 | |
สวัสดีค่ะ...รบกวนสอบถามค่ะ เป็นกรณีที่เรากู้ยืมเงินซื้อบ้านจาก ธอส.เมื่อปี 2540 และด้วยพิษเศรษฐกิจจึงได้หยุดชำระไปเมื่อปี 2544 และได้มีหมายศาลเป็นคดีดำยื่นฟ้องในปี 2545 และเปลี่ยนเป็นคดีแดงในปี 2545 เช่นเดียวกันค่ะ ตลอดเวลาไม่เคยไปขึ้นศาลเลยซักครั้งเดียว จนกระทั่งปี 2550 ได้รับแจ้งว่า บสก.เป็นผู้สวมสิทธิ์ต่อ..ผ่านมาปี 52 มีหมายบังคับคดีให้ยึดบ้านที่จำนองขายทอดตลาด...และในปี 53 ก็มีคนเข้ามาประมูลซื้อไปค่ะ ขอสอบถามค่ะว่า.. | |
ผู้ตั้งกระทู้ มะลิ :: วันที่ลงประกาศ 2012-08-22 22:40:00 |
| [1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2301270) | |
1. ตอนนี้ ปี 55 แล้ว ไม่ทราบว่าอายุความที่จะบังคับคดีและยึดทรัพย์อื่น ๆ เพื่อชำระหนี้หมดไปหรือยังคะ ตอบ - เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิบังคับคดีได้ภายใน 10 ปี นับแต่คดีถึงที่สุด ดังนั้นในคดีของคุณต้องดูว่าศาลอ่านคำพิพากษาในวันใด แล้วให้นับไปอีก 1 เดือนอันจะถือว่าคดีถึงที่สุด ตัวอย่างเช่น ศาลอ่านคำพิพากษาในวันที่ 14 ตุลาคม 2545 นับต่อไปอีก 1 เดือนคือ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2545 นับต่ออีก 10 ปีจึงควรเป็นวันที่ 12 พฤศจิกายน 2555 ซึ่งยังไม่ขาดอายุความ(สมมุติ) ครับ 2. บสก. เข้ามาสวมสิทธิ์แทน..หมายความว่า..เริ่มนับอายุความใหม่หรือไม่คะ ตอบ - ตามข้อ 1 ครับ เริ่มนับแต่วันที่คดีถึงที่สุด เพราะผู้รับโอนสิทธิต้องรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา คือสิทธิของเจ้าหนี้เดิมมีอยู่อย่างไร ก็รับไปเท่านั้น ไม่อาจเพิ่มสิทธิอันเป็นระยะเวลาในการบังคับคดีเพิ่มขึ้นไปมากกว่าเจ้าหนี้เดิมครับ 3. การนับอายุความที่บอกว่า..นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาให้เริ่มนับจากปีไหนคะ..เริ่มนับจากปีที่ทาง ธอส.ฟ้องคือปี 2545 หรือเปล่าคะ ตอบ - คำตอบตามข้อ 1 และ 2 ครับ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายลีนนท์0859604258 วันที่ตอบ 2012-09-15 13:58:59 | |
ความคิดเห็นที่ 2 (2301277) | |
บังคับคดีเมื่อล่วงพ้นเวลา 10 ปี นับวันที่ศาลมีคำพิพากษา | |
ผู้แสดงความคิดเห็น * วันที่ตอบ 2012-09-15 14:10:36 | |
| [1] |
