ReadyPlanet.com


ผู้ค้ำประกันใช้หนี้แทน ตามคำสั่งศาล


 ผมค้ำประกันรถยนต์ให้พี่สาว แต่พี่สาวได้คืนรถแล้วครับเพราะส่งค่างวดไม่ไหวและได้ไปขึ้นศาลแต่ผมอยากทราบว่าเจ้าหน้าที่ ที่มายืดรถได้ขายรถรึเปล่า เพราะว่าผมต้องจ่ายเป็นเงิน 505,000 บาท และได้เริ่มจ่ายไปแล้วตั้งแต่เดือน กรกฏาคมครับ แล้วผมจะมีวิธีไหนที่พอจะทราบว่ารถยนต์คันนี้ได้ขายรึยังครับ และทำไมผมต้องจ่ายส่วนต่างเยอะจังครับ แล้วที่ชลบุรีมีที่ตั้งสภาทนายความอยู่รึเปล่าครับขอบคุณครับ



ผู้ตั้งกระทู้ วรวุฒิ :: วันที่ลงประกาศ 2014-08-23 13:53:52


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3711231)

คดีเช่าซื้อรถยนต์ เมื่อลูกหนี้ผิดนัดสัญญาเช่าซื้อ ผู้ให้เช่าซื้อจะบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อและมีสิทธิเข้าครอบครองทรัพย์สิน (รถยนต์) ที่เช่าซื้อ หรือยึดรถยนต์ที่เช่าซื้อ แล้วนำไปประมูลขาย ได้เงินมาชำระหนี้ราคารถยนต์ที่เช่าซื้อโดยมีวิธีคำนวณ (เท่าที่ทราบมา) ดังนี้ 1. ราคาเช่าซื้อตามสัญญาเช่าซื้อ + ค่าใช้จ่ายของผู้ให้เช่าซื้อ (เช่นค่าติดตามทวงถามและดอกเบี้ย)   2.  หักกลบลบหนี้กับ ราคารถยนต์ที่ประมูลขายได้ + ค่างวดที่ชำระไปแล้ว 3. ส่วนต่างที่ลูกหนี้และผู้ค้ำประกันจะต้องรับชอบจาก ข้อ 1. หักออกจากข้อ 2.

สำหรับจำนวนเงินที่คุณอ้างถึง 505,000 บาท ไม่ทราบว่าทางผู้ให้เช่าซื้อคิดจากอะไร ดังนั้นจึงต้องสอบถามกับทางเจ้าหนี้ดูครับ โดยปกติหากรถยนต์ยังไม่ได้นำไปประมูลขายก็จะยังไม่ทราบว่าลูกหนี้เป็นหนี้เท่าใด สำหรับรถยนต์ที่จะนำไปประมูลขายเป็นหน้าที่ของผู้ให้เช่าซื้อดังนั้นลูกหนี้มีสิทธิทราบวิธีและสถานที่ในการประมูลขายเพื่อที่จะได้หาผู้ไปซื้อในราคาที่เหมาะสม เพราะที่ทราบมาจะขายได้ในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดอยู่มากครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น admin วันที่ตอบ 2014-09-24 09:23:07


ความคิดเห็นที่ 2 (3711279)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 142/2549

ผู้ค้ำประกันยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม  ผิดสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ บอกเลิกสัญญาและยึดรถยนต์คืนออกประมูลขายได้เงินน้อยกว่าข้อตกลงตามสัญญาเช่าซื้อ บันทึกข้อตกลงลดค่าเสียหายเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ อายุความสิทธิเรียกร้องตามสัญญาประนีประนอมยอมความ

จำเลยที่ 1 ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ไปจากโจทก์โดยมีจำเลยที่ 2 และที่ 3 เป็นผู้ค้ำประกันยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม ต่อมาจำเลยที่ 1 ผิดสัญญาเช่าซื้อ โจทก์บอกเลิกสัญญาและยึดรถยนต์คืนออกประมูลขายได้เงินน้อยกว่าข้อตกลงตามสัญญาเช่าซื้อ โจทก์กับจำเลยที่ 1 และที่ 2 จึงได้ทำบันทึกข้อตกลงชำระค่าเสียหายดังกล่าว จำนวน 284,007 บาท โดยมีการลดค่าเสียหายเหลือเพียง 170,000 บาท และกำหนดจำนวนเงินที่จะต้องผ่อนชำระและระยะเวลาชำระเสร็จรวมทั้งกำหนดอัตราดอกเบี้ยขึ้นใหม่แตกต่างกับข้อตกลงและจำนวนค่าเสียหายตามสัญญาเช่าซื้อเดิม ข้อตกลงดังกล่าวเป็นกรณีที่โจทก์กับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ระงับข้อพิพาทที่มีอยู่ตามสัญญาเช่าซื้อให้เสร็จสิ้นไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน บันทึกข้อตกลงดังกล่าวจึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ มิใช่หนังสือรับสภาพหนี้ มีผลให้หนี้เดิมตามสัญญาเช่าซื้อระงับไปและก่อให้เกิดหนี้ใหม่ตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าว

ผู้แสดงความคิดเห็น admin วันที่ตอบ 2014-09-24 10:00:14



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล