เป็นที่ดินของคุณพ่อแต่มีชื่อน้าสาวเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดิน ถ้าน้าสาวเป็นผู้ครอบครองที่ดินมาโดยตลอดอาจเข้าข้อสันนิษฐานของกฎหมาย

มาตรา 1373 ถ้าทรัพย์สินเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ได้จดไว้ในทะเบียนที่ดิน ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลผู้มีชื่อในทะเบียนเป็นผู้มีสิทธิครอบครอง

การที่จะพิจารณาว่าใครควรจะมีสิทธิดีกว่ากันนั้นต้องมีข้อมูลเพิ่มเติมครับเช่น ที่ดินเป็นของพ่อเพราะอะไร แล้วน้าสาวไปมีชื่อในโฉนดได้อย่างไร เป็นมรดกตกทอดหรือไม่ เป็นเจ้าของร่วมกันหรือไม่ ดังนั้นขอให้บอกข้อมูลเพิ่มเติมมาจะได้ตอบให้ได้ว่าถ้าฟ้องแล้วมีสิทธิชนะคดีหรือไม่

เพิ่มเติม

ถ้าชื่อในโฉนดที่ดินมีทั้งชื่อพ่อและชื่อน้า ทั้งสองชื่อเลยก็ไม่มีปัญหาอะไร เมื่อคุยกันไม่รู้เรื่องก็ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งแบ่งแยกกรรมสิทธิ์ร่วมได้ หากทายาทของน้าจะต่อสู้อย่างไรก็ต้องดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรครับ

ผมอ่านข้อเท็จจริงเพิ่มเติมที่ให้มาใหม่หลายรอบก็ยังไม่เคลียร์นะครับพอลำดับความได้ว่า

1. เป็นที่ดินของคุณปู่ ดังนั้นโฉนดที่ดินเดิมก็ต้องเป็นชื่อคุณปู่

2. คุณปู่ยกให้พ่อแต่คงไม่ได้โอนชื่อเป็นของพ่อ

3. คำถามคือชื่อน้าสาวมาอยู่ในโฉนดในฐานะใดเพราะแม้ให้น้าสาวเซ็น(ลงชื่อ)รับรองก็ไม่ได้หมายความว่าทางอำเภอจะเปลี่ยนชื่อจากปู่มาเป็นของน้าสาวได้ง่ายๆเพราะการเปลี่ยนชื่อจากปู่อาจต้องเป็นการซื้อขายโดยปู่เป็นคนขายเองหรือทายาทของปู่รับมรดกแล้วเป็นคนขายให้น้า เพราะคำว่า "น้า" ย่อมไม่ใช่ลูกของปู่ จึงไม่มีสิทธิรับมรดกปู่

ต้องตอบคำถามผมก่อนว่าน้ามีชื่อในโฉนดจากสิทธิใด เพราะการจะมีชื่อในโฉนดต้องมีที่มาที่ไปพอสมควรไม่ใช่ว่าติดต่อคุณพ่อไม่ได้ก็ใส่ชื่อน้าได้ง่ายๆนะครับ

ผมต้องขออภัยที่ยังตอบแบบฟันธงให้ไม่ได้เพราะยังไม่เข้าครับ

ส่วนลูกของน้าไม่มีปัญหาว่าปู่จะมายืมเงินจริงหรือไม่แต่ถ้าทรัพย์มีชื่อมารดาของเขา เขาก็มีสิทธิได้รับมรดกของมารดาอยู่แล้วครับ