การครอบครองปรปักษ์จะต้องได้ความว่า การเข้ามาครอบครองนั้นไม่ได้อาศัยสิทธิของใคร คือแสดงตนมาแย่งการครอบครอง ไม่ใช่มาอาศัยโดยสิทธิของบุตรหรือสามีของคุณ จึงยังไม่ได้เริ่มนับการครอบครองปรปักษ์ แต่จะเริ่มนับเมื่อมีการโต้แย้งสิทธิของคุณคือให้ทำสัญญาเช่าก็ไม่ยอมทำ ให้ทำเอกสารครอบครองแทนก็ไม่ยอมทำ อย่างนี้ถือว่าแสดงโดยเปิดเผย ว่าเจตนาจะเป็นเจ้าของ ถ้าคุณไม่รีบฟ้องขับไล่ ก็ถือว่าอยู่โดยสงบ ครบ 10 ปี ก็ได้กรรมสิทธิ์ ดังนั้นเพื่อรักษาสิทธิของคุณจึงควรดำเนินการฟ้องร้องแล้วค่อยไปว่ากันในชั้นศาล เช่นทำสัญญาประนีประนอมยอมว่า ให้อยู่โดยไม่คิดค่าเช่าเป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากข้อเท็จจริงแจ้งมาเพียงว่าคุณเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ก็ไม่ทราบว่าเข้าข้อสันนิษฐานของกฎหมายหรือไม่ว่าเป็นสินสมรส เพราะไม่ว่าจะมีชื่อของคุณเป็นเจ้าของ แต่ทรัพย์สินนั้นได้มาระหว่างสมรส กฎหมายก็ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นสินสมรส หากฟังยุติว่าเป็นสินสมรส แม่ของสามีก็มีสิทธิในทรัพย์มรดกของสามีด้วยครับ