สำหรับเรื่องเงินนั้น ในเมื่อเป็นเงินของคุณก็เก็บไว้ดี ๆ หย่านำไปให้เขาก็คงจะหมดปัญหา ใช่ไหมครับ การให้เงินเขาไปโดยคุณไม่มีหน้าที่ย่อมเป็นการให้โดยเสน่หาครับ

สำหรับบุตรของคน ที่คุณได้อ้างว่าบิดาได้จดทะเบียนรับรองบุตรแล้วย่อมเป็นบิดาชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นบิดาจึงมีหน้าที่ที่จะต้องชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูแก่บุตรตามฐานาณุรูปของตน

ดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องทำสัญญาอะไรอีกเพราะกฎหมายกำหนดหน้าที่ของบิดาไว้แล้ว หากบิดาละเลยก็ฟ้องให้ศาลมีคำพิพากษาได้เลยโดยไม่ต้องมีสัญญาใด ๆ อีกครับ

มีคำถามอื่นสอบถามเข้ามาใหม่นะครับ

ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ

ก้มันมีเรื่องธุรกิจที่เป็นของเราทำร่วมกัน แต่เป็นชื่อของเค้า บางทีเค้าเข้าไปก้เก็บเงินจากเด็กไป อันนี้ ก้ลำบากเพราะเราก้เคยบอกเด็กไว้ แต่เด็กบอกว่า เด็กก้ลำบากใจ

ส่วนเรื่องลูก เขาไม่ยอมจ่ายให้เลยแม้แต่บาทเดียว และลูกเขาเองก้ได้รับรองบุตรที่อำเภอ เรียบร้อยแล้ว เพราะว่าจะต้องเอาเอกสารสัญญารับรองบุตรมาใช้สำหรับลดหย่อนภาษีของร้าน เพราะว่าร้านเป็นชื่อของเขา

ที่อยากจะทำหนังสือสัญญาเพราะว่า อยากจะให้เป็นขั้นแรกของการที่จะขึ้นไปถึงชั้นศาลค่ะ ยังไงต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่รบกวนบ่อย ขอบคุณค่ะ

เรื่องธุรกิจเป็นชื่อของเขา นั้นเป็นความยินยอมของคุณ เป็นความพอใจของคุณเอง ดังนั้นกฎหมายจึงไม่อาจห้ามความสมัครใจของคุณได้ คุณคงต้องคิดตัดสินใจต่อไป

สำหรับเรื่องค่าเลี้ยงดูบุตรนั้น แม้จะมีสัญญาถ้าเขาไม่จ่ายให้ก็ต้องฟ้องต่อศาลอยู่ดี และตามที่ได้ให้ความเห็นไว้แล้วว่าบิดาชอบด้วยกฎหมายมีหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาแก่บุตรผู้เยาว์ตามฐานะของตน แม้ไม่มีสัญญาก็ฟ้องได้ครับ

ได้ตกลงกับสามีเรื่องค่าเลี้ยงบุตร ว่าให้ส่งให้ลูกทั้ง 2 คน คนละ 5,000 บาท ทางสามีไม่ยอมที่จะส่งเสียให้เลยแม้แต่บาทเดียว โดยอ้างเหตุผลว่า ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ส่งเสียให้ ทางเราก้สามารถที่จะเลี้ยงลูกได้อยู่แล้ว

ในกรณีนี้เราควรทำอย่างไรดีค่ะ เพราะส่วนนึงก็ต้องเป็นความรับผิดชอบของคนเป็นพ่อ เหมือนกัน

ก็ฟ้องได้ครับ แต่ถ้าศาลสั่งให้บิดาจ่ายแล้วเขาจะมีจ่ายหรือไม่ก็ค่อยว่ากันอีกทีครับ ขอตั้งสิทธิไว้ก่อนนะครับ

ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ

คือตอนนี้ทราบมาว่า สามีกำลังทำธุรกิจในชื่อของตนเองอยยู่อะคะ แล้วถ้าจะฟ้องต้องใช้เอกสารอะไรบ้างค่ะ ค่าใช้จ่าย ประมาณเท่าไหร่ และเวลาในการดำเนินการ ขอรบกวนด้วยนะคะ

เอกสารเกี่ยยกับตัวสามีคุณ และของบุตรครับ