ReadyPlanet.com


ทำพินัยกรรมตั้งมูลนิธิ


ขณะที่ผู้ตายมีชีวิตได้ทำพินัยกรรมยกที่ดินให้มูลนิธิแห่งหนึ่งที่ยังไม่ได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และขณะถึงแก่ความตายก็ยังไม่จดทะเบียนให้เป็นนิติบุคคลให้ถูกต้องตามกฎหมาย ดังนี้มรดกตามพินัยกรรมจะมีผลบังคับได้หรือไม่


ผู้ตั้งกระทู้ นายรวย :: วันที่ลงประกาศ 2009-06-29 18:01:11


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1956918)

ใช้บังคับได้ครับเพราะหากได้จดทะเบียนมูลนิธิถูกต้องแล้ว ก็ดำเนินการโอนมรดกตามพินัยกรรมได้เลย

ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2009-06-30 12:55:41


ความคิดเห็นที่ 2 (1957419)

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้จัดการมรดกนางสาวคำชวย สุจินดา ก่อนนางสาวคำชวยถึงแก่กรรมได้ทำพินัยกรรมยกที่ดินถวายเป็นมูลนิธิของวัดเจดีย์หลวง และ วัดพระสิงห์ แต่ปรากฏว่ามูลนิธิของวัดเจดีย์หลวงยังไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เจ้าพนักงานที่ดินจำเลยจึงไม่ยอมจดทะเบียนโอนมรดกให้ จนถึงบัดนี้เป็นเวลา 7 ปีเศษแล้ว จึงถือว่าวัดเจดีย์หลวงไม่มีมูลนิธิขณะเจ้ามรดกถึงแก่กรรมและไม่มีผู้รับมรดกตามพินัยกรรม พินัยกรรมจึงเป็นอันไร้ผล ทรัพย์มรดกดังกล่าวกึ่งหนึ่งจึงตกได้แก่ทายาทโดยธรรมซึ่งตกลงกันให้ยกที่ดินดังกล่าวกึ่งหนึ่งแก่มูลนิธิของวัดฟ้าฮ่าม แต่จำเลยไม่ยอมจดทะเบียนให้ จึงฟ้องขอให้ศาลบังคับ

จำเลยให้การว่า แม้พินัยกรรมจะเป็นการยกทรัพย์ให้มูลนิธิเป็นการล่วงหน้าก็ตาม แต่เมื่อมูลนิธิได้ก่อตั้งขึ้นภายหลัง ทรัพย์มรดกก็ตกเป็นของมูลนิธิ ข้อกำหนดในพินัยกรรมมีผลใช้บังคับได้

ในวันชี้สองสถานคู่ความรับกันว่า ขณะเจ้ามรดกถึงแก่กรรม มูลนิธิวัดเจดีย์หลวงยังไม่ได้ก่อตั้งขึ้น และคู่ความท้ากันขอให้ศาลวินิจฉัยโดยไม่สืบพยานว่าข้อกำหนดในพินัยกรรมที่ว่าเจ้ามรดกถวายที่ดินให้เป็นมูลนิธิวัดเจดีย์หลวงจะมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายหรือไม่ หากสมบูรณ์โจทก์ยอมแพ้ หากไม่สมบูรณ์ก็ขอให้ศาลวินิจฉัยต่อไปว่าโจทก์จะยกทรัพย์มรดกดังกล่าวให้แก่มูลนิธิวัดฟ้าฮ่ามได้หรือไม่

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ข้อกำหนดในพินัยกรรมไม่สิ้นผลใช้บังคับได้พิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในขณะที่นางสาวคำชวยเจ้ามรดกยังมีชีวิตอยู่นั้นนางสาวคำชวยได้บริจาคเงินให้เพื่อสมทบทุนเจดีย์หลวงมูลนิธิ ดังปรากฏตามภาพถ่ายใบรับเงินท้ายฟ้องโจทก์ และต่อมาได้ทำพินัยกรรมยกที่ดินถวายเป็นมูลนิธิของวัดเจดีย์หลวง ถือได้ว่านางสาวคำชวยได้ทำพินัยกรรมสั่งจัดสรรที่ดินพิพาทเพื่อจัดตั้งเจดีย์หลวงมูลนิธิไว้แล้ว เพียงแต่มูลนิธิยังไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายจึงรับโอนที่ดินตามพินัยกรรมทางทะเบียนไม่ได้เท่านั้น เช่นนี้ แม้จะเป็นเวลาล่วงเลยมานานหลายปี ก็เป็นเรื่องที่โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกจะต้องดำเนินการให้มีผลทางกฎหมายในการรับโอนที่ดินไปตามเจตนาของนางสาวคำชวยเจ้ามรดก เหตุที่เจดีย์หลวงมูลนิธิยังไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลจนถึงขณะที่โจทก์ฟ้อง ยังถือไม่ได้ว่าพินัยกรรมของนางสาวคำชวยไร้ผลเพราะเหตุไม่มีผู้รับทรัพย์ดังข้ออ้างของโจทก์ได้ โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกหรือทายาทจึงไม่มีสิทธิและอำนาจที่จะตกลงกันเอาที่ดินตามฟ้องไปโอนให้ผู้อื่น ที่จำเลยปฏิเสธไม่ยอมจัดการจดทะเบียนโอนที่ดินตามพินัยกรรมให้แก่ผู้อื่น จึงชอบแล้ว เมื่อข้อกำหนดตามพินัยกรรมของนางสาวคำชวยมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายดังกล่าว โจทก์จึงแพ้คดีตามคำท้าดังข้อวินิจฉัยของศาลล่างทั้งสอง ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

( สมคิด มงคลชาติ - ประพจน์ ถิระวัฒน์ - ไพโรจน์ ไวกาสี )

 

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 986/2519

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2009-07-01 15:26:56



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล