ที่สามีคุณบอกอย่างนี้ก็เพราะ ถ้าคุณเชื่อเขา กลับเมืองไทยไป เขาสามารถ ฟ้องหย่าได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้ครบหนึ่งปี เป็นการฟ้องเพียงฝ่ายเดียว เพราะคุณจะไม่สามารถ มาปรากฏตัวเพื่อโต้แย้งในศาล วิธีนี้เขาเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่คุณเองนั่นแหละ จะตกที่นั่งลำบากหลายเรื่อง และถ้าคุณไม่มีใบหย่า ไปจากอเมริกา คุณก็จะต้องไปยื่นฟ้องต่อศาลในไทย เพื่อขอคำสั่งศาลให้หย่าได้ มิฉนั้น ประวัติของคุณก็จะยังเป็น “แต่งงาน” อยู่อย่างนั้น

ในกรณีนี้ ถ้าสามีจะให้เซ็น separation agreement คือข้อตกลง เรื่องการแยกกันอยู่ อย่าเพิ่งเซ็นเอกสารใดๆ โดยไม่ได้ปรึกษาทนาย เพราะอาจกลายเป็นว่า คุณสละสิทธิ์ในหลายๆ เรื่อง เนื่องจาก separation agreement จะมีข้อตกลงเรื่องสินสมรส และค่าเลี้ยงดู ฯลฯ รวมอยู่ด้วย ซึ่งข้อตกลงนี้จะใช้ต่อไปในชั้นศาล ถ้าคุณเซ็นรับเงื่อนไขนี้ พอถึงตอนหย่าเข้าจริง คุณไม่สามารถจะขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเป็นอื่นได้ เพราะถือว่าคุณ ยอมรับตรงนี้ไปแล้ว

อย่าเพิ่งย้ายออกไปอยู่กับเพื่อน หรืออยู่ที่อื่นโดยเด็ดขาด ยกเว้นแต่ว่า ถ้าการอยู่นั้นอาจเป็นอันตรายกับตัวเอง เช่นสามีเมา แล้วชอบอาละวาด ใช้กำลังทุบตีทำร้าย อย่างนี้ คุณควรติดต่อ บ้านพักฉุกเฉิน เพื่อขอความช่วยเหลือ สามีไม่มีสิทธิ์มาไล่คุณออกจากบ้าน ตราบใดที่การหย่า ยังไม่มีผลสมบูรณ์ตามกฏหมาย ถึงจะเป็นบ้านของเขาก็เถอะค่ะ ถ้าเขาไม่ให้เงินใช้ คุณก็หางานทำ ถ้าเขาไล่ ด่าทอ หรือทำร้ายร่างกาย ให้โทร 911 ทันที หรือถ้าเขาลากกระเป๋าคุณ ออกไปโยนไว้หน้าบ้าน คุณก็โทรเรียกตำรวจได้เลยค่ะ ถ้ามีการลงไม้ลงมือ คุณห้ามใจอ่อนเด็ดขาด แจ้งความ และดำเนินคดีด้วย ห้ามกลับเมืองไทย โดยที่ยังไม่ได้หย่า ให้เรียบร้อย อันนี้สำคัญมาก เพราะการทำนิติกรรม ข้ามประเทศ มีค่าใช้จ่ายสูง และใช้เวลานานมากๆ

รีบติดต่อขอความช่วยเหลือด้านกฏหมายจากที่นี่ก่อนนะคะ ดิฉันไม่ทราบว่าคุณอยู่เคาน์ตี้ไหน ตามลิงค์นี้ไปก็แล้วกัน
http://www.legalaidnc.org/client/locator.aspx

เก็บเอกสารสำคัญของตัวคุณเอาไว้ให้ดี และเอกสารอื่นๆ ที่จำเป็นต้องใช้ ในการถอดถอนเงื่อนไข และการหย่า Tax Return สำคัญมากค่ะ เก็บให้หมด ถ้าไม่สามารถ เปิดตู้นิรภัยเป็นชื่อคุณได้ อาจจะส่งเป็นจดหมาย ไปไว้บ้านเพื่อน หรือถ้ามี scanner ก็สแกนเก็บไว้ ในอีเมล์ที่ปลอดภัย และสามีคุณไม่รู้ว่ามี

ถ้าเขาอ้างว่าเขาป่วยมาก เป็นเนื้องอกในสมองหรืออะไรก็ตามที เป็นข้ออ้างเท่านั้น ถ้าเขาเป็นอะไรตายไปจริง คุณก็มีสิทธิ์ที่จะอยู่ ในประเทศนี้ได้ด้วยตัวเอง ถ้าเขาอ้างทนายของเขา ก็ไม่ต้องฟัง ทนายของสามี เขาถูกจ้างมาให้พูดอย่างนั้น เพื่อจะได้ง่ายกับสามีคุณ เพราะถ้าคุณกลับเมืองไทยไป เขาก็สามารถ ฟ้องหย่าคุณข้างเดียว ได้ทันที ภายในสามเดือน ไม่ต้องรอปีครึ่ง และไม่ต้องแบ่ง สินสมรสด้วย ถ้าสามีคุณไม่ได้ทำพรีนัพ คุณมีสิทธิ์ได้รับ spousal support และส่วนแบ่งสินสมรส ทางที่ดีคือ เก็บเงินสำรองเอาไว้ จะได้หาทนายเก่งๆ ค่ะ

เขียนอีเมล์เล่าเรื่องให้เพื่อนที่สามารถเป็นพยานได้สม่ำเสมอ อย่ารอจนเรื่องเกิด แล้วค่อยเขียน จำไว้ว่า คุณต้องมีหลักฐาน ที่เป็นรูปธรรม เพื่อเอาไปแสดงในศาลได้ อย่าคุยโทรศัพท์อย่างเดียว

ถ้าสถานการณ์คับขัน โทร 911 ไม่ต้องกลัว และถ้าเขาโดนข้อหา อย่าใจอ่อน ถอนฟ้อง หรือไปประกันตัวออกมาเด็ดขาดค่ะ ถ้าคุณอยากจะหย่าจริงๆ รอให้ได้กรีนการ์ดสิบปีก่อน ถึงตอนนั้น ก็ไม่ต้องรีบทำซิติเซ่นด้วย เพราะตราบใดที่คุณยังไม่ได้เป็นซิติเซ่น ถ้าคุณรับเงินสงเคราะห์เมื่อไหร่ รัฐฯ ตามไล่เอาคืนกับสามีคุณแน่ๆ ดังนั้น ยังไงก็ไม่อดตายค่ะ

แหล่งทีมา**http://lawanwadee.com/

เห็นว่าเป็นประโยชน์กับสาธารณะจึงขออนุญาตนำมาลงเพื่อเป็นความรู้และขอขอบคุณทางเว็บไซต์ด้วย