 | |
ดิฉันกับสามีซึ่งไม่ได้จดทะเบียนสมรสและไม่ได้แต่งงานตามประเพณี ดิฉันต้องแยกกันอยู่เนื่องจากดิฉันทำงานประจำและมีภูมิลำเนาอยู่ลพบุรี นานๆจะกลับไปบ้านสามี ดิฉันชวนให้เขามาอยู่หางานทำที่ลพบุรี แต่เขาไม่มาเนื่องจากเข้ากับญาติดิแฉันไม่ได้ในช่วงปีแรกได้ออกความคิดร่วมกันว่าจะเปิดร้ายขายของเล็กๆในที่ดินของพ่อสามีที่ จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นที่ สปก. ติดกันกับบ้านของพ่อเขา กลายเป็นไม่ใช้ร้านเล็ก แต่เหมือนทาวเฮาน์เล็กๆ โดยพ่อของเขาเป็นคนลงมือสร้างเอง ตัวลูกชายไม่มีส่วนร่วมในการสร้างเนื่องจากทำอะไรไม่เป็น ส่วนดิฉันมีหน้าที่จ่ายเงินค่าวัสดุและค่าจ้างบางส่วน ก็ทำการขายของได้แค่ 3 เดือน ก็เจ้งเนื่องจากลูกชายของเขาไม่สนใจทำมาหากิน เราอาศัยไฟฟ้าที่เชื่อมมาจากบ้านของพ่อเขา ดิฉันเลยตัดความรำคาญ ชวนไปแจ้งบ้านเลขที่เพื่อขอไฟฟ้าต่อไป และได้ให้พ่อของเขาแสดงความยินยอมให้ลูกชายเขาปลูกสร้างบ้านบนพื้นที่ดังกล่าวตามขั้นตอนการขอบ้านเลขที่ ที่ไม่ให้พ่อแกระบุชื่อเป็นดิฉัน เพราะเกรงว่าเขาจะคิดว่าดิฉันอยากได้ที่ของเขา ดังนั้นเมื่อขอบ้านเลขที่ และให้มีชื่อสามีฉันเป็นเจ้าบ้าน ดิฉันเองไม่อยากเป็นเจ้าบ้านเพราะเกรงว่าหากพาเพื่อนมามั่วสุมในบ้านจะเป็นเรื่อง เมื่อยู่กันต่อมาอีก 2-3 ปี สามีเริ่มเสพยา กินเหล้าไม่ทำมาหากินหนัก ดิฉันเองก็ต้องอยู่ทำงานเลี้ยงลูกของดิฉันที่ลพบุรีเหมือนเดิม(ลูกกับสามีเก่าค่ะ) ฉันต้องการปิดบ้านไม่ให้เขาอยู่เพราะนำพามาแต่ความเดือนร้อนให้ทั้งฉันและพ่อแม่ของเขาที่ต้องวิ่งไปประกันตัวทั้งเรื่องยาเรื่องปืน ดิฉันเลยสงสัยว่าตกลงใครเป็นกรรมสิทธิ์ของบ้านกันแน่ ทั้งที่ เงินที่สร้างมันของดิฉันทั้งหมด เขาไม่เคยหาเงินเองได้ หรือเวลาหาเองได้ก็ไม่เคยให้ทุนฉันคืน ทั้งลงทุนขายของทั้งทำนาหายวับไปกับตา ข้างรอบบ้านต่างรู้สรรพคุณ ตอนนี้เลยกลายเป็นแย่งบ้านกัน ถึงดิฉันจะไม่ได้อยู่ แต่เขาไม่ได้มีส่วนร่วมสร้างร่วมทำมาหากินกับดิฉันเลย เขาก็ไม่ควรมีสิทธิ์ที่จะอยู่ด้วยเหมือนกัน รบกวนท่านผู้รู้ช่วยตอบด้วยนะคะ | |
ผู้ตั้งกระทู้ แก้มบุ๋ม :: วันที่ลงประกาศ 2013-02-16 18:02:11 |
| [1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2335214) | |
พฤติการณ์โดยรวมฟังได้ว่า คุณเป็นสามีภรรยากัน แม้ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ไม่ได้แต่งงานตามประเพณี แต่มีเจตนาที่จะอยู่กันในลักษณะสามีภรรยา สิ่งปลูกสร้าง (ร้านขายของ) ที่ปลูกอยู่ในที่ดินของบิดาสามีโดยได้รับอนุญาตจึงไม่เป็นส่วนควบกับที่ดิน แต่เป็นทรัพย์สินที่คุณและสามีเป็นเจ้าของร่วมกัน แม้ในความเห็นของคุณจะเข้าใจว่าสามีไม่ได้มีส่วนร่วมสร้างร่วมทำมาหากิน แต่นั่นคือความเข้าใจของคุณ เพราะอย่างน้อยที่ดินก็เป็นของบิดาสามี คุณไม่ได้ทำสัญญาเช่าและจ่ายค่าเช่า การใช้ประโยชน์โดยพ่อสามีไม่คิดค่าใช้ประโยชน์ก็ด้วยเห็นแก่สามีคุณ อีกทั้งยังได้ความจากคำบอกเล่าของคุณว่าพ่อของเขาเป็นคนลงมือสร้างโดยไม่ปรากฏว่าคิดค่าแรงในการก่อสร้างแต่อย่างใด ดังนั้นในความเห็นแล้ว ควรเป็นเจ้าของร่วมกันระหว่างคุณกับสามีครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายลีนนท์0859604258 วันที่ตอบ 2013-02-17 10:02:38 | |
ความคิดเห็นที่ 2 (2335454) | |
ขอบคุณมากๆค่ะ เข้าไปอ่านในทุกคำถาม และคำตอบทำให้ได้ความรู้มากมายค่ะ ดิฉันจึงสรุปว่า ดิฉันและสามีต่างมีสิทธิ์ที่จะอยู่อาศัยโดยต่างฝ่ายต่างไม่มีสิทธิ์ไล่ใครออกจากบ้าน หากวันใดเลิกลากันไปสามีต้องการกรรมสิทธิ์ในบ้านแต่เพียงผู้เดียว ดิฉันอยากให้เขาจ่ายค่าปลูกสร้างที่ฉันเสียไปทั้งหมดคืน ได้หรือไม่ และหากเขาหาเงินมาจ่ายไม่ได้ จะหาทางออกยังไงดีคะ เพราะนอกจากเราจะเสียใจ เสียเวลา เสียความรู้สึกแล้ว ยังเสียเงินมันจ่าเจ็บใจค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แก้มบุ๋ม วันที่ตอบ 2013-02-18 10:10:59 | |
ความคิดเห็นที่ 3 (2335790) | |
หากไม่สามารถตกลงกันได้ก็ต้องขายให้บุคคลภายนอกไป หรือ ขายทอดตลาด แล้วนำเงินมาแบ่งกัน ปัญหาว่าจะขายได้หรือไม่ เป็นปัญหาใหญ่เพราะผู้ซื้อก็ต้องรื้อสิ่งปลูกสร้างนี้ไป และวัสดุที่รื้อออกไปยังประเมินไม่ได้ว่าจะสามารถใช้งานได้มากน้อยเพียงใด หากจะให้ง่ายก็ตีราคาจ่ายส่วนของเขาไปแล้วรื้อ หรือให้เขาจ่ายส่วนของเราแล้วไม่ต้องรื้อถอน แม้จะเสียใจ เสียเวลา เสียความรู้สึก ก็ต้องเดินหน้าต่อไป ปัญหาทำนองเดียวกันนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับคุณคนเดียว เป็นเรื่องปกติที่เวลาดีกันอะไรก็ง่าย ๆ พอไม่พอใจกัน เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็รู้สึกว่าได้เปรียบเสียเปรียบกัน ขอแสดงความคิดเห็นเพียงเท่านี้ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายลีนนท์0859604258 วันที่ตอบ 2013-02-19 13:14:26 | |
| [1] |
