จากคำถามเก่าที่ได้เรียนถามอาจารย์นะคะ

ดิฉันได้รับมรดกจากแม่ เมื่อตอนอายุ 17 ปี (ตอนนี้ดิฉันอายุ 50 กว่าปีค่ะ) แม่ดิฉันได้ทำพินัยกรรมยกที่ดินให้ดิฉันคนเดียว ประมาณ 4 ไร่

โดยในที่ดินผืนเดียวกันนี้ มีบ้าน 2 หลังปลูกอยู่ คือบ้านดิฉัน และบ้านพี่สาวดิฉัน (พี่น้องท้องเดียวกัน)

บ้านสองหลังที่ปลูกนี้ปลูกตั้งแต่แม่ดิฉันยังมีชีวิตอยู่ และทั้งสองหลังได้บ้านเลขที่ค่ะ

หลังจากนั้น ดิฉันได้ให้พี่สาวอาศัยอยู่ 1 ไร่ คะแต่มีสิ่งปลูกสร้างที่เกินออกมานิดหน่อย

และต่อมาเมื่อต้นปี พี่สาวของดิฉันได้รื้อบ้านเก่าและขออนุญาตปลูกสิ่งปลูกบ้านใหม่ซึ่งเนื้อที่ได้เกินกว่าที่ดินฉันเคยอนุญาต ดิฉันจึงไม่อนุญาต และบอกให้เขารื้อถอนออกไป

จึงทะเลาะกันและพี่สาวของดิฉันได้ฟ้องร้องดิฉันว่าไปรบกวนสิทธิครอบครองของเขา ซึ่งครอบครองมา 30 กว่าปี

เขาฟ้องร้องมาในเนื้อที่ 2 งานเท่านั้นค่ะ

ก่อนหน้าที่จะฟ้องร้อง

1. ดิฉันได้ทำพินัยกรรมว่าจะยกที่ดิน 1 ไร่ ที่เคยให้พี่สาวอาศัยอยู่ ให้กับลูกชายของเขา (ตอนนี้ดิฉันยังมีชีวิตอยู่) นี่เป็นการแสดงเจตนาที่ฝ่ายพี่สาวจะยกมาอ้างได้ไหมคะ เพราะตอนนี้ดิฉันไม่ยกให้แล้ว

2. พี่สาวของดิฉันทราบดีอยู่แล้วว่า ดิฉันให้เขาอาศัยอยู่ เพราะที่ดินผืนนี้ดิฉันได้รับมรดกจากแม่ และตอนนี้ที่ดินเป็นโฉนดชื่อของดิฉัน โฉนดออกมาได้ 5 ปีค่ะ

3. หากดิฉันต้องการฟ้องขับไล่ พี่สาว พร้อมบริวารของเขาให้ออกจากที่ดินของดิฉันทั้งหมด เขาจะอ้างเรื่องว่าดิฉันเคยมีเจตนาจะยกที่ดินให้กับลูกชายเขาได้หรือไม่คะ

คำถามค่ะ  หากอาจารย์เป็นพี่สาวของดิฉัน อาจารย์จะยกข้อต่อสู้ไหนต่อสู้กับดิฉันได้บ้างคะ

เพราะพี่สาวของดิฉัน หลักฐานเอกสารใด ๆ ก็ไม่มี

แต่ว่าเขายังจะสู้กับดิฉันและมั่นใจว่าเขาจะชนะด้วยค่ะ

รบกวนอาจารย์ช่วยตอบด้วยคะ

และขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้

ขอบคุณค่ะ