ReadyPlanet.com


เข้าใจผิดในการโอนที่ดิน


ย่าผมชื่อางรันดร เป็นทายาทของนางนุ่ม กาญจนเพชร ผู้ตาย โดยมีบุตร ๕ คน ก่อนตายได้เรียกบุตรทั้ง ๕ คน ส่วยสามีของนางนุ่มตายไปนานแล้ว ว่าให้แบ่งที่ดินตามโฉนด ๕๐๒๓ ให้แก่บุตรทั้ง ๕ คน ร่วมกัน ส่วนที่ดิน นส.๓ เลขที่ ๖๖๒๙ ให้แก่นางแอ๋ว หมื่นสิทธิ์ บุตรคนสุดท้อง ปรากฎฏว่า ภายหลังเจ้ามรดกตาย ได้การโอนทรัพย์มรดกแปลงหนึ่งให้แก่ นางแอ๋ว ซึ่งในวันนั้ตั้งใจไปโอนมรดกให้แก่ นางแอ๋ว หมื่นสิทธิ์ ตาม นส.๓ เท่านั้น แต่ว่าเมื่อไปโอนจริงๆ นางแอ๋ว ซึ่งเป็นผู้ถิอเอกสารสิทธิ์ทั้ง ๒ แปลง ได้ส่งเอกสารที่ดินแปลงโฉนดมาทำการโอนมรดก โดยทั้งนางรันดร และ ทายาทอื่นเข้าใจว่า เป็นที่ดิน นส.๓ จึงได้ทำนิติกรรมการโอนมรดกที่ดินให้แก่นางแอ๋ว ไปผิดแปลง ถ้ารู้ว่าที่ดินที่ทำนิติกรรมการโอนมรดกเป็นที่ดินโฉนด ก็คงไม่ดำเนินการให้ ซึ่งเข้าใจว่าเป็นที่ดิน นส.๓ จึงได้สละมรดกและทำนิติกรรมการโอนให้แก่ นางแอ๋ว ไป ซึ่งเป็นที่ดินแปลงโฉนด ไม่ใช่ นส.๓ และในวันเดียวกันนางแอ๋วก็โอนที่ดินโฉนดให้แก่นายเดชา บุตรของนางแอ๋วไป ต่อมาอีก ๓ ปี นางรันดรถึงทราบว่า ที่ดินดังกล่าวได้ทำการโอนผิดแปลงไป จึงได้เรียกร้องให้โอนที่ดินมรดกในส่วนที่นางรันดรควรได้รับจากนายเดชา และนางแอ๋ว แต่ทั้งสองกลับเพิกเฉย อยากทราบว่าในกรณีนี้จะดำเนินการอย่างไรในการได้ที่ดินในส่วนของนางรันดรกลับมา และถ้าฟ้องศาลจะฟ้องในข้อหาใด นิติกรรมฉ้อฉล หรือว่า สำคัญผิดในสาระสำคัญแก่ทรัพย์ซึ่งเป็นวัตถุแห่งการทำนิติกรรม หรือว่าทั้ง ๒ กรณี ช่วยให้คำแนะนำด้วยครับ ผมเรียนกฎหมายมาแต่ไม่ได้เป็นทนาย อยากรู้เพื่อว่ามีข้อมูลในการคุยกับทนายครับ เหตุเกิดที่จังหวัดนราธิวาสครับ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ


ผู้ตั้งกระทู้ ผู้เดือดร้อน :: วันที่ลงประกาศ 2009-01-29 14:10:55


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1895166)

การจะตั้งรูปคดีนั้นจำเป็นต้องศึกษาข้อเท็จจริงให้ชัดแจ้งครับ เพราะเอกสารแต่ละเรื่องนั้นมีความสำคัญในการนำสืบเพื่อประโยชน์กับคดีของตน

ตามที่เล่ามานั้นไม่สามารถตอบคำถามได้ชัดเจนเพราะ ต้องมีข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่า ทำไมจึงต้องสละมรดก การสละมรดกจะสละส่วนหนึ่งส่วนใดไม่ได้ ดังนั้นการสละมรดกดังกล่าวก็น่าคิดว่า มีเจตนาสละทรัพย์มรดกที่เป็นโฉนดด้วยหรือไม่

คำถามต่อไปคือการโอน กรรมสิทธิ์ โอนโดยผู้จัดการมรดกหรือโอนโดยทายาทไปให้ความยินยอมที่สำนักงานที่ดินหรือวิธีการใด เพราะเอกสารต่าง ๆ ที่มีการโอนกรรมสิทธิ์จะปรากฏอยู่ที่สำนักงานที่ดินซึ่งจะเป็นหลักฐานที่อาจปิดปากได้

ดังนั้นจึงขอให้ท่านในฐานะนักศึกษาอาจไปพูดคุยกับทนายความของท่านได้โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางด้านกฎหมาย เพราะเมื่อเราได้มอบความไว้วางใจเขาแล้ว เขาก็คงทำหน้าที่ให้ดีที่สุดครับ

ขอให้คุณประสบผลสำเร็จกับการแก้ปัญหาต่าง ๆ นะครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2009-01-30 15:17:37



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล