1.ถ้าทำพิธีขอขมาตามที่ตกลงกันแล้ว ต่อไปฝ่ายชายเลิกราไป ยังมีความผิดพรากผู้เยาว์หรือไม่

ตอบ - ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ไม่ได้กำหนดเงื่อนไขว่า หากมีการขอขมาแล้ว จะทำให้การกระทำความผิดได้รับยกเว้นโทษ แต่พิจารณาว่า กระทำความผิดสำเร็จแล้วหรือไม่ ได้แจ้งความร้องทุกข์แล้วหรือไม่ ครบองค์ประกอบความผิดแล้วหรือไม่ ดังนั้นตามคำถาม พอพิจารณาได้ว่า แม้จะมีการตกลงกันว่าจะขอขมา ก็ไม่ทำให้คดีอาญาระงับไปครับ ความผิดฐานพรากผู้เยาว์ก็ยังอยู่ครับ

2.หลังทำพิธีขอขมาแล้วต้องรอให้เด็กครบ 18 ปีหรือบรรลุนิติภาวะก่อนจึงเลิกได้หรือไม่

ตอบ - ความผิดทางอาญา พิจารณาอายุขณะกระทำความผิด ดังนั้นเหตุคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเด็กอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ความผิดสำเร็จแล้ว ผู้กระทำความผิดต้องรับโทษตามกฎหมาย ซึ่งคดีนี้มีโทษจำคุก สูงสุด 10 ปี จึงมีอายุความ 15 ปี ดังนั้นแฟนคุณจะปลอดภัยจากการดำเนินคดีนี้เมื่อพ้น 15 ปี นับแต่วันเกิดเหตุพรากผู้เยาว์ครับ

มาตรา 319 ผู้ใดพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไป เสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี และ ปรับตั้งแต่สี่พันบาทถึงสองหมื่นบาท

มาตรา 95 ในคดีอาญา ถ้ามิได้ฟ้องและได้ตัวผู้กระทำความผิด มายังศาลภายในกำหนดดังต่อไปนี้ นับแต่วันกระทำความผิดเป็นอัน ขาดอายุความ
(1) ยี่สิบปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุก ตลอดชีวิต หรือจำคุกยี่สิบปี
(2) สิบห้าปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกกว่าเจ็ดปีแต่ ยังไม่ถึงยี่สิบปี
(3) สิบปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกกว่าหนึ่งปีถึงเจ็ดปี
(4) ห้าปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกกว่าหนึ่งเดือนถึง หนึ่งปี
(5) หนึ่งปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งเดือน ลงมาหรือต้องระวางโทษอย่างอื่น

3.หนูซึ่งอยู่กินกับแฟนหนูมาเป็น 10 ปี ต้องเลิกกับแฟนหนูหรือไม่

ตอบ - เมื่อมีการหมั้นกันแล้ว ก็คงไม่อาจไปมีความสัมพันธ์กับหญิงอื่นในระหว่างสัญญาหมั้นเพราะจะถือว่าผิดสัญญาหมั้นได้ แต่สำหรับคุณคงไม่เกี่ยวกับสัญญาหมั้น แต่สำหรับแฟนคุณอาจเป็นเหตุให้ฝ่ายหญิงแจ้งความดำเนินคดีเรื่องพรากผู้เยาว์ได้ตลอดระยะเวลา 15 ปี ครับ

4.การทำพิธีขอขมาต้องมีหลักฐานอะไรเก็บไว้หรือไม่ เพื่อแสดงว่าได้ทำตามความตกลงของฝ่ายหญิงแล้ว  เพื่อต่อไปฝ่ายหญิงจะไม่สามารถแจ้งความข้อหาพรากผู้เยาว์ได้อีก

ตอบ - สำหรับคำถามนี้เกี่ยวพันกับคำตอบตาม ข้อ 1 - 3.  คือ การขอขมาไม่ลบล้างความผิด แม้ได้ตกลงกันก็เป็นเรื่องระหว่างสามี กับพ่อแม่ของเด็ก แต่คดีนี้เป็นความผิดต่อแผ่นดิน ตำรวจมีอำนาจดำเนินคดีต่อไป และขอให้พนักงานอัยการส่งฟ้องคดีต่อศาลต่อไปได้ครับ ดังนั้นการขอขมาจึงไม่เกี่ยวกับคดีพรากผู้เยาว์ครับ

5. ถ้าไม่ทำพิธีขอขมาแฟนหนูมีความผิดข้อหาพรากผู้เยาว์หรือไม่ ทั้งที่เป็นการกระทำครั้งเดียวในบ้านฝ่ายหญิง หรือพอมีทางอื่นหรือไม่ค่ะที่ไม่ต้องติดคุกและไม่ต้องเข้าพิธีขอขมา แนะนำด้วยค่ะ

ตอบ - คดีพรากผู้เยาว์เป็นความผิดที่เกี่ยวกับการล่วงละเมิดอำนาจปกครองของบิดา มารดา ของเด็ก แม้เหตุเกิดที่บ้านของบิดา มารดา แต่บิดา มารดาของเด็กไม่ได้ยินยอมด้วยจึงมีความผิดแล้ว โดยไม่ต้องคำนึงว่าจะได้ขอขมาแก่บิดามารดาหรือไม่ จะทำครั้งเดียวหรือทำครึ่งครั้งก็สำเร็จแล้ว นอกจากนี้ยังเป็นความผิดตามบทมาตรา 283 ทวิ อีกด้วย

มาตรา 283ทวิ ผู้ใดพาบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ