ผมได้ทำผู้หญิงท้อง รู้สึกได้ว่าท้องประมาณ 2 เดือนแล้ว ซึ่งผมพาเธอไปฝากครรภ์เอง แต่ตอนแรกก็อยากเอาออกเพราะเชื่อว่าเราทั้ง 2 คน ใช้ชีวิตคู่ด้วยกันไม่ได้ แต่ฝ่ายหญิงกลับไม่เอาออก หลังจากนั้นผมรู้สึกสำนึกจึงได้มีการจัดเตรียมงานหมั้นและมองดูกฤษ์การแต่งงานเอาไว้เมื่อวันที่ 1 มค.2553 (วันหมั้น) แต่ในระหว่างทางเกิดทะเลาะกันด้วยสาเหตุเล็กๆน้อยๆ จึงเกิดความไม่เข้าใจกันผมจึงบอกว่า เป็นยังงี้จะเข้าใจกันได้ไหมเนี้ย ผมจึงแค่ทบทวน ทางแม่ก็ซื้อแหวนหมั้น และญาติๆก็เตรียมของเพื่อที่จะจัดพิธีกันแล้วแต่ต้องมาล้มเลิกกันไปเพราะฝ่ายหญิงพอรู้ว่าสินสอดไม่เป็นที่น่าพอใจและอีกอย่าง ผมถามเค้าก่อนว่ายังอยากใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอีกหรือไม่ เค้าตอบว่าไม่แล้ว และไม่รักผมแล้ว ผมจึงตัดสินใจ บอกทางแม่และญาติๆว่าล้มเลิกพิธีงานหมั้นได้เลย แต่หลังจากนั้น2-3 วันฝ่ายหญิงกลับคิดได้อยากจะขอมาคืนดีอยากปรัปปรุงตัว แต่ทางญาติผู้ใหญ่ของผมรับนิสัยการเห็นแก่เงินของทางฝ่ายหญิงไม่ได้จึงไม่เห็นด้วยในการกลับมาครั้งนี้ ส่วนผมเองใจลึกๆก็อยากให้อภัยแต่มองระยะยาวกลัวว่าเราทั้ง 2 คน จะต้องทะเลาะเบาะแว้งกันอีกเมื่อแต่งงานกันไป ส่วนเด็กในท้อง ผมบอกฝ่ายหญิงไปว่า ถ้าคลอดแล้วไปตรวจ ดีเอ็นเอ ถ้าเป็นลูกของผมจริงผมก็ยินดีในการรับผิดชอบ แต่ในระหว่างทางที่จะถึงเวลาคลอดนั้น ทางฝ่ายหญิงต้องการให้ทางผู้ใหญ่มาขอขมาแล้วก็ให้จัดงานเล็กๆน้อยๆ ซึงผมก็ไม่สามารถจัดให้ได้แล้วเพราะเตรียมงานไปแล้วแต่ฝ่ายหญิงไม่เอาเองจะด้วยอารมณ์อะไรก็แล้วแต่ แต่ตอนนี้มันเกินจะเยียวยาแล้วอยากถามว่าในฐานะที่ผมเป็นผู้ชายเรื่องอย่างนี้เรามีฝ่ายถูกฝ่ายเรียกร้องค่าเสียหายหรือดำเนินคดีได้หรือไม่ หรือจะมีวิธีแก้อย่างไร เพื่อให้เรื่องนี้จบลงด้วยดี ขอคำแนะนำด้วยครับ