เรื่องมีอยู่ว่าได้รับจดหมายจากทนายแจ้งเตือนให้ชำระหนี้ก่อนฟ้อง ลงวันที่ 20 พย 51 แต่ได้รับวันที่ 1 ธค 51 โดยให้มีการชำระหนี้ไม่เช่นนั้นจะฟ้อง

ทางดิฉันก็ได้โทรไปต่อรองขอผ่อนจ่ายเป็นหกเดือน ในวันที่ ได้รับจดหมายเลย ซึ่งทางทนายก็ตอบตกลง แต่จะขอให้เป็นลายลักษณ์อักษรซึ่งทางทนายจะร่างมา ด้วยจะขอนัดมาเจอเพราะทางทนายต้องเดินทางมาธุระอยู่แล้ว (ห้าง อยู่ต่างจังหวัด)  ซึ่งได้คุยกันว่าเพราะทางดิฉันผู้มีอำนาจจะต้องเดินทางเข้ากทม ซึ่งพอดีมีปัญหาเกี่ยวกับการปิดสนามบิน ซึ่งก็ไม่แน่ใจกลัวว่าจะสวนทางกับทางทนาย แต่ทางทนายนัดว่าจะมาไม่วันที่ 3 หรือ 4 ธค 51 ดิฉันก็เลยว่า เป็นไปได้ไหมว่าจะขอให้เอาเอกสารมาส่งที่ห้าง แล้วจะเซ็นต์ส่งตามไป ซึ่งทางทนายก็ตอบตกลงว่าจะเป็นวันที่ 3

วันที่ 3 ดิฉันก็รอจนเย็น จึงได้โทรตามว่าจะเข้ามาไหมวันนี้เพราะดิฉันจะเข้ากรุงเทพเย็นนี้ ทางทนายได้ตอบว่าวันนี้คงไม่ทัน จะโทรบอกอีกที

จนดิฉันกลับจากกรุงเทพ วันที่ 6 โทรทางเลขาว่าได้ไปพบทนายที่นัดไปเอาจดหมาย ที่โรง แรมที่พักในวันที่ 4 โดยจดหมายที่ว่าเป็นสัญญาประนีประนอม ที่ต้องทำต่อหน้าศาล ดิฉันก็งง อ้าวทำไมถึงมีการฟ้องร้อง

ดิฉันก็พึ่งทราบเพราะวันที 6 มีหมายศาลมาถึงที่บ้าน โดยในหมายเรียกลง วันที่ 4 ธค 51  ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ได้ให้เลขาไปรับสัญญาประนีประนอม

ที่ดิฉันเข้าใจคือต้องการให้มีการบังคับคดีให้มีการชำระที่สามารถเรียกฟ้องได้ แต่สิ่งที่ดิฉันไม่เข้าใจ คือการเป็นทนายว่าไม่เช่นนั้นทำไมต้องมีคุยกันก่อนฟ้อง เข้าใจว่าต้องการเงินในการทำมาหาเลี้ยงชีพ แต่ไม่เข้าใจว่า ความยุติธรรมของการเป็นทนายมีแค่ไหน ถ้าดิฉันเป็นคนไม่มีการศึกษา ก็คงยิ่งไม่มีวันเข้าใจ ซึ่งตอนนี้ ดิฉันเองได้ลงเรียนนิติศาสตร์เพิ่มเติม จึงอยากขอความกระจ่างว่า ทนายทำอย่างนี้ได้เหรอ แล้ว ถ้าดิฉันเอาคำถามหรือเหตุการณ์นี้ไปถามวันที่มีการไกล่เกลี่ยจะมีผลอะไรบ้างไหมคะ

ขอรบกวนเวลาด้วยคะ