ปู่-ย่า และพ่อของผมเข้ามาทำประโยชน์ในที่ดินตั้งแต่ปี พ.ศ. 2504 ซึ่งในปี พ.ศ. 2507 มีการประกาศเป็นเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 ได้ถูกประกาศเป็นพื้นที่ปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร (ส.ป.ก. 4-01) ซึ่งปู่-ย่าได้แบ่งให้พ่อและอาๆคนละ 50 ไร่ ขณะที่พ่ออยู่กินกับแม่ และได้ให้กำเนิดผมบุตรคนโตเมื่อปี พ.ศ. 2514 และน้องสาวคนรองปี พ.ศ. 2518

ต่อมาพ่อได้อย่าขาดกับแม่เมื่อปี พ.ศ. 2526 โดยที่แม่ไม่ได้ร้องขอแบ่งปันทรัพย์สินใดๆ และได้สมรสใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2533 และได้เริ่มเลี้ยงโคนมเรื่อยมาตามโครงการส่งเสริมของ ส.ป.ก. และได้มีบุตรชาย 1 คน เมื่อปี พ.ศ. 2535 ผมจบการศึกษาคณะเภสัชศาสตร์เมื่อปี พ.ศ. 2539 และน้องสาวจบการศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ ตั้งแต่จบการศึกษาตัวผมประกอบอาชีพตามวิชาชีพที่เรียนมา ส่วนน้องสาวไม่ได้ประกอบอาชีพจึงได้ไปช่วยพ่อและแม่เลี้ยงทำกิจการโคนมแต่ถูกกีดกันจากแม่เลี้ยงไม่ให้ไปช่วยงานภายในฟาร์มโคนม อาซึ่งเป็นน้องสาวของพ่อได้ยกโคนมให้ 3 ตัวและให้เลี้ยงและรีดนมภายในฟาร์มของอาเรื่อยมาโดยไม่ได้รับการแบ่งปันโคนมหรือทรัพย์สินจากพ่อและแม่เลี้ยงแต่อย่างใด ต่อมาเมื่อปลายปี พ.ศ. 2551 พ่อเริ่มมีอาการป่วยเนื่องจากทำงานหนักในการเลี้ยงโคนม 80-90 ตัว เนื่องจากแม่เลี้ยงไม่เห็นด้วยที่จะจ้างคนงานขณะที่น้องชายคนเล็กอายุ 18-19 ปี ไม่เรียนหนังสือแต่ก็ไม่ได้ช่วยงานพ่อ ผมจึงตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อจะไปช่วยพ่อทำงานการเกษตรเมื่อเดือน กันยายน พ.ศ. 2551 แต่ก็ถูกกีดกันจากแม่เลี้ยงไม่ให้เข้าไปช่วยงานและปัจจุบันผมก็ยังไม่สามารถหางานทำใหม่ได้เนื่องจากอายุมาก (37 ปี 4 เดือน) ส่วนใหญ่หน่วยงานเอกชนและหน่วยงานราชการซึ่งได้แก่โรงพยาบาลรัฐต่างกำหนดรับอายุไม่เกิน 35 ปี ทำให้ปัจจุบันผมจึงว่างงานอยู่ เมื่อวันที่ 28-29 มีนาคม 2552 ทราบว่าพ่อเป็นไข้สูงแต่แม่เลี้ยงและน้องชายคนเล็กก็ไม่ได้เอาใจใส่พาไปพบแพทย์เพื่อให้การรักษาตามสมควร จนเมื่ออาๆทราบข่าวจึงพาไปโรงพยาบาลมิตรภาพเมโมเรียล จ.สระบุรี และถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสระบุรี ภายในเย็นวันเดียวกัน และพ่อก็อาการทรุดหนักลงอย่างรวดเร็วด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือดรุนแรง และสิ้นใจในตอนเช้าวันที่ 31 มีนาคม 2552 หลังจากจัดพิธีศพของพ่อเสร็จ แม่เลี้ยงแสดงท่าทีที่จะไม่แบ่งทรัพย์สินใดๆให้ผมและน้องสาว โดยเฉพาะที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ตาม พรบ.ปฏิรูปที่ดินมาตรา 39 บอกว่าเมื่อเจ้ามรดกถึงแก่ความตายให้ที่ดินตกเป็นของคู่สมรสเป็นอันดับแรก ผมสามารถฟ้องร้องให้แบ่งให้ผมกับน้องสาว หรือให้แบ่งเฉพาะน้องสาวซึ่งปัจจุบันอาศัยเลี้ยงโคนมอยู่กับฟาร์มของอาได้ไหมครับ

ส่วนทรัพย์สินรายการอื่นๆที่ทราบได้แก่

1.รถยนต์ TOYOTA VIGO 4WD 4 ประตู 1 คัน

2. เงินสดในบัญชีเงินฝาก 140,000 บาท และทราบว่ามีอีก 1-2 บัญชีซึ่งผมไม่เคยเปิดดูจำนวนเงิน

3. วัวนมประมาณ 90 ตัว

4. รถกระบะ TOYOTA HERO 1 คัน

5. รถจักรยานยนต์ 2 คัน

6. อาวุธปืน 1 กระบอก

7. รถแทร็กเตอร์เล็กพร้อมอุปกรณ์ตัดหญ้า 1 คัน

พ่อได้ประกันชีวิตโดยระบุผู้รับผลประโยชน์คือแม่เลี้ยงและทำฌาปณกิจสมาชิกและผู้ฝากไว้กับ ธกส. 2 อัน และฌาปณกิจหมู่บ้าน 1 อัน รวมเงินประมาณ 7-8 แสนบาท