ฟ้องคดีอุทลุม | |
ขอความกรุณาด้วยครับ คือว่า มีญาติขณะนั้น อายุ 19 ปี ได้รับโฉนดที่ดิน น.ส.3 ก มา 1 แปลง เป็นชื่อของมารดา ที่เสียชีวิตแล้ว และบิดา-มารดา ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ต่อมาบิดาได้มาจดรับรองบุตร และได้นำโฉนดไปจำนอง โดยใช้ชื่อของญาติคนนี้ และได้นำเงินมาชื่อรถยนต์ 1 คัน ให้ โดยให้ญาติคนนี้ เป็นผู้จ่ายเงินผ่อน แต่ใช้ชื่อบิดาเป็นคนซื้อ หลังจากได้ใช้รถยนต์มาประมาณ 2 เดือน บิดาก็ได้มายึดรถยนต์คนดังกล่าวไป โดยไปขายให้กับบุคคลอื่น และญาติไม่ได้ส่งเงินผ่อนรถอีก เพราะไม่ได้ใช้รถยนต์แล้ว จึงมีข้อสงสัยว่า หากญาติคนนี้จะฟ้องบิดาเป็นคดีอุทลุม และจะได้รับเงิน หรือรถยนต์ คืนหรือไม่ครับ หรือถ้าเป็นไปได้ จะโยนหนี้ก้อนที่เอาโฉนดไปจำนองให้กับบิดาได้หรือไม่ เพราะเงินที่ได้มาบิดานำไปซื้อรถยนต์หมดแล้ว และหลังจากบิดาได้ขายรถยนต์ไป ก็ไม่ได้นำเงินมาให้คืนแต่อย่างใด จนต้องรับภาระหนี้ที่นำโฉนดไปจำนองไว้ ขณะนี้อายุ 20 ปีแล้ว ไม่ได้ทำงาน ไม่มีรายได้อื่นใดเลย เงินที่ฝากบิดานำไปจ่ายค่าผ่อนรถ บิดาก็ไม่ได้ไปจ่ายให้ ค้างค่างวดรถหลายเดือนแล้ว โดยบิดาอ้างว่าเป็นชื่อของบิดา จะทำการใดก็ได้ หรือจะฟ้องเรียกค่าเสียหายที่นำรถยนต์ในความครอบครองไปขายต่อ หรือจะฟ้องผู้รับซื้อรถยนต์เป็นรับของโจรจะได้หรือไม่ครับ ทั้งทางแพ่งและอาญา ขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ผู้เดือนร้อนแทน
| |
ผู้ตั้งกระทู้ ผู้เดือนร้อนแทน :: วันที่ลงประกาศ 2010-01-23 13:59:37 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2027721) | |
เป็นพ่อเป็นลูกกันอย่าฟ้องกันเลยครับ รถยนต์ถือว่ายังเป็นของบริษัทผู้ให้เช่าซื้อจนกว่าจะได้ชำระค่างวดครบถ้วน ดังนั้นจะโอนขายไปไม่ได้ครับ เมื่อคู่มือจดทะเบียนยังกับบริษัทผู้ให้เช่าซื้อ ครบกำหนดต้องต่อภาษี ไม่มีคู่มือจดทะเบียนตัวจริงไปดำเนินการก็ต่อภาษีไม่ได้ครับ พูดคุยกันดีกว่า กว่าจะโตมาได้พ่อก็มีความดีอุปการะเลี้ยงดูมาตั้งแต่ยังแบเบาะ อย่าถึงกับฟัองพ่อฟ้องแม่เลย เงินทองเป็นของนอกกาย หากคุยกันไม่เข้าใจก็นึกเสียว่าเป็นบทเรียนต่อไป
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2010-01-23 14:16:30 |
[1] |