ReadyPlanet.com


ฟ้องชาวต่างชาติข้อหาพรากผู้เยาว์


ต้องการฟ้องชาวต่างชาติเป็นชายอายุ 42 ปี คดีพรากผู้เยาว์ซึ่งตอนที่เกิดเรื่องเด็กมีอายุ 17 ปี ปัจจุบันเด็กอายุ 18 ปี3 เดือน โดยฝ่ายชายมีภรรยาและบุตรแล้วแต่ได้ใช้ถ้อยคำหว่านล้อม เกลี้ยกล่อมให้เด็กยอมมีความสัมพันธ์ด้วย และไม่ให้เด็กบอกใคร หลังจากนั้นประมาน 3-4 เดือน มารดาเด็กทราบเรื่องไม่ยินยอมจะดำเนินคดีแต่ฝ่ายชายขอไกล่เกลี่ยตกลงจะรับผิดชอบ ทุกอย่างเป็นอย่างดีและฝ่ายชายก็ทำตามที่พูดทุกประการจึงไม่ได้เอาความ หลังจากนั้นเด็กตั้งครรภ์และพยายามปิดบังจนกระทั่งอายุครรภ์ได้หกเดือนเศษจึงบอกฝ่ายชาย ทำให้ฝ่ายชายพยายามตีตนออกห่างและให้ภรรยามาจัดการเรื่องทั้งหมดโดยเรียกผู้เสียหายขึ้นไปตกลงโดยลำพังไม่ให้มารดาผู้เสียหายหรือญาติรับรู้ด้วย ฝ่ายชายปฏิเสธว่าไม่ใช่บุตรของตน แล้วเคยมีความสัมพันธ์กันแค่ครั้งเดียวทั้งที่อยู่กินอย่างลับๆมาปีกว่า -หากผู้เสียหายมีเพียงข้อความและรูปถ่ายที่อยู่ด้วยกันเพียงพอเป็นหลักฐานหรือไม่ -ถ้าศาลตัดสินให้ผิดจริงจะได้รับโทษอย่างไร มีผลต่อวีซ่าหรือไม่(ขณะนี้เป็นวีซ่าเพื่อศึกษาระยะเวลา 1ปี) -สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้หรือไม่ เด็กท้องได้แปดเดือนแล้วแต่ไม่ได้รับการดูแลจากฝ่ายชายเลย -สามารถทำให้ฝ่ายชายเป็นบุคคลต้องห้ามเข้าราชอาณาจักรได้หรือไม่เนื่องจากผู้เสียหาย กลัวถูกข่มขู่ทำร้ายร่างกาย -สามารถฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดูบุตรได้หรือไม่ หากไม่ใส่ชื่อผู้ใดเป็นบิดาตอนแจ้งเกิดจะมีผลอย่างไรบ้าง ใส่ตามทีหลังได้หรือไม่ รบกวนด้วยนะคะ ร้อนใจกลัวฝ่ายชายหนีกลับประเทศค่ะ



ผู้ตั้งกระทู้ ญาติผู้เสียหาย :: วันที่ลงประกาศ 2011-12-02 12:56:14


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2242157)

ตามที่เล่ามานั้นมีความผิดฐานพาไปเพื่อการอนาจาร หญิงเป็นผู้เสียหาย และฐานพรากผู้เยาว์ ซึ่งบิดามารดาเป็นผู้เสียหาย ดังนั้นขอให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เลย

ควรแจ้งในสูติบัตรไปตามความจริงว่าผู้ใดเป็นบิดา จะเป็นประโยชน์ในการฟ้องร้องคดีให้รับเด็กเป็นบุตรและเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูได้

มาตรา 283ทวิ ผู้ใดพาบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

ถ้าการกระทำความผิดตาม วรรคแรกเป็นการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกิน หนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผู้ใดซ่อนเร้นบุคคลซึ่งถูกพา ไปตามวรรคแรกหรือวรรคสอง ต้องระวาง โทษตามที่บัญญัติในวรรคแรกหรือวรรคสอง แล้วแต่กรณี

ความผิดตามวรรคแรกและ วรรคสามเฉพาะกรณีที่กระทำแก่บุคคลอายุ เกินสิบห้าปี เป็นความผิดอันยอมความได้

 

มาตรา 319 ผู้ใดพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไป เสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี และ ปรับตั้งแต่สี่พันบาทถึงสองหมื่นบาท

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความลีนนท์ วันที่ตอบ 2012-01-01 15:59:08



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล