ReadyPlanet.com


การครอบครองปรปักษ์


กรณี นาง ก. ได้รับมรดกเป็นโฉนดที่ดินพร้อมบ้าน และได้ทำการโอนเป็นกรรมสิทธิ์พร้อมทั้งเป็นเจ้าบ้านเรียบร้อยแล้ว แต่ นาง ก.ไม้ได้เข้าอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว แต่ได้ปลูกพืชทำกินในที่ดิน และเข้าตรวจตรา ดูแล รักษาที่ดินและบ้านอยู่เสมอ และบ้านหลังดังกล่าวได้อนุญาตให้พี่ชายพักอาศัยอยู่ส่วนหนึ่ง  และให้คนงานอาศัยอยู่ส่วนหนึ่ง ถามว่า หากพี่ชายนาง ก.อาศัยอยู่เกิน 10 ปี สามารถฟ้องร้องครอบครองบ้านได้หรือไม่


ผู้ตั้งกระทู้ ชัย :: วันที่ลงประกาศ 2009-08-26 13:36:32


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1977710)

" และบ้านหลังดังกล่าวได้อนุญาตให้พี่ชายพักอาศัยอยู่ส่วนหนึ่ง  และให้คนงานอาศัยอยู่"

มาตรา 1382 บุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยความสงบ และโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบ ครองติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกัน เป็นเวลาห้าปีไซร้ ท่านว่าบุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์

มาตรา 1381 บุคคลใดยึดถือทรัพย์สินอยู่ในฐานะเป็นผู้แทนผู้ครอบครอง บุคคลนั้นจะเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือได้ ก็แต่โดยบอกกล่าวไปยังผู้ครอบ ครองว่าไม่เจตนาจะยึดถือทรัพย์สินแทนผู้ครอบครองต่อไป หรือตนเองเป็นผู้ ครอบครองโดยสุจริต อาศัยอำนาจใหม่อันได้จากบุคคลภายนอก

 

เมื่อนำข้อเท็จจริงตามคำถามของคุณและหลักกฎหมายมาพิจารณาจะสรุปได้ดังนี้

---ข้อเท็จจริงคุณบอกว่า "ได้อนุญาต"

แสดงว่าพี่ชายคุณรวมทั้งคนงานครอบครองที่ดินของคุณในฐานะเป็นผู้แทน แต่ มาตรา 1382 กำหนดเกี่ยวกับการครอบครองปรปักษ์ไว้ว่า "ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ"

ถ้าพี่ชายคุณ และคนงานต้องการครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ก็ต้อง "เปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือ"

คือต้องบอกกล่าวแจ้งให้คุณทราบว่า ต่อไปนี้ไม่ต้องการยึดดถือแทนอีกต่อไป อยากได้ที่ดินให้ไปฟ้องเอา อย่างนี้จึงจะถือว่าเป็นการเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือ

ดังนั้น เมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า พี่ชายและคนงานได้ปฏิบัติดังกล่าวอยู่ตราบใด การยึดถือครอบครองที่ดินมีโฉนดของคุณย่อมเป็นการครอบครองแทนคุณผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ จะครอบครอง นานเท่าใดก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์โดยการครองครองปรปักษ์

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2009-08-26 18:37:59



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล