อยากทราบว่า ผู้ปกครองพาเด็กไปทำแท้ง(สถานที่ถูกกฏหมาย) ผิดหรือไม่ | |
ขอรบกวนถาม 1. ผู้ปกครอง พาลูกไปทำแท้ง (อายุระหว่าง 15 - 17ปี) โดยการยินยอมทั้งพ่อแม่ฝ่ายชาย-หญิง รวมทั้งเด็ก ผิดกฏหมายหรือเปล่าค่ะ ผู้ปกครองมีความผิดหรือเปล่าค่ะ ถ้าสถานที่ที่ทำถูกกฏหมายค่ะ
| |
ผู้ตั้งกระทู้ ผู้น้อย :: วันที่ลงประกาศ 2012-09-24 04:01:14 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2307445) | |
คนอุ้มท้องหรือมีครรภ์ทำให้ตนเองแท้งลูกโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ผู้ปกครองเป็นผู้สนับสนุน ให้ความช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกต้องได้รับโทษ 2 ใน 3 ครับ สำหรับที่ทำการถูกกฎหมายคงไม่มีหรอกครับ เว้นแต่แพทย์เห็นว่า---(1) จำเป็นต้องกระทำเนื่องจากสุขภาพของหญิงที่มีครรภ์ (2) หญิงมีครรภ์เนื่องจาก ถูกข่มขืนกระทำชำเรา แพทย์ไม่มีความผิด มาตรา 301 หญิงใดทำให้ตนเองแท้งลูก หรือยอมให้ผู้อื่นทำให้ตนแท้งลูก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ มาตรา 302 ผู้ใดทำให้หญิงแท้งลูกโดยหญิงนั้นยินยอม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำนั้นเป็นเหตุให้หญิงรับอันตรายสาหัสอย่างอื่นด้วย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้ง จำทั้งปรับ ถ้าการกระทำนั้นเป็นเหตุให้หญิงถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวาง โทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองหมื่นบาท มาตรา 303 ผู้ใดทำให้หญิงแท้งลูกโดยหญิงนั้นไม่ยินยอม ต้อง ระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำนั้นเป็นเหตุให้หญิงรับอันตรายสาหัสอย่างอื่นด้วย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่ สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท ถ้าการกระทำนั้นเป็นเหตุให้หญิงถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้อง ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาท ถึงสี่หมื่นบาท มาตรา 304 ผู้ใดเพียงแต่พยายามกระทำความผิดตาม มาตรา 301 หรือ มาตรา 302 วรรคแรก ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ มาตรา 305 ถ้าการกระทำความผิดดังกล่าวใน มาตรา 301 และ มาตรา 302 นั้น เป็นการกระทำของนายแพทย์และ
ช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกให้ผู้อื่นแท้งลูก พนักงานอัยการจังหวัดกระบี่ โจทก์อุทธรณ์ จำเลยที่ 1 และที่ 2 ฎีกา | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายลีนนท์0859604258 วันที่ตอบ 2012-10-12 20:15:59 |
ความคิดเห็นที่ 2 (4256808) | |
ข้อสอบความรู้ชั้นเนติบัณฑิต ภาคหนึ่ง สมัยที่ ๗๐ ปีการศึกษา ๒๕๖๐ ข้อ ๖. นายแพทย์สมชายแอบทำแท้งแก่หญิงที่ตั้งครรภ์โดยทั่วไป ต่อมาวันหนึ่งนางสาวสด ที่ตั้งครรภ์เพราะถูกข่มขืนขอร้องให้นายแพทย์สมชายทำแท้ง จึงรับทำแท้งให้ แต่เนื่องจากการปกปิดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโรคส่วนตัวของนางสาวสด แม้นายแพทยสมชายจะใช้ความระมัดระวังแล้ว นางสาวสดก็ยังถึงแก่ความตายเพราะการทำแท้ง นายกล้ามน้องชายนายแพทย์สมชายทราบว่านายสอดแอบเหฌ็นการทำแท้งดังกล่าวเกรงว่านายสอดจะนำเรื่องที่เห็นไปแจ้งแก่เจ้าพนักงานตำรวจ จึงแอบเข้าไปในเรือนแพของนายสอดที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยและข่มขู่ส่งเสียงเอะอะว่าถ้าเอาเรื่องที่เห็นไปเล่าให้ผู้ใดฟังจะฆ่าให้ตาย นายสอดแกล้งรับปากนายกล้ามจึงกลับไป ให้วินิจฉัยว่า นายแพทย์สมชายและนายกล้ามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาฐานใดหรือไม่
ธงคำตอบ
นายแพทย์สมชายไม่มีความผิดฐานทำให้หญิงแท้งลูกเป็นเหตุให้หญิงถึงแก่ความตายเพราะเป็นการทำแท้งเนื่องจากนางสาวสดถูกข่มขืนและยินยอมให้ทำตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๐๕ (๒)
ส่วนนายกล้ามเข้าไปอยู่ในเรือนแพอันเป็นที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นเคหสถานของนายสอดแล้วข่มขู่ส่งเสียงเอะอะนายสอดว่าถ้านำเรื่องที่เกิดขึ้นไปเล่าให้ผู้ใดฟังจะฆ่าให้ตาย เป็นการข่มขืนใจว่าจะทำอันตรายต่อชีวิตของนายสอด เพื่อให้นายสอดไม่กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด จึงเป็นความผิดต่อเสรีภาพ เมื่อการรับปากของนายสอดมิใช่เกิดจากความกลัว จึงเป็นความผิดฐานพยายามข่มขืนใจผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๐๙ วรรคแรก ประกอบมาตรา ๘๐
การที่นายกล้ามเข้าไปในเรือนแพอันเป็นเคหสถานของนายสอด ข่มขู่และส่งเสียงเอะอะเป็นการกระทำที่ไม่มีเหตุอันสมควร นายกล้ามมีความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๔ อีกบทหนึ่งด้วย การเข้าไปในเรือนแพ แม้เป็นการรบกวนการครอบครอง แต่เรือนแพมิใช่อสังหาริมทรัพย์ นายกล้ามจึงไม่มีความผิดฐานบุกรุก ตามมาตรา ๓๖๒ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ โทร. 0859604258 วันที่ตอบ 2018-06-08 20:00:51 |
[1] |