ReadyPlanet.com


การหย่าโดยความยินยอมของทั้งสองฝ่ายครับ


เรื่องมีอยู่ว่าตอนนี้ผมกับภรรยาอยู่กินด้วยกันแบบไม่มีความสุขเลยคือต่างคนต่างอยู่มานานแล้วแต่เขาไม่ยอมหย่าให้เพราะต้องการแกล้วผมให้สะใจจะทำอย่างไรถึงจะเขาหย่าเราโดยความยินยอมสมัครใจทั้งสองฝ่ายครับขอรบกวนตอบด้วยครับ


ผู้ตั้งกระทู้ ดนัย :: วันที่ลงประกาศ 2008-05-02 09:44:38


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1615367)

เมื่อชายกับหญิงจดทะเบียนสมรสกันแล้วย่อมเป็นสามีภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งการสมรสต้องกระทำด้วยความยินยอมของทั้งสองฝ่าย ไม่อาจบังคับกันได้ หลังจากนั้นต้องอยู่ด้วยกันด้วยกันฉันสามีภริยามีการร่วมประเวณีกันตามปกติ ทั้งต้องช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูกันตามความสามารถและฐานะของแต่ละฝ่าย รวมทั้งดูแลช่วยเหลือกันยามเจ็บป่วยด้วย ต่อมาเมื่อทั้งสองฝ่ายต่างมีความประสงค์จะหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยากันได้ก็หย่าโดยความยินยอมหย่าของทั้งสองฝ่ายหรือโดยคำพิพากษาของศาล เนื่องจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งกระทำการอันใดเข้าลักษณะเหตุหย่าตามที่กฎหมายกำหนด แล้วอีกฝ่ายหนึ่งไม่อาจอยู่กินร่วมกันฉันสามีภริยากับฝ่ายดังกล่าวได้ และฝ่ายดังกล่าวไม่ยินยอมหย่า อีกฝ่ายหนึ่งจึงต้องเป็นโจทก์ยื่นฟ้องฝ่ายดังกล่าวเป็นจำเลย เพื่อขอให้ศาลมีคำพิพากษาให้หย่ากัน

การหย่าโดยความยินยอมของทั้งสองฝ่าย เพราะไม่สมัครใจที่จะอยู่กินเป็นสามีภริยากันอีกต่อไป และ ได้พากันไปจดทะเบียนหย่าแล้ว จึงมีผลสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1514, มาตรา 1515 และ มาตรา 1531

มาตรา 1514 การหย่านั้นจะทำได้แต่โดยความยินยอมของทั้งสองฝ่าย หรือโดยคำพิพากษาของศาล

การหย่าโดยความยินยอมต้องทำเป็นหนังสือและมีพยานลงลายมือชื่ออย่างน้อยสองคน

 

มาตรา 1515 เมื่อได้จดทะเบียนสมรสตามประมวลกฎหมายนี้การหย่า โดยความยินยอมจะสมบูรณ์ต่อเมื่อสามีและภริยาได้จดทะเบียนการหย่านั้นแล้ว

มาตรา 1531 การสมรสที่จดทะเบียนตามกฎหมายนั้น การหย่าโดย ความยินยอมของคู่สมรสทั้งสองฝ่ายมีผลนับแต่เวลาจดทะเบียนการหย่าเป็นต้น ไป

ก่อนจดทะเบีนนหย่ากันนั้น สามีและภรยาอาจทำบันทึกข้อตกลง เป็นหนังสือมีข้อความทำนองว่า ทั้งสองฝ่ายไม่สมัครใจจะอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยาอีกต่อไป และจะไปทำการจดทะเบียนหย่าต่อนายทะเบียนต่อไป  ซึ่งต้องมีบุคคลสองคนลงชื่อเป็นพยานในขณะนั้นด้วยและมีผลผูกพันซึ่งกันและกันเท่านั้น ไม่มีผลถึงบุคคลภายนอกแต่อย่างใดจนกว่าจะได้จดทะเบียนหย่ากัน หากสามีหรือภริยาฝ่ายหนึ่งไม่ยินยอมไปจดทะเบียนหย่าต่อนายทะเบียน ย่อมเป็นการโต้แย้งสิทธิของคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 ดังนั้นคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งย่อมมีสิทธิใช้บันทึกข้อตกลงดังกล่าวนี้ฟ้องร้องบังคับให้คู่สมรสไปจดทะเบียนหย่าได้

ในกรณีของคุณก็ต้องดูว่าจะมีเหตุฟ้องหย่าได้หรือไม่ โดยพิจารณาตาม

มาตรา 1516 เหตุฟ้องหย่ามีดังต่อไปนี้
(1) สามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี เป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(2) สามีหรือภริยาประพฤติชั่ว ไม่ว่าความประพฤติชั่วนั้นจะเป็นความ ผิดอาญาหรือไม่ ถ้าเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่ง
(ก) ได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรง
(ข) ได้รับความดูถูกเกลียดชังเพราะเหตุที่คงเป็นสามีหรือภริยาของฝ่าย ที่ประพฤติชั่วอยู่ต่อไป หรือ
(ค) ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินควร ในเมื่อเอาสภาพฐานะ และความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ

อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(3) สามีหรือภริยาทำร้าย หรือทรมานร่างกายหรือจิตใจ หรือหมิ่น ประมาทหรือเหยียดหยามอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุพการีของอีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ ถ้าเป็นการร้ายแรง อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(4) สามีหรือภริยาจงใจละทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไปเกินหนึ่งปี อีกฝ่ายหนึ่ง นั้นฟ้องหย่าได้
(4/1) สามีหรือภริยาต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และได้ถูกจำคุก เกินหนึ่งปีในความผิดที่อีกฝ่ายหนึ่งมิได้มีส่วนก่อให้เกิดการกระทำความผิด หรือยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้นด้วย และการเป็นสามี ภริยากันต่อไปจะเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกิน ควร อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(4/2) สามีและภริยาสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกัน ฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกินสามปี หรือแยกกันอยู่ตามคำสั่งของ ศาลเป็นเวลาเกินสามปี ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(5) สามีหรือภริยาถูกศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ หรือไปจากภูมิลำเนา หรือถิ่นที่อยู่เป็นเวลาเกินสามปี โดยไม่มีใครทราบแน่ว่าเป็นตายร้ายดีอย่าง ไร อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(6) สามีหรือภริยาไม่ให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งตาม สมควร หรือทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีหรือภริยากันอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ถ้าการกระทำนั้นถึงขนาดที่อีกฝ่ายหนึ่งเดือดร้อนเกินควรในเมื่อเอา สภาพ ฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ อีกฝ่าย หนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(7) สามีหรือภริยาวิกลจริตตลอดมาเกินสามปี และความวิกลจริตนั้นมี ลักษณะยากจะหายได้ กับทั้งความวิกลจริตถึงขนาดที่จะทนอยู่ร่วมกัน ฉันสามีภริยาต่อไปไม่ได้ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(8) สามีหรือภริยาผิดทัณฑ์บนที่ทำให้ไว้เป็นหนังสือในเรื่องความ ประพฤติอีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(9) สามีหรือภริยาเป็นโรคติดต่ออย่างร้ายแรงอันอาจเป็นภัยแก่อีกฝ่าย หนึ่งและโรคมีลักษณะเรื้อรัง ไม่มีทางที่จะหายได้ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(10) สามีหรือภริยามีสภาพแห่งกายทำให้สามีหรือภริยานั้น ไม่อาจร่วม ประเวณีได้ตลอดกาล อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

เมื่อเข้าเหตุใดเหตุหนึ่งข้างต้นก็ฟ้องหย่าได้ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2008-05-03 21:33:14


ความคิดเห็นที่ 2 (1844785)

ดิฉันอยากสอบถามเรื่องแฟนของดิฉันซึ่งมีแฟนคนแรกและมีบุตรด้วยกันแต่ตอนนี้เขาหนีไปแล้ว(ไม่ได้จดทะเบียนกัน)แต่มีบุตร1คนซึ่งให้แฟนของดิฉันเลี้ยงดูและแฟนก็ไม่ได้ติดต่อกับแฟนคนแรก ต่อมาได้คบคนที่2และได้จดทะเบียนสมรสกันและมีบุตร1คนบุตรอายุประมาณขวบกว่าๆพ่อแม่ของเขาก็มาตามกับบ้านพร้อมบุตรต่อมาประมาณ2เดือนภริยาที่ได้จดทะเบียนได้แต่งงานกับสามีคนใหม่และได้มีบุตรกับสามี1คน และต่อมาประมาณ4-5ปีดิฉันกับแฟนก็ได้แต่งงานกันและอีก3ปีดิฉันก็ตั้งท้องก่อนแต่งงานดิฉันได้ถามว่าได้จดทะเบียนกันหรือไม่เขาก็บอกว่าไม่ได้จดทะเบียนกับใครมารู้ประมาณ 1อาทิตย์นี้ว่าเขาได้จดทะเบียนกับคนที่2และมีบุตรด้วยกัน(มารู้ตอนไปส่งไปโรงพยาบาล)ว่าเขามีคนที่2และตอนนี้แฟนกำลังพยายามจะเคลียร์เรื่องนี้(ทำการหย่า)แต่ไม่สามารถติดต่อกับผู้หญิงที่จดทะเบียนกับเขาได้เพราะตั้งแต่ที่เขาออกจากบ้านและแต่งงานใหม่เขาไม่เคยติดต่อมาเลยไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดียังไง ดิฉันควรทำยังไงดีคะที่ถูกแฟนปิดบังมาตลอดตอนนี้ดิฉันกำลังตั้งท้องยังไม่ได้เกิดค่ะท่านช่วยตอบคำถามด้วยคะขอขอบพระคุณเป็นอย่างมาก

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ก้อย วันที่ตอบ 2008-10-01 23:17:50



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล