มาตรา 1038 บัญญัติว่า “ห้ามมิให้ผู้เป็นหุ้นส่วนประกอบกิจการอย่างหนึ่งอย่างใดซึ่งมีสภาพดุจเดียวกัน และเป็นการแข่งขันกับกิจการของห้างหุ้นส่วนนั้น ไม่ว่าทำเพื่อประโยชน์ตนหรือประโยชน์ผู้อื่น
โดยมิได้รับความยินยอมของผู้เป็นหุ้นส่วนคนอื่นๆ
ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดทำการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติมาตรานี้ไซร้ ผู้เป็นหุ้นส่วนคนอื่นๆ ชอบที่จะเรียกเอาผลกำไรซึ่งผู้นั้นหาได้ทั้งหมด หรือเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนเพื่อการที่ห้างหุ้นส่วนได้รับความเสียหายเพราะเหตุนั้น แต่ท่านห้ามมิให้ฟ้องเรียกเมื่อพ้นเวลาปีหนึ่งนับแต่วันทำการฝ่าฝืน”
ตามมาตรานี้ห้ามบุคคลผู้เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการและหุ้นส่วนที่ไม่เป็นผู้จัดการด้วย เพราะหุ้นส่วนที่ไม่ได้เป็นผู้จัดการก็อาจรู้ความลับในทางการค้าของห้างได้ เนื่องจากมีสิทธิสอบถามกิจการงานตลอดจนตรวจดูสมุด บัญชี เอกสารต่างๆ ของห้างได้
กิจการที่ต้องห้ามไม่คำนึงถึงว่าเป็นกิจการของใคร ข้อสำคัญอยู่ที่ว่าผู้เป็นหุ้นส่วนเป็นผู้ดำเนินการนั้นหรือเปล่า ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนเป็นผู้ดำเนินกิจการนั้น แม้กิจการนั้นไม่ใช่ของหุ้นส่วนผู้นั้นเอง แต่ผู้เป็นหุ้นส่วนดำเนินการในฐานะตัวแทนหรือผู้แทน หรือแม้ในฐานะเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการหรือกรรมการบริษัทก็น่าจะต้องห้ามเช่นกัน แต่กิจการนั้นต้องเป็นกิจการที่มีลักษณะเป็นการแข่งขันกับกิจการของห้างหุ้นส่วนอย่างแท้จริง กล่าวคือ มีสภาพดุจเดียวกันกับกิจการของห้างหุ้นส่วน และต้องเป็นการแข่งขันกับกิจการของห้างด้วย ซึ่งต้องครบองค์ประกอบทั้งสองอย่าง แต่หากเป็นกิจการเดียวกันโดยทำกิจการคนละท้องที่ ก็ไม่ถือว่าเป็นการแข่งขันกับห้าง ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 1038

ในกรณีที่ทำการแข่งขันกันโดยมีลูกค้าเป็นลูกค้ากลุ่มเดียวกันย่อมเป็นการฝ่าฝืนทำให้ห้างฯ ที่ตนเองเป็นหุ้นส่วนอยู่เสียหายได้

ถือเป็นความผิดทางแพ่งที่ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนครับ