ภาระการพิสูจน์ (ม.84) มาตรา 84 วางหลักไว้ว่า ถ้าคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งกล่าวอ้างข้อเท็จจริงอย่างใดๆ เพื่อสนับสนุนคำฟ้องหรือคำให้การของตน ให้หน้าที่นำสืบข้อเท็จจริงนั้นตกอยู่แก่คู่ความฝ่ายที่กล่าวอ้าง แต่ว่า (1) คู่ความไม่ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงซึ่งเป็นที่รู้กันอยู่ทั่วไป หรือซึ่งไม่อาจโต้แย้งได้ หรือซึ่งศาลเห็นว่าคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งได้รับแล้ว (2) ถ้ามีข้อสันนิษฐานไว้ในกฎหมายเป็นคุณแก่คู่ความฝ่ายใด คู่ความฝ่ายนั้นต้องพิสูจน์แต่เพียงว่าตนได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขแก่งการที่ตนจะได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานนั้นครบถ้วนแล้ว คำอธิบาย 1. ภาระการพิสูจน์ เป็นความหมายเดียวกับ หน้าที่นำสืบ ตาม ม.84 2. หลักกฎหมายของ ม.84 คือ ผู้ใดกล่าวอ้าง ผู้นั้นนำสืบ 3. เป็นการนำสืบ ข้อเท็จจริง เพื่อสนับสนุนคำฟ้องของโจทก์ หรือคำให้การของจำเลย 4. แต่มีข้อยกเว้น 2 ประการ ที่คู่ความไม่จำเป็นต้องนำสืบข้อเท็จจริง กล่าวคือ (1) ข้อเท็จจริงที่รู้กันอยู่ทั่วไป เช่น วันเสาร์วันอาทิตย์เป็นวันหยุดราชการ - วันที่ 23 ตุลาคมเป็นวันปิยมหาราช - พระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันออก - กลางคืนสว่าง กลางคืนมืด (2) ข้อเท็จจริงที่ไม่อาจโต้แย้งได้ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า กฎหมายปิดปาก ไม่ให้เถียงเป็นอย่างอื่น ซึ่งมีได้หลายกรณี เช่น - ตัวแทนเชิด ปพพ. ม.821 , 822 (ปิดปากโดยการกระทำหรือการแสดงออก) - ยอมให้เพื่อนใช้ชื่อของตนเป็นชื่อห้างหุ้นส่วน ปพพ. ม.1054 (ปิดปากโดยเอกสาร) - คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ปวอ.46 (ปิดปากโดยคำพิพากษาของศาล) (3) ข้อเท็จจริงนั้นคู่ความยอมรับกันแล้ว เมื่อคู่ความฝ่ายหนึ่งกล่าวอ้าง และอีกฝ่ายหนึ่งนั้นยอมรับ เรียกว่า คำรับในศาล หมายถึง การรับในคดีที่กำลังฟ้องร้องกัน - เมื่อยอมรับกันเช่นนั้น ผลคือ ประเด็นแห่งคดี นั้นเป็นอันยุติ ไม่ต้องนำสืบพยาน - คำรับในศาล อาจเกิดขึ้นได้ใน 2 ลักษณะ ซึ่งมีผลทางกฎหมายต่างกันเพียงเล็กน้อย * เกิดจากการรับกันในคำคู่ความ เช่น คำฟ้อง คำให้การ มีผลเท่ากับไม่มี ประเด็นข้อพิพาทเกิดขึ้นเลย * เกิดในระหว่างดำเนินกระบวนพิจารณาคดี มีผลทำให้ประเด็นข้อพิพาทที่มี อยู่นั้นระงับสิ้นไป
- คำรับในศาล อาจเกิดขึ้นในลักษณะเป็นคำรับโดยชัดแจ้งก็ได้ หรือโดยปริยายก็ได้ ซึ่งคำรับโดยนั้นไม่มีปัญหาใดๆ
แต่คำรับโดยปริยายจะต้องมีลักษณะพิเศษ ดังนี้ * คำฟ้องของโจทก์ข้อใด ถ้าจำเลยมิได้ปฏิเสธโดยชัดแจ้งไว้ในคำให้การ ถือว่าจำเลยยอมรับในข้อนั้น ตาม ม.177 ว.2 * คำฟ้องของโจทก์ข้อใด ถ้าจำเลยปฏิเสธโดยไม่ชัดแจ้ง มีผลเท่ากับไม่ได้ ปฏิเสธ * ข้อที่จำเลยยกขึ้นปฏิเสธโดยชัดแจ้งแล้วก็ดี หรือข้ออ้างที่จำเลยยกกล่าวขึ้น ใหม่ก็ดี จำเลยจะต้องแสดงเหตุไว้ด้วย ตาม ม.177 ว.2 ความท้าย มิฉะนั้น จำเลยจะนำพยานหลักฐานมาสืบสนับสนุนไม่ได้ * เหตุผลที่จำเลยยกขึ้นสนับสนุนข้ออ้างข้อโต้เถียงของตนนั้น จะต้องเป็น เหตุผลที่กฎหมายยอมรับ * การให้การต่อสู้ไว้ทุกๆ จุดนั้น จะต้องระวังอย่าให้มีลักษณะเป็นคำให้การ สองแง่สองง่ามที่ขัดกันเองอยู่ในตัว (4) ถ้ามีข้อสันนิษฐานไว้ในกฎหมายเป็นคุณแก่คู่ความฝ่ายใด คู่ความฝ่ายนั้นพิสูจน์เพียงว่า ตนได้ปฏิบัติตามนั้นครบถ้วนแล้ว
แหล่งที่มา http://nitistou.wordpress.com/
|