 | |
ดิฉันอาศัยอยู่กับย่ามาตั้งแต่แรกเกิด (ย่ามีลูก 1 คน คือ พ่อดิฉัน แต่เขาไม่ได้เลี้ยงดูย่าและดิฉัน พ่อมีลูกต่างมารดากับฉันอีก 3 คน) และย่าได้บอกว่าจะยกที่ดิน (สค 1) เพื่อให้ฉันไว้ทำมาหากิน โดยเป็นที่ดินใช้ปลูกสวน และที่ดินดังกล่าวชื่อผู้ที่แจ้งการครอบครองเป็นพ่อของย่า (ทวด เสียชีวิตไปแล้ว) ซึ่งย่าได้มอบให้ฉันโดยวาจา เพราะย่าเคยไปขอยื่นออกโฉนดให้เป็นชื่อของดิฉัน แต่ปรากฎว่าออกโฉนดได้เพียงบางส่วน (ออกโฉนด ปี 2542) ส่วนที่เหลือเป็น สค.1 ที่ยังเป็นชื่อของทวดอยู่ ซึ่งย่าคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร ก็เลยไม่ได้ดำเนินการยื่นขอให้ออกโฉนดในส่วนที่เหลือ ย่าและดิฉันก็ช่วยกันปลูกสวนในพื้นที่ดังกล่าวมาตลอด ต่อมาเมื่อ ปี 2547 ย่าเสียชีวิตลง ดิฉันก็ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ผืนนั้นโดยสงบและเปิดเผยควบคู่กับผืนที่ออกโฉนดเป็นชื่อดิฉันแล้วมาตลอด โดยที่พ่อก็ไม่เคยคัดค้านหรือแย่งการครอบกลับไปแต่อย่างใด แต่เมื่อตอนต้นเดือนที่ผ่านมาพ่อของฉันได้บอกว่าเขายื่นเป็นผู้จัดการมรดกและตอนนี้เขาก็ได้เป็นผู้จัดการมรดกแล้ว และมาสั่งให้ฉันหยุดการทำมาหากินบนที่ดินผืนนั้น เขาจะเอาในส่วนที่ยังไม่ได้ออกโฉนดคืน (ดิฉันและพ่อ เราไม่เคยพูดกัน คงไม่มีโอกาสที่จะไกล่เกลี่ย) อยากเรียนถามท่านทนายว่าดิฉันมีสิทธิ์ที่จะแย้งคำสั่งของผู้จัดการมรดกหรือไม่เพราะที่ สค 1 เป็นเพียงการถือสิทธิ์ครอบครอง ถ้าดิฉันถือครองมานานเกิน 10 ปีแบบนี้ จะมีช่องทางที่จะรักษาที่ผืนนี้ไว้ได้หรือไม่คะ....ขอบพระคุณค่ะ | |
ผู้ตั้งกระทู้ ฉ่ำหวาน :: วันที่ลงประกาศ 2013-02-11 10:55:44 |
| [1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2334229) | |
ในเรื่องที่ดินตาม ส.ค. 1 นั้น เป็นที่ดินที่มีเพียงสิทธิครอบครอง เมื่อเจ้าของที่ดินเสียชีวิตย่อมตกทอดแก่ทายาท คือย่า เมื่อย่าได้ครอบครองในฐานะผู้รับมรดกของทวด และได้ยกให้คุณแล้ว คุณย่อมเป็นผู้มีสิทธิครอบครอง ที่ดิน ส.ค. 1 จึงไม่ใช่มรดกของทวดแล้วแม้จะยังมีชื่อของทวดอยู่ก็ตาม แต่อย่างไรก็ตามเรื่องในทำนองนี้คงลำบากที่การพิสูจน์ เพราะต่างฝ่ายก็จะอ้างข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชย์ต่อฝ่ายของตน และเมื่อเป็นพ่อลูกกันยิ่งเป็นเรื่องที่น่าหนักใจยิ่งนัก แม้พ่อไม่เคยอุปการะเลี้ยงดูเรามาก็ตาม แต่ก็เป็นผู้ให้กำเนิด อย่างไรเสียก็อยากให้พูดคุยกันดีกว่า เป็นคดีขึ้นโรงขึ้นศาลก็เป็นที่น่าอายอยู่ไม่น้อย หากมีข้อสงสัยก็โทรศัพท์มาสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 085 9604258
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายลีนนท์0859604258 วันที่ตอบ 2013-02-12 22:08:35 | |
ความคิดเห็นที่ 2 (2334314) | |
ขอบคุณมากค่ะคุณทนาย เพราะเห็นว่าพ่อมีบุญคุณที่ให้กำเนิด ที่สำคัญเขาก็เป็นลูกของคนที่ดิฉันรักและมีบุญคุณต่อฉันมากที่สุด นั่นก็คือ ย่า จึงไม่เคยเรียกร้องสิ่งใด แต่ในกรณีนี้ขอบอกตรงๆ ว่าบั่นทอนจิตใจมากๆค่ะ.. เขาบอกว่าจะฟ้องต่อศาลว่าฉันเป็นลูกเนรคุณ จะยืดคืนทรัพย์สินที่ย่าเคยมอบให้ ..... ปล. ด้วยความสัตย์จริง ฉันคิดว่าคงไม่ใช่ความคิดของพ่อเพียงคนเดียวแล้วมั้งคะ (เขามีครอบครัวใหม่) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ฉ่ำหวาน วันที่ตอบ 2013-02-13 09:18:46 | |
ความคิดเห็นที่ 3 (2335791) | |
อะไรพอจะให้ผ่าน ๆ ไปได้บ้างก็ลืม ๆ ไปบ้างก็ดีครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายลีนนท์0859604258 วันที่ตอบ 2013-02-19 13:16:59 | |
| [1] |
