ขอคำชี้แนะให้เข้าใจครับ | |
การชี้สองสถาน วันนัดพร้อม ยื่นคำให้การ สืบพยานโจทก์ สืบพยานจำเลย ผมยังสับสนในเรื่องของขั้นตอนครับว่า อย่างนี้มาก่อนหลัง
ช่วยชี้แนะให้เข้าใจด้วยครับ ขอบคุณครับ | |
ผู้ตั้งกระทู้ นุภาพ :: วันที่ลงประกาศ 2009-07-11 18:38:07 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (1961510) | |
แบ่งเป็นสองอยางน่ะครับว่าเป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญา คดีอาญา ก็จะไม่มีการชี้สองสถาน แต่ศาลจะนัดพร้อมก่อนเพื่อสอบคำให้การจำเลยว่าจะให้การอย่างไร เมื่อนัดพร้อมแล้ว ศาลจึงจะกำหนดนัดสืบพยานโจทก์ก่อน แล้วก็กำหนดนัดสืบพยานจำเลย ขั้นตอนการกำหนดนัดก็นัดในวันเดียวกันนั้นแหละ แต่นัดขึ้นศาลคนละวัน คดีแพ่ง ก็แบ่งเป็นสองอย่างอีกนั้นแหละอย่าเพิ่งงง ** ถ้าเป็นคดีที่ไม่ข้อยุ่งยาก ทุนทรัพย์ไม่เกิน 300,000 บาท เขตอำนาจก็จะอยู่ที่ศาลแขวงก็ไม่ต้องมีการนัดชี้สองสถาน ศาลก็จะกำหนดนัดพร้อมและนัดสืบพยานโจทก์ในวันเดียวกัน หากจำเลยไม่มาศาลก็พิจารณาฝ่ายเดียว (ที่มีแต่ฝ่ายโจทก์) ได้เลย ไม่ต้องนัดสืบพยานจำเลยอีก ***ถ้าเป็นคดีอื่นเช่นคดีไม่ทุนทรัพย์ หรือมีทุนทรัพย์เกิน 300,000 บาท เมื่อโจทก์ยื่นฟ้องแล้วศาลก็จะกำหนดนัดพร้อมก่อน และเมื่อจำเลยได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแล้วต้องยื่นคำให้การภายในกำหนด 15 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับ เมื่อถึงกำหนดนัดโดยจำเลยได้ยื่นคำให้การแล้ว ศาลอาจกำหนดวันนัดชี้สองสถานหรือกำหนดนัดวันสืบพยานโจทก์และจำเลยไปเลยก็ได้ จะงงไหมละเนี่ยพี่น้อง ?????? | |
ผู้แสดงความคิดเห็น คุณปู่ยังหนุ่ม วันที่ตอบ 2009-07-12 12:17:31 |
ความคิดเห็นที่ 2 (1961593) | |
- การชี้สองสถานเป็นกระบวนพิจารณาสำหรับคดีแพ่งสามัญ เป็นขั้นตอนที่ศาลจะกำหนดประเด็นข้อพิพาทในคดีจากคำฟ้องและคำให้การที่คู่ความยื่นต่อศาล และอาจสอบถามคู่ความ ประเด็นตามคำฟ้องใด จำเลยให้การรับสารภาพ ก็ถือเป็นยุติ ประเด็นข้อพิพาทคงเหลือเฉพาะในข้อที่จำเลยปฏิเสธ เมื่อกำหนดประเด็นข้อพิพาทแล้ว ศาลจะกำหนดหน้าที่นำสืบในแต่ละประเด็น โดยหลัก ป.วิ.พ. มาตรา ๘๔ คู่ความฝ่ายใดกล่าวอ้างข้อเท็จจริงอย่างใดเพื่อสนับสนุนคำฟ้องหรือคำให้การของตน ย่อมมีหน้าที่นำสืบในประเด็นข้อนั้น หรือมีข้อกฎหมายสันนิษฐานเป็นคุณแก่คู่ความฝ่ายใด ฝ่ายนั้นมีหน้าที่พิสูจน์เพียงว่าตนได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขแห่งการที่ตนได้รับประโยชน์แห่งข้อสันนิษฐานนั้นแล้ว หน้าที่นำสืบอาจตกแก่ฝ่ายโจทก์หรือจำเลยก็ได้ สรุปการชี้สองสถานคือการที่ศาล ๑ กำหนดประเด็นข้อพิพาท ๒ กำหนดหน้าที่นำสืบ คำฟ้องต้องมีข้ออ้าง คำให้การมีข้อเถียง หากข้อที่อ้างว่าจำเลยทำผิดมีหลายข้อแต่ละข้อมีข้อเท็จจริงยุ่งยากและยาว และในคำให้การจำเลยก็เถียง ศาลก็ต้องชี้สถานแรกก่อนว่าคดีมีประเด็นอย่างไรและประเด็นพิพาทมีอย่างไร วันนัดชี้สองสถาน คือ วันที่จะกำหนดประเด็นข้อพิพาท ที่จะต้องนำสืบพยาน โดยศาลจะต้องพิจารณาจากคำให้การและคำฟ้องของคู่ความ โดยต้องดูว่ามีประเด็นพิพาทเกิดขึ้นคือคู่ความไม่ยอมกัน หรือเป็นประเด็นที่คู่ความไม่รับกัน หากประเด็นใดรับกันหรือไม่สู้กันก็ไม่ต้องนำมาสืบพยาน คดีที่จะมีการชี้สองสถานจะเป็นคดีแพ่งครับ คคีอาญาไม่ต้องมี แต่แพ่งก็ไม่ทั้งหมดครับที่จะมีวันชี้สองสถาน
วันนัดพร้อม เป็นวันที่ศาลนัดคู่ความเพื่อมาศาลพร้อมกันทั้งสองฝ่ายหรือกว่านั้นอาจเป็นการนัดมาเพื่ออะไรก็ได้แล้วแต่กรณี อย่างเช่น คู่ความขอเจรจากันโดยขอเวลาคุยกัน ขอเลื่อนคดีไป ถ้าตกลงกันได้ก็จะมาทำยอมกัน อย่างนี้ศาลอาจให้เลื่อนคดีไปแล้วนัดพร้อมให้คู่ความมาแถลงว่าการเจรจาเป็นอย่างไรบ้าง
วัน "นัดพร้อม" เป็นคำพูดที่ทนายและเจ้าหน้าที่ศาลพูดกันจนติดปาก ซึ่งถ้าเปิดประมวลกฎหมายหา จะไม่พบคำว่า "นัดพร้อม" ในตัวบทเลย แต่สิ่งที่กระทำในวันนัดพร้อมนั้น จะแยกเป็น ยื่นคำให้การ เป็นไปตาม มาตรา 177 (ปรมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง) มาตรา 177 เมื่อได้ส่งหมายเรียกและคำฟ้องให้จำเลยแล้ว ให้จำเลย ทำคำให้การเป็นหนังสือยื่นต่อศาลภายในสิบห้าวัน
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น * วันที่ตอบ 2009-07-12 18:29:55 |
[1] |