แพ่ง+อาญา | |
เรียน คุณ ลีนนท์ ที่เคารพ ขอความกรุณาอธิบายข้อความที่ว่า ฟ้องคดีแพ่งตามเช็คที่มีจำนวนเงินไม่เกินอำนาจพิจารณาพิพากษาของผู้พิพากษาคนเดียวสามารถฟ้องรวมไปกับคดีส่วนอาญาได้ กรณีของข้าฯ เช็คเด้งตอนนี้อยู่ระหว่างอัยการพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง(กำลังรออยู่) เช็คที่ฟ้องยอดเงิน 6 แสน ลงวันที่1 พ.ย.50 ที่ข้าฯทราบ เช็คที่จะฟ้องแพ่งต้องภายใน 1 ปีจากวันที่ ที่ลงในเช็ค กรณีนี้ถ้าอัยการสั่งฟ้อง แพ้หรือชนะ คงอีกนาน คำว่าฟ้องแพ่ง ภายใน 1 ปีจะเกี่ยวเนื่องกันหรือไม่ หรือควรจ้างทนายฟ้องแพ่ง และคำว่าจำนวนเงินไม่เกินอำนาจผู้พิพากษาคนเดียว สามารถฟ้องรวมอาญาได้ ช่วยกรุณาอธิบายด้วย ขอขอบคุณล่วงหน้า | |
ผู้ตั้งกระทู้ ชนะ :: วันที่ลงประกาศ 2008-10-07 13:22:30 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (1847416) | |
มาตรา 44 การเรียกทรัพย์สินหรือราคาคืนตาม มาตรา ก่อนพนักงาน อัยการจะขอรวมไปกับคดี อาญาหรือจะยื่นคำร้องในระยะใดระหว่าง ที่คดีอาญากำลังพิจารณาอยู่ในศาลชั้นต้นก็ได้
มาตรา 44/1 ในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ ถ้าผู้เสียหายมีสิทธิที่จะเรียกเอาค่าสินไหมทด แทนเพราะเหตุได้รับอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย จิตใจ หรือได้รับความเสื่อมเสียต่อเสรีภาพในร่างกายชื่อเสียง หรือได้รับความเสียหายในทางทรัพย์สินอันเนื่องมาจากการกระทำความผิดของจำเลย ผู้เสียหายจะยื่นคำร้องต่อศาลที่พิจารณาคดีอาญาขอให้บังคับจำเลยให้ค่าสินไหมทดแทนแก่ตนก็ได้ ก่อนที่จะครบหนึ่งปี ก็ฟ้องแพ่งเสียก่อนซิครับ ตาม พรบ ความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค คงทราบผลไม่เกินหนึ่งปีนะครับ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2008-10-08 14:59:21 |
ความคิดเห็นที่ 2 (1847761) | |
มีมูลหนี้จากอะไรครับ ถ้าเป็นมูลหนี้ที่มีหลักฐานก็จะมีอายุความตามมูลหนี้นั้น ไม่ต้องฟ้องตามตั๋วเงินก็ได้ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2008-10-09 09:15:29 |
ความคิดเห็นที่ 3 (1847977) | |
เรียน คุณ ลีนนท์ ที่เคารพ ขอขอบคุณอย่างสูงที่กรุณาตอบคำถามให้ อ่านมาตรา 44 44/1 ไม่ค่อยจะเข้าใจมากนัก ขอเรียนสอบถามคุณ ลีนนท์ อีกครั้งว่า -เช็คที่จะฟ้องแพ่งจะต้องฟ้องโดยทนายความใช่หรือไม่ เพราะเคยถามทนายความบอกว่า ค่าใช้จ่ายประมาณ ร้อยละ 10 จากหน้าเช็คก็ประมาณ 3 หมื่น -แต่ถ้าฟ้องโดยอัยการ จะต้องมีค่าใช้จ่ายหรือไม่ -มูลหนี้เดิมจากการนำเช็คมาแลกเงินสด ต่อมานำเช็คไปเรียกเก็บธนาคารปฎิเสธ เงินในบัญชีไม่พอจ่าย จึงได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ยอดเงินตามเช็คที่เด้ง รับสภาพหนี้ทำวันที่ 1 ต.ค 50 วันที่5ต.ค50 นำเช็คมาจ่ายให้ เช็คลงวันที่ถัดไป 1 เดือนจากวันรับสภาพหนี้คือ 1พ.ย 50 เช็คฉบับนี้เรียกเก็บ 1ธค 50 เพราะลูกหนี้เงินไม่พอจึงขอเลื่อน 1 เดือน พอครบกำหนดก็เอาเช็คเรียกเก็บธนาคารปฎิเสธเงินในบัญชีไม่พอจ่าย ข้าฯก็ทวงถามตลอด ลูกหนี้ก็ขอผลัดอ้างว่ากำลังกู้เงินจากธนาคารกู้ได้จะคืนให้พร้อมดอกเบี้ย แล้วก็กู้ไม่ผ่าน -13ก.พ.51 ข้าจึงได้ไปแจ้งความดำเนินคดีตำรวจรับเรื่อง โดยขอเอกสารหนังสือรับสภาพหนี้ และใบคืนเช็ค ระหว่างดำเนินการก็มีการเรียกพยานที่อยู่ในเหตุการณ์รับสภาพหนี้+รับเช็ค ไปสอบถาม หลังจากนั้น 2 เดือนตำรวจก็แจ้งว่าสั่งฟ้อง เรื่องอยู่กับอัยการข้าฯก็ได้โทรไปสอบถาม อัยการก็บอกว่าพยายามคุยกับลูกหนี้ซะจะได้ไม่ต้องยุ่งยาก ซึ่งอัยการก็ได้บอกกับข้าว่าถ้าคุยไม่รู้เรื่องก็จะดำเนินการให้ แต่ต้องรอเพราะมีอัยการทั้งหมดเพียง 3 คน งานเยอะมาก คดีไม่หมดอายุความ เพราะฟ้องร้องแล้ว ตอนนี้ผ่านมาเกือบปีแล้วยังไม่มีหมายเรียกไปขึ้นศาลเลย ขอคำแนะนำจากคุณลีนนท์ ว่าควรทำอย่างไรต่อไป มูลหนี้จากการรับสภาพหนี้ มีอายุความกี่ปี สุดท้ายนี้ขออวยพรให้คุณลีนนท์และครอบครัว มีสุขภาพแข็งแรงคิดสิ่งใดสมความปรารถนาทุกประการ ขอขอบคุณล่วงหน้า | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนะ วันที่ตอบ 2008-10-09 14:50:20 |
ความคิดเห็นที่ 4 (1848236) | |
เรียน คุณ ลีนนท์ ที่เคารพ ขอเรียนย้ำคำถามข้างบนอีกครั้ง ขอขอบคุณล่วงหน้า | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนะ วันที่ตอบ 2008-10-10 08:21:01 |
ความคิดเห็นที่ 5 (1848355) | |
ขออภัยครับอ่านแล้วก็ไม่เข้าใจคำถาม ถามให้ชัดเจนอีกครั้งครับ คุณบอกว่าฟ้องรวมอาญาได้แล้วให้อธิบายหมายความว่าอย่างไร ครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2008-10-10 12:12:49 |
ความคิดเห็นที่ 6 (1848404) | |
เรียน คุณ ลีนนท์ ที่เคารพ ขอขอบคุณ ที่กรุณาอ่าน และตอบคำถาม ที่ข้าฯถามจุดประสงค์คือ ถามว่าเช็คที่อยู่ในชั้นอัยการกำลังพิจารณาว่า จะฟ้อง หรือไม่ฟ้องผู้ถูกกล่าวหา(ชั้นพนักงานสอบสวนตำรวจมีความเห็นสั่งฟ้อง)ตอนนี้เช็ค ใกล้จะครบ 1 ปี ข้าฯเกรงว่าอายุความจะขาด ฟ้องคดีแพ่งตามเช็คที่มีจำนวนเงินไม่เกินอำนาจพิจารณาพิพากษาของผู้พิพากษาคนเดียวสามารถฟ้องรวมไปกับคดีส่วนอาญาได้ กรณีของข้าฯ เช็คเด้งตอนนี้อยู่ระหว่างอัยการพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง(กำลังรออยู่) เช็คที่ฟ้องยอดเงิน 6 แสน ลงวันที่1 พ.ย.50 ที่ข้าฯทราบ เช็คที่จะฟ้องแพ่งต้องภายใน 1 ปีจากวันที่ ที่ลงในเช็ค กรณีนี้ถ้าอัยการสั่งฟ้อง แพ้หรือชนะ คงอีกนาน คำว่าฟ้องแพ่ง ภายใน 1 ปีจะเกี่ยวเนื่องกันหรือไม่ หรือควรจ้างทนายฟ้องแพ่ง และคำว่าจำนวนเงินไม่เกินอำนาจผู้พิพากษาคนเดียว สามารถฟ้องรวมอาญาได้ ช่วยกรุณาอธิบายด้วย ขอขอบคุณล่วงหน้า | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนะ วันที่ตอบ 2008-10-10 13:43:36 |
ความคิดเห็นที่ 7 (1848436) | |
ในคดีตั๋วเงินมีอายุความ 1 ปี ถ้าคุณไม่ฟ้องภายใน 1 ปีก็ขาดอายุความ แต่เช็คที่สั่งจ่ายให้คุณมีมูลหนี้จากอะไร ถ้ามีมูลหนี้ตามสัญญาเงินกู้ที่มีหลักฐานเป็นหนังสือคุณก็สามารถฟ้องตามสัญญากู้ยืมเงินมีอายุความ 10 ปี (สมมุติ) มาตรา 25 ในศาลชั้นต้น ผู้พิพากษาคนเดียวเป็นองค์คณะมี อำนาจเกี่ยวแก่คดีซึ่งอยู่ในอำนาจของศาลนั้น ดังต่อไปนี้ เช็คของคุณมียอด 6 แสนบาท เกินอำนาจผู้พิพากษานายเดียวตามมาตรา 25 พระธรรมนูญศาลยุติธรรม
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2008-10-10 14:46:34 |
ความคิดเห็นที่ 8 (1848465) | |
จากคำถาม -เช็คที่จะฟ้องแพ่งจะต้องฟ้องโดยทนายความใช่หรือไม่ เพราะเคยถามทนายความบอกว่า ค่าใช้จ่ายประมาณ ร้อยละ 10 จากหน้าเช็คก็ประมาณ 3 หมื่น ก็ต้องให้ทนายความดำเนินการให้ครับ ถ้าคุณทำเองได้ก็สามารถทำเองได้เลย เพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดว่าต้องมีทนายความ หมายความว่าตัวความหรือผู้เสียหายดำเนินคดีเองได้ เช่น ถ้าผมเป็นผู้เสียหายผมก็สามารถทำเองได้ในฐานะผู้เสียหายไม่ใช่ในฐานะทนายความ คำถาม -แต่ถ้าฟ้องโดยอัยการ จะต้องมีค่าใช้จ่ายหรือไม่ ไม่ต้องมีเพราะรัฐมีหน้าที่บริการประชาชน แต่อาจจะไม่ทันใจเราอยู่บ้าง
คำถาม -มูลหนี้เดิมจากการนำเช็คมาแลกเงินสด ต่อมานำเช็คไปเรียกเก็บธนาคารปฎิเสธ เงินในบัญชีไม่พอจ่าย
คุณต้องฟ้องภายใน 1 ปีครับ ตามตั๋วเงิน
คำถาม จึงได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ยอดเงินตามเช็คที่เด้ง รับสภาพหนี้ทำวันที่ 1 ต.ค 50 รับสภาพหนี้ว่าเป็นหนี้มาจากมูลใดครับ
คำถาม มูลหนี้จากการรับสภาพหนี้ มีอายุความกี่ปี อายุความต้องพิจารณาว่าในหนังสือรับสภาพหนี้ บอกว่ามีหนี้สินจากมูลหนี้ใด เช่นซื้อขาย หรือกู้ยืมเงินเป็นต้น ดังนั้นจะให้คำตอบได้ต้องมีข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ด้วยครับ คำถาม ขอคำแนะนำจากคุณลีนนท์ ว่าควรทำอย่างไรต่อไป ควรฟ้องคดีตามตั๋วเงินภายในอายุความ 1 ปีครับ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2008-10-10 15:52:05 |
ความคิดเห็นที่ 9 (1848471) | |
เรียน คุณ ลีนนท์ ที่เคารพ ขอขอบคุณเป็นอย่างสูงที่กรุณาตอบคำถามให้ มูลหนี้มาจาก หนังสือรับสภาพหนี้ (ข้าฯเคยอ่านเจอในเว็บ อายุความ 2 ปี ถูกต้องหรือไม่) ถ้าอายุความ 2 ปี ข้าฯก็สามารถรอจนกว่า ศาลจะพิพากษา ถ้าชนะศาลคงจัดการเรื่องการคืนเงินจากเช็คให้ แต่ถ้าแพ้หรือศาลยกฟ้อง ข้าฯสามารถจ้างทนายความฟ้องแพ่งได้ ใช่หรือไม่ ขอขอบคุณ ขออวยพรให้คุณลีนนท์ มีความสุขมากๆ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนะ วันที่ตอบ 2008-10-10 15:57:30 |
ความคิดเห็นที่ 10 (1848498) | |
คำถาม มูลหนี้มาจาก หนังสือรับสภาพหนี้ (ข้าฯเคยอ่านเจอในเว็บ อายุความ 2 ปี ถูกต้องหรือไม่) ผมไม่ทราบครับ แต่ความเห็นผม อายุความของหนังสือรับสภาพหนี้ย่อมมีอายุความตามมูลหนี้เดิม เช่น คุณเป็นหนี้บัตรเครดิต ซึ่งมีอายุความ 2 ปี เมื่อก่อนครบกำหนดสองปี ลูกหนี้มาทำหนังสือรับสภาพหนี้ ย่อมทำให้อายุความสดุดหยุดลงและเริ่มต้นนับใหม่ มาตรา 193/14 อายุความย่อมสะดุดหยุดลงในกรณีดังต่อไปนี้
มาตรา 193/15 เมื่ออายุความสะดุดหยุดลงแล้วระยะเวลาที่ล่วงไปก่อนนั้นไม่นับเข้าในอายุความ เมื่อเหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงสิ้นสุดเวลาใดให้เริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่เวลานั้น ดังนั้นเมื่ออายุความสดุดหยุดลงแล้ว จึงเริ่มนับ 2 ปีใหม่นับแต่วันที่ทำหนังสือรับสภาพหนี้ แต่ถ้ามูลหนี้มาจากเรื่องอื่นที่มีอายุความยาวกว่าสองปี ก็ให้นับใหม่และมีอายุความตามมูลหนี้เดิม แต่มีกรณีที่มีการทำหนังสือรับสภาพความรับผิด ซึ่งเป็นการรับผิดว่าได้เป็นหนี้กันจริง ภายหลังที่หนี้ดังกล่าวนั้นหมดอายุความไปแล้ว เช่น หนี้ละเมิดมีอายุความ หนึ่งปี และขาดอายุความแล้ว แต่มาลูกหนี้ทำหนังสือรับสภาพความรับผิดไว้ว่าได้ทำละเมิดจริงและมีหนี้ดังกล่าวกันจริง แม้จะขาดอายุความแล้ว หนังสือรับสภาพความรับผิดนั้นมีอายุความสองปีครับ ดังนั้นควรฟ้องภายในหนึ่งปีครับ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2008-10-10 16:41:44 |
ความคิดเห็นที่ 11 (1848595) | |
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 307/2549 ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ มาตรา 4 การออกเช็คที่จะเป็นความผิดนั้นจะต้องเป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายด้วย ข้อเท็จจริงที่ว่าการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย จึงเป็นองค์ประกอบการกระทำความผิดหาได้เป็นเพียงรายละเอียดที่สามารถนำสืบในชั้นพิจารณาไม่ การที่โจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่าจำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้ตามสัญญารับสภาพหนี้และแนบสำเนาสัญญารับสภาพหนี้มาท้ายฟ้อง จึงเป็นการบรรยายฟ้องที่ขาดองค์ประกอบความผิดตามบทบัญญัติดังกล่าว เพราะการรับสภาพหนี้มิได้ก่อให้เกิดมูลหนี้ขึ้นใหม่ เพียงแต่เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/14 (1) เท่านั้น คำฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5) ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2008-10-10 22:31:11 |
ความคิดเห็นที่ 12 (1848596) | |
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 307/2549 (ย่อยาว)
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า จำเลยออกเช็คธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาถนนรัตนาธิเบศร์ ลงวันที่ 17 กันยายน 2542 สั่งจ่ายเงิน 1,500,000 บาท มอบให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ตามสัญญารับสภาพหนี้ เมื่อเช็คถึงกำหนด โจทก์นำไปเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินว่าบัญชีปิดแล้ว การกระทำของจำเลยเป็นการออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค หรือออกเช็คในขณะที่ไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 มาตรา 4 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่า คดีมีมูล ให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน โจทก์ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2543 มาตรา 4 บัญญัติว่า "ผู้ใดออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยมีลักษณะหรือมีการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ (1) เจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น (2) ในขณะที่ออกเช็คนั้นไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ (3) ให้ใช้เงินมีจำนวนสูงกว่าจำนวนที่มีอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ในขณะที่ออกเช็คนั้น (4) ฯลฯ เมื่อมีการยื่นเช็คเพื่อให้ใช้เงินโดยชอบด้วยกฎหมาย ถ้าธนาคารปฏิเสธไม่ใช้เงินตามเช็คนั้น ผู้ออกเช็คมีความผิด" ตามบทบัญญัติดังกล่าว การออกเช็คที่จะเป็นความผิดนั้นจะต้องเป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายด้วย ข้อเท็จจริงที่ว่าการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย จึงเป็นองค์ประกอบการกระทำความผิดหาได้เป็นเพียงรายละเอียดที่สามารถนำสืบในชั้นพิจารณาไม่ การที่โจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่าจำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้ตามสัญญารับสภาพหนี้และแนบสำเนาสัญญารับสภาพหนี้มาท้ายฟ้อง จึงเป็นการบรรยายฟ้องที่ขาดองค์ประกอบความผิดตามบทบัญญัติดังกล่าว เพราะการรับสภาพหนี้มิได้ก่อให้เกิดมูลหนี้ขึ้นใหม่ เพียงแต่เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/14 (1) เท่านั้น คำฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5) ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225 ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกฟ้องนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น" พิพากษายืน
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2008-10-10 22:35:17 |
ความคิดเห็นที่ 13 (1849284) | |
เรียน คุณ ลีนนท์ ที่เคารพ ขอขอบคุณในคำตอบที่ผ่านๆมา ขอขอบคุณมากๆ ขอเรียนถามอีกครั้งเพื่อความแน่นอน ขอถามเป็นครั้งสุดท้าย -ลูกหนี้นำเช็คมาแลกเงินสดจากข้าฯ เดือนละ 20 ฉบับ หักดอกเบี้ยร้อยละ 5จากหน้าเช็ค เริ่มต้นแลกเช็ค เม.ย50 ,พค,มิย,กค50 จำนวน80ฉบับ เช็คผ่านตลอด ต่อมาเดือน สค.50 แลกเช็ค 20 ฉบับ เช็คเด้ง ธนาคารปฏิเสธเงินในบัญชีไม่พอจ่าย ยอดรวม ประมาณ 3 ล้าน(อันนี้คือเหตุการณ์เริ่มต้น) -1 ตค. 50 ลูกหนี้มาทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้ ยอด 3 ล้าน -5 ตค.50 นำเช็คมาจ่าย 24 ฉบับ ฉบับละ125,000+ดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน เช็คลงวันที่ถัดไปจากวันรับสภาพหนี้ คือ 1พย.50- 1 ตค.52 ขณะนี้เช็คเด้ง12ฉบับ ธนาคารแจ้งว่า บัญชีปิดแล้ว -ข้าฯ ได้แจ้งความไปแล้ว 3 ครั้ง กำลังจะแจ้งความรอบที่ 4 -ขอถามว่า 1.กรณีนี้มูลหนี้คือเช็คแลกเงินสด อายุความแพ่งคือ 1ปี จากวันที่ ที่ลงในเช็ค คือฉบับแรก 1พย 50 อายุความแพ่งจะหมดวันที่ 31ตค.51 ถูกต้องหรือไม่ 2.เช็คทุกฉบับที่แจ้งความ ตัวจริงอยู่ที่ตำรวจ+อัยการ ใช้สำเนาถ่ายเอกสารฟ้องแพ่ง ได้หรือไม่ 3.แจ้งความ 3 ครั้ง ครั้งแรกแจ้งท้องที่ ที่ธนาคารปฏิเสธเช็ค(ปริมณฑล) ครั้งที่2,3 แจ้งความท้องที่ที่ทำหนังสือรับสภาพหนี้ ข้าฯสามารถนำสำเนาเช็ค 9 ฉบับฟ้องแพ่งรวมได้ที่ไหน 4.ถ้าข้าฯ ได้ทำการฟ้องแพ่งก่อน 1 ปี ข้าฯก็จะได้เงินต้น+ดอกเบี้ย 7.5 คืน แต่เวลาอาจจะนาน ถูกหรือไม่ 5.ถ้ารอฟ้องอาญาอย่างเดียว เผื่อลุกหนี้ สู้ถึง 3 ศาล และกินเวลานานกว่า 2 ปีโดยที่ไม่ฟ้องแพ่งเลย กรณีนี้ถ้าข้าฯแพ้(อาญา) เงินทั้งหมด จะเหลือ ศูนย์ หรือเปล่า เพราะเช็คหมดอายุแพ่ง ขอขอบคุณ คุณลีนนท์ล่วงหน้า เป็นอย่างสูง ขออวยพรให้คุณ ลีนนท์ มีความสุขมากๆ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนะ วันที่ตอบ 2008-10-13 10:59:54 |
ความคิดเห็นที่ 14 (1849560) | |
1. อายุความนับตั้งแต่เจ้าหนี้มีสิทธิเรียกร้อง เมื่อเช็คลงวันที่ 1 พ.ย. 50 ขาดอายุความ 31 ต.ค.51 ถูกต้องครับ 2. ใช้สำเนาฟ้องได้ครับ แต่เวลาสืบพยานต้องใช้ต้นฉบับครับ 3. การฟ้องคดีแพ่งไม่ต้องคำนึงว่าคุณจะได้แจ้งความทึ่ท้องที่ใด แต่สามารถฟ้องได้ที่ 1. ภูมิลำเนาของจำเลย 2. ท้องที่ที่ธนาคารเจ้าของเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินครับ(ต้องเป็นธนาคารที่มีหน้าที่จ่ายเงินไม่ใช่ที่ธนาคารของเราที่เราเอาเช็คเข้าเรียกเก็บ) 4. "ข้าฯก็จะได้เงินต้น+ดอกเบี้ย 7.5 คืน แต่เวลาอาจจะนาน ถูกหรือไม่" ถูกต้องครับ 5. เช็คเมื่อขาดอายุความฟ้องร้องก็คือกระดาษครับ ขอแนะนำว่าควรฟ้องภายในอายุความ 1 ปี เพราะมีแนวโน้มว่าเป็นหนี้ที่ไม่มีมูลหนี้ต่อกันขอให้อ่านฎีกาที่ให้มาให้ละเอียดและช้า ๆ คุณจะเห็นคำตอบในฎีกาที่ผมหามาให้ข้างบนนั้นครับ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2008-10-13 22:14:53 |
ความคิดเห็นที่ 15 (1849786) | |
เรียน คุณ ลีนนท์ ที่เคารพ ขอขอบคุณมากๆ ที่กรุณาตอบคำถามให้ ขณะนี้เข้าใจแล้ว ไว้คดีสิ้นสุดจะส่งข้อความไปแจ้งให้ทราบ ขอขอบคุณเป็นอย่างสูง ขออวยพรให้คุณลีนนท์และครอบครัว มีความสุข คิดหวังสิ่งใดสมความปรารถนาทุกประการ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ชนะ วันที่ตอบ 2008-10-14 11:19:48 |
[1] |