ป.อ.มาตรา 326 ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐาน หมิ่นประมาท ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน หนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ป.อ.มาตรา330 ในกรณีหมิ่นประมาท ถ้าผู้ถูกหาว่ากระทำความผิดพิสูจน์ได้ว่าข้อหาว่าหมิ่นประมาทนั้นเป็นความจริง ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ (มีความผิดแต่ไม่ต้องรับโทษ) แต่ห้ามไม่ให้พิสูจน์ ถ้าข้อความที่หาว่าเป็นหมิ่นประมาทนั้นเป็นการ ใส่ความในเรื่องส่วนตัว และการพิสูจน์จะไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน

ป.อ.มาตรา 333 ความผิดในหมวดนี้เป็นความผิดอันยอมความได้

พอดีผมตรวจสอบในเว็บไซต์นึง ชัดเจนมากเลย www.panyathai.or.th ดูแล้วน่าจะเข้ามาตรา 393(ดูหมิ่นซึ่งหน้า) คือ ผู้ใดดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า หรือด้วยการโฆษณา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เขาขยายความว่า หากเป็นคำด่าหรือคำหยาบคาย ซึ่งเป็นการเหยียดหยามถือว่าเข้าข่ายของความผิดนี้ครับ สรุปว่าเป็นการพูดด้วยความเกลียดชังตัวผู้โดนด่า เป็นการด่ากันจะๆเลย ให้เข้าความผิดนี่ ที่ผมกลับมาตอบเพราะเห็นว่าคนเข้ามาดูกันเยอะคับ เผื่อเป็นประโยชน์กับคนอื่น แต่ไม่รู้ว่าที่ผมเข้าใจแบบนี้จะถูกไหมครับ อย่างไรช่วยแนะนำเพิ่มด้วยนะครับ จาก คนรักความเป็นธรรม

การพูดดังกล่าวไม่ได้ระบุว่าหมายถึงใคร บุคคลที่จะทึกทักว่าถูกกล่าวหาเป็นตนก็ต้องพิสูจน์ครับ และการพูดดังกล่าวมีลักษณะเป็นคำเปรียบเปือยถึงลักษณะของบุคคลว่ากระทำการอย่างไรก็จะได้รับผลอย่างนั้น ไม่น่าจะเข้าความผิดฐานหมิ่นประมาท

แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นว่า "คุณมันเลวอย่างนี้ คุณก็ต้องได้รับสิ่งเลว ๆ ตอบแทนอย่างนี้" การพูดเจาะจงอย่างนี้ก็เข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาทได้ครับ

แต่ไม่ตัดสิทธิที่จะยื่นฟ้องต่อผู้กล่าวนั้นและให้ศาลเป็นผู้ชี้ขาดครับ

ดูหมิ่นซึ่งหน้า

การดูหมิ่นซึ่งหน้าเป็นการด่าคำหยาบทำให้เจ็บใจครับ

งั้นผมต้องไปแจ้งความข้อหาอะไรดีครับ เพราะว่าเค้าก็พูดต่อหน้าคนอื่นในออฟฟิต ซึ่งทุกคนก็ทราบว่าเขาหมายถึงผมอย่างนี้จะแจ้งความข้อหา หมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นซึ่งหน้าครับ ขอบคุณครับ

เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งความข้อหาใด ก็เป็นไปตามนั้นครับ ได้ผลอย่างไร กลับมาเล่าให้ฟังด้วยนะครับ

เขารับข้อหาดูหมิ่นซึ่งหน้าครับ เขาบอกว่าไม่เข้าข่าย หมิ่นประมาท ตอนแรกเขาจะไม่รับว่าดูหมิ่นซึ่งหน้าด้วย เพราะบอกว่ายังไม่มีคำหยาบคาย ก็เลยชี้แจงว่า ไอ้คนเลว นี่ยังไม่หยาบคายเหรอ เขาก็เลยรับครับ ใช้เวลาไป 1.30 ชม ทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย และหงุดหงิด คือเจอทั้งคนว่าเรา พอเราไปสถานีตำรวจ ก็เหมือนเรานี่ทำไมไม่ยอมให้อภัยเขาเลย ลืมบอกว่าวันนั้นฝนตกด้วย แต่กลับบ้านก็รู้สึกว่าเราจะรุนแรงไปหรือเปล่า ที่บ้านก็เลยบอกว่าให้ดูท่าทีเขาก่อนละกัน ผมตอนนี้สบายใจละ ปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปด้วยตัวมันเอง

ดีแล้วครับ ตอนนี้ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของตำรวจนะครับ ผมว่าตัวอย่างเรื่องนี้น่าจะช่วยให้คนหลายๆคน ยับยั้งชั่งใจได้มากขึ้นเวลาจะพูดอะรซักอย่างออกไป เพราะในที่ทำงานมีเรื่องกระทบกระทั้งกันเสมอ
เอาใจช่วยนะครับ  แต่อย่าลืมว่าเขาก้อาจจะหาช่องโว่ เพื่อฟ้องเรากลับเหมือนกันนะครับ
ได้ความคืบหน้าว่าไงมาเล่าให้ฟังนะครับ

ขอบคุณที่กลับมาเล่าให้ฟังครับ