ReadyPlanet.com


คนอยากหย่า


ผมทำงานเป็นข้าราชการผมมีภรรยาเก่ามีลูก 3 คนจดทะเบียนสมรสกันผมต้องแยกกันอยู่เพราะผมอยู่ด้วยกันไม่ได้เพราะเธอไม่ยอมให้ผมมีอะไรกับเธอเลยตั้งแต่รู้จักกันที่มีลูกเพราะผมขืนใจเธอ เธอร้องเรียนผมแล้วจะฟ้องผมเพราะตกลงกันไม่ได้เธอเรียกเงินผมเป็นก้อนแล้วค่ารายเดือนอีกเดือนละ 4000 บาทแต่ผมไม่ยอมเพราะเงินผมที่เข้าบัญชีมีเพียง 6000 บาทและผมก็มีภรรยาใหม่แล้ว ผมขอหย่าหลายครั้งแล้วเธอไม่ยอม ผมแยกกันอยู่ได้ 2 ปีกว่าแล้ว ผมจะมีสิทธิ์ชนะไหมครับแล้วผมต้องทำอย่างไร


ผู้ตั้งกระทู้ ชัย :: วันที่ลงประกาศ 2008-01-29 16:58:02


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1615222)

การฟ้องหย่าต้องเข้าหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดเหตุหย่าไว้เท่านั้น

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 1516 เหตุฟ้องหย่ามีดังต่อไปนี้
(1) สามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี เป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(2) สามีหรือภริยาประพฤติชั่ว ไม่ว่าความประพฤติชั่วนั้นจะเป็นความ ผิดอาญาหรือไม่ ถ้าเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่ง
(ก) ได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรง
(ข) ได้รับความดูถูกเกลียดชังเพราะเหตุที่คงเป็นสามีหรือภริยาของฝ่าย ที่ประพฤติชั่วอยู่ต่อไป หรือ
(ค) ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินควร ในเมื่อเอาสภาพฐานะ และความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ
อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(3) สามีหรือภริยาทำร้าย หรือทรมานร่างกายหรือจิตใจ หรือหมิ่น ประมาทหรือเหยียดหยามอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุพการีของอีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ ถ้าเป็นการร้ายแรง อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(4) สามีหรือภริยาจงใจละทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไปเกินหนึ่งปี อีกฝ่ายหนึ่ง นั้นฟ้องหย่าได้
(4/1) สามีหรือภริยาต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และได้ถูกจำคุก เกินหนึ่งปีในความผิดที่อีกฝ่ายหนึ่งมิได้มีส่วนก่อให้เกิดการกระทำความผิด หรือยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้นด้วย และการเป็นสามี ภริยากันต่อไปจะเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกิน ควร อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(4/2) สามีและภริยาสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกัน ฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกินสามปี หรือแยกกันอยู่ตามคำสั่งของ ศาลเป็นเวลาเกินสามปี ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(5) สามีหรือภริยาถูกศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ หรือไปจากภูมิลำเนา หรือถิ่นที่อยู่เป็นเวลาเกินสามปี โดยไม่มีใครทราบแน่ว่าเป็นตายร้ายดีอย่าง ไร อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(6) สามีหรือภริยาไม่ให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งตาม สมควร หรือทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีหรือภริยากันอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ถ้าการกระทำนั้นถึงขนาดที่อีกฝ่ายหนึ่งเดือดร้อนเกินควรในเมื่อเอา สภาพ ฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ อีกฝ่าย หนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(7) สามีหรือภริยาวิกลจริตตลอดมาเกินสามปี และความวิกลจริตนั้นมี ลักษณะยากจะหายได้ กับทั้งความวิกลจริตถึงขนาดที่จะทนอยู่ร่วมกัน ฉันสามีภริยาต่อไปไม่ได้ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(8) สามีหรือภริยาผิดทัณฑ์บนที่ทำให้ไว้เป็นหนังสือในเรื่องความ ประพฤติอีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(9) สามีหรือภริยาเป็นโรคติดต่ออย่างร้ายแรงอันอาจเป็นภัยแก่อีกฝ่าย หนึ่งและโรคมีลักษณะเรื้อรัง ไม่มีทางที่จะหายได้ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(10) สามีหรือภริยามีสภาพแห่งกายทำให้สามีหรือภริยานั้น ไม่อาจร่วม ประเวณีได้ตลอดกาล อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

ตามข้อเท็จจริงที่เล่ามาแม้คุณมีข้ออ้างว่าภริยาไม่ให้ร่วมประเวณีนั้น แม้จะเข้าเหตุหย่าตาม (6)...ทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีหรือภริยากันอย่างร้ายแรง...ก็ตาม  ถ้าสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นจริงก็มีสิทธิชนะคดี

ตามที่คุณเล่ามานั้นคุณหนีไปมีหญิงอื่นซึ่งอาจทำให้เขามีสิทธิฟ้องหย่าและเรียกค่าเสียหายจากคุณได้ครับ และสามารถเรียกค่าทดแทนจากหญิงที่เป็นชู้จากสามีของเขาได้อีกด้วยครับ

กรณีที่คุณมีรายได้เข้าบัญชีเพียงเดือนละ 6,000 บาท นั้นอาจยังสรุปไม่ได้ว่าคุณมีรายรับต่อเดือนเท่าไร ศาลคงต้องไต่สวนต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2008-01-30 15:52:08



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล