลงประกาศ 2011-08-30 18:59:53


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2223254)

ที่ดินเป็นสมบัติเก่า แสดงว่าเป็นสินส่วนตัว ไม่ใช่สินสมรส ดังนั้นตาม มาตรา 1473 (บอกว่า) สินส่วนตัวของคู่สมรสฝ่ายใดให้ฝ่ายนั้นเป็นผู้จัดการ ส่วนห้องเช่าได้มาระหว่างสมรสจึงเป็นสินสมรที่จะต้องแบ่งกันคนละครึ่งครับ -มาตรา 1533 เมื่อหย่ากันให้แบ่งสินสมรสให้ชายและหญิงได้ส่วนเท่ากัน

มาตรา 1471 สินส่วนตัวได้แก่ทรัพย์สิน

(1) ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีอยู่ก่อนสมรส
(2) ที่เป็นเครื่องใช้สอยส่วนตัว เครื่องแต่งกาย หรือเครื่องประดับ กายตามควรแก่ฐานะ หรือเครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็นในการประกอบอาชีพ หรือวิชาชีพของคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
(3) ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้มาระหว่างสมรสโดยการรับมรดก หรือโดย การให้โดยเสน่หา
(4) ที่เป็นของหมั้น

มาตรา 1472 สินส่วนตัวนั้น ถ้าได้แลกเปลี่ยนเป็นทรัพย์สินอื่นก็ดี ซื้อ ทรัพย์สินอื่นมาก็ดี หรือขายได้เป็นเงินมาก็ดี ทรัพย์สินอื่นหรือเงินที่ได้มา นั้นเป็นสินส่วนตัว

มาตรา 1474 สินสมรสได้แก่ทรัพย์สิน
(1) ที่คู่สมรสได้มาระหว่างสมรส
(2) ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้มาระหว่างสมรสโดยพินัยกรรมหรือโดย การให้เป็นหนังสือเมื่อพินัยกรรมหรือหนังสือยกให้ระบุว่าเป็นสินสมรส
(3) ที่เป็นดอกผลของสินส่วนตัว
 
ถ้ากรณีเป็นที่สงสัยว่าทรัพย์สินอย่างหนึ่งเป็นสินสมรสหรือมิใช่ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นสินสมรส

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-10-06 16:58:40


ความคิดเห็นที่ 2 (2223257)

ทรัพย์สินที่มีอยู่ก่อนสมรส

คำพิพากษาศาลฎีกาที่  4382/2540

          โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่ดินที่โจทก์อ้างว่าโจทก์จำเลยหามาได้ร่วมกันในระหว่างอยู่กินฉันสามีภริยาก่อนจดทะเบียนสมรส จึงเท่ากับโจทก์ฟ้องขอแบ่งทรัพย์สินที่โจทก์อ้างว่ามีอยู่ก่อนสมรสอันเป็นทรัพย์สินส่วนตัวตาม ป.พ.พ.มาตรา 1471 (1)ซึ่งแต่ละฝ่ายในฐานะเจ้าของย่อมมีอำนาจจัดการเองได้โดยลำพังตามมาตรา 1473และมาตรา 1336 แม้ต่อมาโจทก์จำเลยจะจดทะเบียนสมรสกัน ก็ไม่ทำให้สินส่วนตัวนั้นกลับเป็นสินสมรสได้ หรืออีกนัยหนึ่ง การมีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินใดร่วมกันของสามีภริยาที่มีอยู่ก่อนสมรส แม้จะยังไม่แบ่งปันกันเป็นสัดส่วนภายหลังสมรสก็หาทำให้ทรัพย์สินนั้นกลายเป็นสินสมรสหรือเป็นทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายไปไม่เหตุนี้ที่โจทก์ฟ้องจำเลยขอแบ่งที่ดินที่โจทก์อ้างว่ามีกรรมสิทธิ์ร่วมกันกับจำเลยอยู่ก่อนการสมรส เนื่องจากโจทก์จำเลยไม่ได้อยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาอีกต่อไป จึงไม่ใช่การฟ้องร้องเกี่ยวกับทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา อันต้องห้ามมิให้ฟ้องร้องตามบทบัญญัติแห่ง ป.พ.พ.บรรพ 5 หมวด 4 ว่าด้วยทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา และการห้ามมิให้สามีหรือภริยายึดหรืออายัดทรัพย์สินของอีกฝ่ายหนึ่งตาม ป.พ.พ.มาตรา 1487ก็ไม่ใช่บทบัญญัติห้ามมิให้ฝ่ายหนึ่งฟ้องร้องอีกฝ่ายหนึ่งให้แบ่งทรัพย์สินที่เป็นกรรมสิทธิ์รวมที่มีอยู่ก่อนสมรสดังกรณีของโจทก์ เมื่อปรากฏว่าโจทก์มีหนังสือขอแบ่งที่ดินดังกล่าวไปยังจำเลย จำเลยได้รับหนังสือแล้วไม่แบ่งให้ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยให้แบ่งที่ดินตาม ป.พ.พ.มาตรา 1363 ได้

           โจทก์จำเลยอยู่กินกันฉันสามีภริยาด้วยความรักใคร่ปรองดองและต่างช่วยเหลือเกื้อหนุนกันในการประกอบอาชีพ และได้นำเงินที่โจทก์จำเลยทำมาหาได้ร่วมกันไปซื้อที่ดินพิพาทโดยใส่ชื่อจำเลยคนเดียวเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจ ที่ดินพิพาทจึงเป็นของโจทก์จำเลยคนละกึ่ง เมื่อโจทก์ได้ออกจากบ้านจำเลยไปอยู่ที่อื่นไม่กลับมา และโจทก์ไม่ได้ร่วมจัดการที่ดินพิพาทอย่างเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมอีกต่อไป โจทก์มีความประสงค์จะขอแบ่งที่ดินพิพาทและได้มีหนังสือเรียกให้แบ่งส่งไปถึงจำเลยแล้ว ไม่ปรากฏว่ามีนิติกรรมระหว่างโจทก์จำเลยห้ามไม่ให้แบ่งประกอบกับเวลาที่ขอแบ่งนับเป็นโอกาสอันควรตาม ป.พ.พ.มาตรา1363 โจทก์ย่อมเรียกให้จำเลยแบ่งที่ดินพิพาทตามส่วนได้
________________________________

        
( สุพล พันธุมโน - ชูชาติ ศรีแสง - กมล เพียรพิทักษ์ )

ศาลจังหวัดสมุทรปราการ - นายวินิตย์ ศรีภิญโญ
ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ - นายประดิษฐ์ ทรงฤกษ์

 

ผู้แสดงความคิดเห็น * วันที่ตอบ 2011-10-06 17:14:25



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล