เมื่อประมาณ40ปีที่แล้วที่บ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้นโดยบิดาของโจทก์ เพื่อให้เช่า เดือนละ 1,500 บาทโดยไม่มีสัญญาเช่า แล้วให้คุณปู่ของดิฉันเป็นเจ้าบ้านโดยให้คุณปู่ของดิฉันเป็นผู้ดูแลบ้านเองซ่อมแซมทุกอย่างเอง หาผู้มาเช่าเองต่อมา 1 พ.ค. 2534 บิดาของโจทย์ได้ถึงแก่ความตาย และได้ยกที่ดินนี้ให้เป็นมรดกแก่โจทก์ ทางคุณปู่ก็ได้ชำระค่าเช่าแก่มารดาของโจทก์เรื่อยมา ในวันที่ 30 มีนา 2551 คุณปู่เสียชีวิตลง ดิฉันและครอบครัวก็อยู่อาศัยกันตามเดิมโดยสิทธิเจ้าบ้านตกเป็นของบิดาของดิฉัน และก็ยังชำระค่าเช่าให้ตามเดิม

              ต่อมาในช่วงปลายเดือนสิหา 2555 โจทก์ได้เข้าแจ้งความเรียกเ็ก็บค่าเช่าจาก1500เป็น2800และให้อยู่ที่บ้านหลังนี้ได้จนถึงปลายเดือนมีนา 2556 ภายในเดือนกันยายน 2555 ได้ชำระค่าเช่าแก่โจทก์ 2000 บาทจากนั้นก็ไม่ได้ชำระค่าเช่าอีกเลย

              โจทก์ไม่พึงประสงค์จะให้จำเลยอยู่อีกต่อไปจึงให้ทนายมีหนังสือแจ้งให้พวกดิฉันย้ายอกไปโดยไม่ได้ให้ค่าขนย้าย

              โจทก์อ้างว่าที่ดินที่พวกดิฉันอยู่เป็นทำเลที่ดีหากให้ผู้อื่นใช้ประโยชน์จากทางการค้าโจทก์จะมีรายได้ถึง 30,000 บาท ต่อเดือน โจทก์จึงต้องการมาเก็บค่าเสียหายแก่พวกดิฉัน 30,000 บาท ต่อเดือน พร้อมดอกเบี้ย ในอัตรา ร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันถัดจากวันครบกำหนดที่พวกดิฉันต้องย้ายออกโดยขอคิด ตั้งแต่ 9 เมษายน 2556 จนกว่าพวกดิฉันจะย้ายออก จนเสร็จค่าเสียหายคิดถึงวันฟ้อง เป็นเวลา 1 เดือน 11 วัน คิดเป็นเงิน 41,000 บาท

เพราะฉะนั้นศาลจึงออกหมายเรียกตัวมาพิจาราณาพิพากษาต่อไปนี้

1. ขอให้พวกดิฉันย้ายออกโดยส่งมอบอาคารสิ่งปลูกสร้างในสภาพเรียบร้อย(ซึ่งบ้านที่ดิฉันอยู่มาก็อายุ 45 ปีแล้ว โทรมมากโดยชั้นบนไม่สามารถอยู่ได้เลยทั้งฝ้า+ฝาผนังหลุด50%ไม่สามารถอยู่อาศัยได้ พวกดิฉันอยู่เฉพาะชั้นล่างคะ)

2. ให้พวกดิฉันชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ 41,000 บาทนับถัดจากวันฟ้อง

3.ให้พวกดิฉันชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ในอัตราเดือนละ 30,000 บาท จนกว่าจะย้ายออก

4.ให้จำเลยชำระค่า ฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความแทนโจทก์

คำถาม

1. โจทก์ฟ้องบิดาของดิฉันแล้วดิฉันจะสามารถสู้คดีอย่างไรได้บ้างคะ

2.ทำไมค่าเสียหายต้องมาจ่ายซ้ำๆกัน

3.ฐานะครอบครัวทางบ้านดิฉันยากจนถ้าต้องขึ้นศาล จำเลยจะยื่นอุทธรณ์อย่างคนอนาถาได้มั้ยคะแล้วมีขั้นตอนอย่างไรบ้างคะ