ReadyPlanet.com


สงสารสามีแต่ไม่แน่ใจในอนาคต


ดิฉันมีอาชีพรับราชการ แต่สามีมีลูกติดกับเมียเก่า ซึ่งเขาบอกว่าไม่ได้รักกันแต่มีลูกด้วยกัน 2 คน และไม่ได้จดทะเบียน แล้วเขาบอกว่ารักดิฉันๆ จึงบอกว่าตัวดิฉันเองเป็นข้าราชการอย่าให้ต้องเดือดร้อนเพราะเรื่องปัญหากับเมียเก่าเขา คือ ผุ้หญิงไม่อยากมีอะไรกับผู้ชายแล้ว ดิฉันคิดว่าถ้าจดทะเบียนกันฝ่ายหญิงจะไม่สามารถเอาผิดอะไรดิฉันได้ และเราตกลงกันว่าไม่หวังทรัพย์สินซึ่งกันและกันเนื่องจากฐานะฝ่ายชายไม่ดีเลย ทำงานที่ไม่แน่นอน แต่เพราะความสงสารในตอนนั้นจึงทำให้ตัดสินใจจดทะเบียน แต่พออยู่ด้วยกันมาจะครบ 1 ปีแล้วมันมีปัญหามากๆ คือ ดิฉันยอมให้เขาดูแลเมียเก่าเขาเพราะลูกอยู่กับย่าและด้วยงานเขาไม่สามารถเลี้ยงดูแม่และลูกเขาได้ จึงได้แต่หาเงินส่งเสีย ที่สำคัญดิฉันได้กู้เงินซื้อรถไถรับจ้างเพราะเชื่อคำพูดเขาว่าได้เงินดี แต่ปัญหาของผู้ชายยังมีตลอดค่าเลี้ยงดูไม่ได้ให็เพราะขนาดให็ลูกยังไม่มี ดิฉันช่วยด้วยการทำบัตรกดเงินสดให้ ใช้ในการซ่อมรถเพื่อหาเงินให้ลูกๆ  ดิฉันมีชื่อเป็นลูกหนี้สถาบันการเงินและธนาคารหลายแห่ง  แต่ผู้ชายไม่มีเครดิตไม่มีเงินเดือนทำอะไรไม่ได้ กำลังมีปัญหากันอยู่ ที่พูดกันคือรถไถที่ดิฉันซื้อดาวน์และกำลังผ่อนอยู่เมื่อผ่อนจบก็เป็นของดิฉัน ไอ้สงสารมันมีแต่พอคิดถึงตัวเองถึงอนาคตที่ตอนนี้ต้องไม่มีลูกกัน จะหาทรัพย์สินอะไรก็เหมือนว่าดิฉันจะต้องหาเองใช้เงินตัวเองผ่อนแต่ว่าตามกฏหมายกลัวว่ามันจะเป็นสินสมรส ถ้าเขาไม่ทำตามที่พูดไว้มันก็ไม่ยุติธรรมสำหรับดิฉัน จึงขอถามผู้รู้ดังนี้

 

1. กรณีที่ดิฉันทำนิติกรรมต่างๆ ระบุว่าโสดเพราะไม่อยากให้เขาต้องชำระหนี้สินของตนเอง และให้แม่เป็นผู้รับประโยชน์และชดใช้หนี้ให้หากดิฉันเสียชีวิตไปก่อน กรณีเช่นนี้ ผิดและทำได้/ไม่ได้อย่างไรคะ

2. กรณีที่ฝ่ายชายไม่ได้รับทราบการกู้หนี้ยืมสินของดิฉันนั้น เขาไม่ต้องรับผิดชอบในหนี้ที่ดิฉันจะทำใช่หรือไม่คะ

3. ตอนก่อนแต่งไม่ได้ทำสัญญาอะไรเป็นลายลักษณ์อักษรเพราะคิดว่ามันน่าจะไม่มีปัญหา แต่ว่าหากจะทำในภายหลังสามารถทำได้มั๊ยคะ และต้องทำอย่างไรบ้าง

4. การที่จะระบุว่า อะไรเป็นสินสมรส ระหว่างคู่สามีภรรยา สามารถทำเป็นหนังสือแจ้งไว้เป็นหลักฐานได้มั๊ยคะ ถ้าเกิดว่าสองคนตกลงกันได้ว่า อะไรเป็นของที่ช่วยกันซื้อ และอะไรที่หาได้จากการงานก็เป็นของส่วนตัวไป การรับผิดชอบเลี้ยงดูก็ต้องมีเล็กน้อย

5. หรือว่ามีวิธีการทำให้ทรัพย์สินที่หาได้จากเงินของดิฉันเองจะไม่เป็นสินสมรสมั๊ยคะ เพราะไม่เคยคิดเอาเปรียบผู้ชาย และก็ไม่อยากให้ใตรมาชุบมือเปิบจากความเหนื่อยล้าและมันสมองของเรา 

ขอขอบพระคุณผู้รู้ทุกท่านค่ะ

 

 



ผู้ตั้งกระทู้ ผู้ไม่อยากเสียเปรียบ :: วันที่ลงประกาศ 2012-05-22 21:00:43


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2279407)

1. กรณีที่ดิฉันทำนิติกรรมต่างๆ ระบุว่าโสดเพราะไม่อยากให้เขาต้องชำระหนี้สินของตนเอง และให้แม่เป็นผู้รับประโยชน์และชดใช้หนี้ให้หากดิฉันเสียชีวิตไปก่อน กรณีเช่นนี้ ผิดและทำได้/ไม่ได้อย่างไรคะ

ตอบ - ผมไม่เข้าใจคำถามจริง  ๆ ครับ คุณทำนิติกรรมอะไร ระว่าโสดนั้น คุณยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับเขาก็ถูกต้องแล้วที่ยังมีสถานะโสดในขณะทำนิติกรรม ให้แม่เป็นผู้รับประโยชน์ตรงนี้มีระบุที่ไหนครับเอกสารอะไร หรือคุณหมายถึงทำพินัยกรรมยกสิทธิการเช่าให้แม่ คำถามของคุณในตอนท้ายถามว่า กรณีเช่นนี้ผิดและทำได้อย่างไร?  ผมว่าอย่างน้อยผู้ที่เป็นคู่สัญญาคงได้ให้คำแนะนำให้คุณได้บ้าง หรือหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมโทร 0859604258

2. กรณีที่ฝ่ายชายไม่ได้รับทราบการกู้หนี้ยืมสินของดิฉันนั้น เขาไม่ต้องรับผิดชอบในหนี้ที่ดิฉันจะทำใช่หรือไม่คะ

ตอบ - เขาไม่ใช่คู่สัญญา ไม่ใช่ลูกหนี้ เขาจึงไม่ต้องรับผิดชำระหนี้ใด ๆ คุณเข้าใจถูกต้องแล้วครับ

3. ตอนก่อนแต่งไม่ได้ทำสัญญาอะไรเป็นลายลักษณ์อักษรเพราะคิดว่ามันน่าจะไม่มีปัญหา แต่ว่าหากจะทำในภายหลังสามารถทำได้มั๊ยคะ และต้องทำอย่างไรบ้าง

ตอบ - ในเรื่องการทำสัญญาก่อนสมรสคุณต้องระบุมาว่าคุณประสงค์จะทำสัญญาเกี่ยวกับเรื่องอะไร และคำว่า "ก่อนแต่ง" ของคุณคืออะไร เพราะในทางกฎหมายไม่สนใจว่าคุณจะจัดงานพิธีสมรสหรือไม่ สาระสำคัญอยู่ที่การจดทะเบียนสมรส เท่าที่ฟังมาคุณน่าจะยังไม่มีการจดทะเบียนสมรสนะครับ แต่หากจดทะเบียนสมรสกันแล้วไม่สามารถทำย้องหลังได้ครับ เพราะสัญญาก่อนสมรสต้องจดแจ้งไว้ในทะเบียนสมรสว่ามีข้อตกลงก่อนสมรสอย่างไร

มาตรา 1466 สัญญาก่อนสมรสเป็นโมฆะ ถ้ามิได้จดแจ้งข้อตกลงกันเป็น สัญญาก่อนสมรสนั้นไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับการจดทะเบียนสมรส หรือ มิได้ทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อคู่สมรสและพยานอย่างน้อยสองคนแนบไว้ ท้ายทะเบียนสมรส และได้จดไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับการจดทะเบียน สมรสว่าได้มีสัญญานั้นแนบไว้

4. การที่จะระบุว่า อะไรเป็นสินสมรส ระหว่างคู่สามีภรรยา สามารถทำเป็นหนังสือแจ้งไว้เป็นหลักฐานได้มั๊ยคะ ถ้าเกิดว่าสองคนตกลงกันได้ว่า อะไรเป็นของที่ช่วยกันซื้อ และอะไรที่หาได้จากการงานก็เป็นของส่วนตัวไป การรับผิดชอบเลี้ยงดูก็ต้องมีเล็กน้อย

ตอบ -  กฎหมายบัญญัติเอาไว้ว่า "สินสมรสคือทรัพย์ทุกชนิดที่คู่สมรสได้มาระหว่างสมรส ดังนั้นการที่คุณจะทำเป็นหนังสือว่า ทรัพย์ที่คู่สมรสได้มาในระหว่างสมรสให้เป็นสินส่วนตัวของฝ่ายใดนั้นไม่สามารถทำได้ครับ เว้นแต่จะได้ให้โดยเสน่หา และการให้โดยเสน่หาถือว่าเป็นสัญญาระหว่างสมรสที่คู่สมรสมีสิทธิบอกล้างได้เสมอ แต่ต้องภายใน 1 ปี นับแต่การสมรสสิ้นสุดลง

 มาตรา 1474 สินสมรสได้แก่ทรัพย์สิน
(1) ที่คู่สมรสได้มาระหว่างสมรส
(2) ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้มาระหว่างสมรสโดยพินัยกรรมหรือโดย การให้เป็นหนังสือเมื่อพินัยกรรมหรือหนังสือยกให้ระบุว่าเป็นสินสมรส
(3) ที่เป็นดอกผลของสินส่วนตัว
ถ้ากรณีเป็นที่สงสัยว่าทรัพย์สินอย่างหนึ่งเป็นสินสมรสหรือมิใช่ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นสินสมรส 

มาตรา 1469 สัญญาที่เกี่ยวกับทรัพย์สินใดที่สามีภริยาได้ทำไว้ต่อกัน ในระหว่างเป็นสามีภริยากันนั้น ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะบอกล้างเสียในเวลาใด ที่เป็นสามีภริยากันอยู่ หรือภายในกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่ขาดจากการ เป็นสามีภริยากันก็ได้ แต่ไม่กระบทกระเทือนถึงสิทธิของบุคคลภายนอก ผู้ทำการโดยสุจริต

5. หรือว่ามีวิธีการทำให้ทรัพย์สินที่หาได้จากเงินของดิฉันเองจะไม่เป็นสินสมรสมั๊ยคะ เพราะไม่เคยคิดเอาเปรียบผู้ชาย และก็ไม่อยากให้ใตรมาชุบมือเปิบจากความเหนื่อยล้าและมันสมองของเรา 

ตอบ - ที่คิดได้ตอนนี้คือ ไม่ต้องไปจดทะเบียนสมรส และทำสัญญากันไว้ว่า ทรัพย์สินรายการใดที่ได้มาระหว่างอยู่กินด้วยกัน (ไม่ได้จดทะเบียนสมรส) ให้ตกเป็นของฝ่ายใด เพื่อฟ้องกันเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถึงแก่ความตาย จะได้ไม่ยุ่งยากว่า ทรัพย์สินใดเป็นมรดกของผู้ตายหรือไม่?? 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายลีนนท์ วันที่ตอบ 2012-06-12 10:50:20



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล