ธนาคารผู้ออกบัตรเครดิตสามารถทำได้ครับ เพราะสิทธิในการใช้บัตรเครดิตเริ่มแต่เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ แต่ด้วยเหตุมีการตกหล่นทางข้อมูลทำให้ ธนาคารผู้ออกบัตรไม่ทราบและฝ่าฝืนกฏหมาย(พ.ร.บ. ล้มละลาย) ที่ห้ามมิให้ลูกหนี้กระทำการใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้ แต่ด้วยข้อมูลตกหล่นดังกล่าวเป็นความผิดพลาดของผู้ออกบัตรเครดิตที่ยังยินยอมให้ลูกหนี้กระทำการใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่ทั้ง ๆ ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ดังนั้นจึงตอบคำถามได้ว่า ไม่ใช่เป็นการระงับบัตรเครดิตย้อนหลังแต่เป็นการระงับเพราะเพิ่งทราบครับ และผมเชื่อว่า หากความปรากฏแต่ผู้ออกบัตรเครดิตรายที่ 3 ทราบเขาก็คงระงับการใช้บัตรเช่นกัน (ความเห็น) เพราะว่า แม้จะปลดจากล้มละลายแล้วก็ตาม เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็ยังมีสิทธิที่จะรวบรวมทรัพย์สินของลูกหนี้ได้ต่อไปอีกครับ ดังนั้นคงไม่มีเจ้าหนี้ยอมเสี่ยงให้ลูกหนี้ใช้บัตรโดยไม่มีหลักประกันว่าลูกหนี้จะชำระหนี้ให้ได้แน่นอน เพราะหากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์พบทรัพย์สินของลูกหนี้อีกเมื่อใดก็ยังมีสิทธิรวบรวมเพื่อแบ่งแก่เจ้าหนี้ต่อไป

แม้ ตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย จะบอกว่า ลูกหนี้หลุดพ้นจากหนี้ทั้งปวงอันพึงขอรับชำระหนี้ได้นั้นคงหมายถึงหนี้ที่เจ้าหนี้ไม่ได้ยื่นขอรับชำระหนี้ แต่หนี้ที่เจ้าหนี้ได้ยื่นขอรับชำระหนี้แล้วและเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อนุญาต ถือว่าเจ้าหนี้เหล่านั้นยังมีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้หลังการปลดจากการเป็นบุคคลล้มละลายจากทรัพย์สินของลูกหนี้ที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้รวบรวมใหม่ครับ