ReadyPlanet.com


คดีฉ้อโกง


ซี้อที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์เมื่อปี2549โดยทำสัญญาการซื้อขายโดยผู้ขายยืนยันและชี้แนวเขตที่ดินโดยระบุในสัญญาซื้อขายไว้ว่าไม่น้อยกว่า 30 ไร่.และผู้ซิ้อได้ทำการรังวัดสำรวจแล้วตามแนวเขตที่ผู้ขายระบุในขณะนั้นว่ามีเนื้อที่ไม่น้อยกว่า30ไร่จริงจึงตกลงชื้อและทำสัญญาซื้อขายกันโดยในขณะนั้นทีสมาชิกอ.บ.ต.1คนผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน1คนเป็นพยานการซื้อชาย.และเมื่อทางกรมป่าไม้ได้สำรวจเอกสารสิทธิ์ทำกินผู้ซื้อได้ยื่นของเอกสารสิทธิ์ในปี2552.ซึ่งในขณะนี้เอกสารอยู่ในระหว่างรออนุมัติต่อมาในป่ลายปี2554ผู้ซื้อทราบว่ามีบุคคลอื่นเข้าไปบุกรุกและปลูกยางในพื้นที่นั้นประมาณ10ไร่ผู้ซื้อได้แจ้งต่อผู้ใหญ่บ้าน(อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่เซ็นพยาน)ทราบ.และได้ให้ผู้ขายชี้แนวเขตใหม่ปรากฎว่าการชี้แนวเขตในครั้งนี้ไม่ตรงกับการชี้ครั้งแรกที่ซื้อขายกันทำให้ที่ดินที่ผู้ซื้อขาดหายไปประมาณ10ไร่ดังนั้นจึงอยากทราบว่ากรณีเช่นนี้สามารถฟ้องคดีฉ้อโกงได้หรือไม่

 



ผู้ตั้งกระทู้ อ้อ (oo-1505-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2012-05-06 11:20:04


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2271988)

 ในกรณีดังกล่าวเป็นการซื้อขายที่ดินมือเปล่า ไม่มีการจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ดิน สมบูรณ์ต่อเมื่อส่งมอบการครอบครอง เมื่อทางผู้ขายชี้แนวเขตให้แล้วคุณไม่เข้าครอบครองทำแนวเขตไว้ให้ชัดเจนเมื่อมีบุคคลอื่นมาแย่งการครอบครอง และคุณในฐานะเจ้าของไม่ได้ฟ้องเรียกคืนการครอบครองภายใน 1 ปี ย่อมหมดสิทธิเรียกคืน ส่วยข้ออ้างว่าการชี้แนวเขต 2 ครั้งไม่ตรงกันนั้นคงต้องดูที่สัญญาซื้อขายให้ละเอียด หากว่าตกลงจำนวนเนื้อที่ดินไว้แน่นอนแต่ส่งมอบไม่ครบถ้วน ก็อาจที่จะฟ้องร้องเรียกคืนเงินที่ชำระไปแล้วได้ แต่อย่างไรก็ตามก็เป็นความผิดของผู้ซื้อที่ซื้อที่ดินตั้งแต่ปี 2549 ทำไมเพิ่มมาทราบว่าแนวเขตไม่ถูกต้องเอาปี 2554 ซึ่งการซื้อขายที่ดินมือเปล่าหรือที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธินั้น สมบูรณ์เมื่อมีการส่งมอบการครอบครอง ดังนั้นคุณควรรู้ว่าที่ดินของคุณมีแนวเขตอยู่อย่างไร เมื่อทราบแล้วปล่อยละเลยให้ผู้อื่นมาบุกรุก คุณก็อาจเสียสิทธิครอบครองได้ เพราะไม่้มีหลักฐานยืนยันแนวเขตครับ สำหรับคำถามว่าสามารถฟ้องเป็นคดีฉ้อโกงได้หรือไม่ ผมเห็นว่าตามข้อเท็จจริงที่ให้มานั้นไม่น่าจะเป็นคดีอาญา เพราะคดีอาญาต้องพิสูจน์เจตนาตั้งแต่แรกว่ามีเจตนาจะฉ้อโกง ผมเห็นว่าเป็นการผิดสัญญาซื้อขายซึ่งเป็นคดีแพ่งเท่านั้นครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายลีนนท์ วันที่ตอบ 2012-05-09 09:16:52



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล