ReadyPlanet.com


เป็นผู้แทนเฉาะคดีได้ไหม


ผมเป็นน้าของผู้เยาว์ ๒ คน ซึ่งเป็นบุตรของพี่ชายได้ถูกรถยนต์ชนจนเสียชีวิต ขณะนี้พนักงานอัยการสั่งฟ้องคดีอาญาแก่จำเลยแล้วที่ขัยรถยนต์ชนพี่ชายพ่อของผู้เยาว์ทั้งสอง ศาลได้มีหนังสือให้มาศาลเพื่อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน โดยที่ผู้ตายได้หย่ากับภรรยาก่อนเสียชีวิต ซึ่งเป็นมารดาของผู้เยาว์ มารดาของผู้เยาว์ไม่อยากขึ้นศาล ผมซึ่งเป็นน้าเกรงว่าเสียสิทธิในการเรียกร้องค่าเสียหาย จึงอยากถามว่า ผมสามารถที่จะเข้าเป็นผู้ดทนเฉพาะคดีเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดจากการละเมิดขอจำเลยแทนผู้เยาว์ทั้งสองได้หรือไม่อย่างไรครับ ถ้าได้ควรจะให้เหตผลอย่างไร และถ้าไม่ได้ควรทำอย่างไรครับ ด่วนนะครับ เพราะว่าศาลนัดวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๕๓ ครับ ขอบพระคุณมากครับ



ผู้ตั้งกระทู้ ปรัชญา :: วันที่ลงประกาศ 2010-01-19 10:28:58


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2026342)

มารดาของผู้เยาว์เป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็ก ศาลไม่อาจตั้งผู้แทนเฉพาะคดีให้กับผู้เยาว์ได้เว้นแต่

มาตรา 6 ในคดีอาญาซึ่งผู้เสียหายเป็นผู้เยาว์ ไม่มีผู้แทนโดยชอบธรรมหรือเป็นผู้วิกลจริตหรือคนไร้ความสามารถ ไม่มีผู้อนุบาล หรือซึ่งผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้อนุบาลไม่สามารถจะทำการตามหน้าที่โดยเหตุหนึ่งเหตุใด รวมทั้งมีผลประโยชน์ขัดกันกับผู้เยาว์ หรือคนไร้ความสามารถนั้น ๆ ญาติของผู้นั้นหรือผู้มีประโยชน์ เกี่ยวข้องอาจร้องต่อศาลขอให้ตั้งเขาเป็นผู้แทนเฉพาะคดีได้
เมื่อได้ไต่สวนแล้วให้ศาลตั้งผู้ร้องหรือบุคคลอื่น ซึ่งยินยอมตาม ที่เห็นสมควรเป็นผู้แทนเฉพาะคดี เมื่อไม่มีบุคคลใดเป็นผู้แทนให้ ศาลตั้งพนักงานฝ่ายปกครองเป็นผู้แทน
ห้ามมิให้เรียกค่าธรรมเนียมในเรื่องขอตั้งเป็นผู้แทนเฉพาะคดี

การที่คุณจะอ้างว่า มารดาไม่อยากขึ้นศาล คงไม่ใช่เหตุผลที่ดีนะครับ เพราะธรรมชาติสัตว์โลก แม่ย่อมรักลูกของตนยิ่งกว่าผู้ใดครับ

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่  2958/2541

 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่าเด็กหญิงนิภาพร ... เกิดเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2522เป็นบุตรของนายพร .... กับนางเรวดีซึ่งอยู่กินฉันสามีภรรยาโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส นางเรวดีหนีออกจากบ้านตั้งแต่เด็กหญิงนิภาพรยังเล็กอยู่ และนายพรเป็นผู้ให้ความอุปการะเลี้ยงดูให้การศึกษา และให้ใช้นามสกุล คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยเป็นประการแรกว่า นายพรมิใช่ผู้เสียหายหรือผู้มีอำนาจจัดการแทนเด็กหญิงนิภาพรผู้เสียหายจึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้น เห็นว่า แม้ตามคำฟ้องจะระบุว่าเด็กหญิงนิภาพร ธงชาย ผู้เยาว์ โดยนายพร ธงชาย บิดาผู้ปกครองผู้แทนโดยชอบธรรมโจทก์ก็ดีแต่ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องปรากฏข้อเท็จจริงว่า เด็กหญิงนิภาพรเป็นบุตรของโจทก์อันเกิดกับนางเรวดีภรรยาของโจทก์ แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันตามกฎหมายและนางเรวดีหนีออกจากบ้านตั้งแต่เด็กหญิงนิภาพรยังเล็กอยู่ซึ่งนายพรเป็นผู้ให้ความอุปการะเลี้ยงดู ให้การศึกษา และให้ใช้นามสกุล ภายหลังไต่สวนมูลฟ้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ประทับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณา ดังนี้กรณีเป็นเรื่องเด็กหญิงนิภาพรผู้เสียหายเป็นผู้เยาว์ซึ่งมารดาผู้เสียหายโดยชอบธรรมไม่สามารถจะทำการตามหน้าที่ได้ ญาติของผู้นั้นหรือผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้องอาจร้องขอต่อศาลชั้นต้นขอให้ตั้งเป็นผู้เฉพาะคดีได้ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 6 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเมื่อข้อเท็จจริงเรื่องนี้ปรากฏต่อศาลชั้นต้นในระหว่างการไต่สวนมูลฟ้อง การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ประทับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาจึงถือได้โดยปริยายว่า ศาลชั้นต้นตั้งให้นายพรเป็นผู้แทนเฉพาะคดีตามกฎหมายแล้ว อีกทั้งยังปรากฏว่าก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาคดีศาลชั้นต้นยังมีคำสั่งตั้งนายพรเป็นผู้แทนเฉพาะคดีได้ด้วยโจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง

          พิพากษายืน

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2010-01-19 18:18:14


ความคิดเห็นที่ 2 (2026343)

อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาย่อยาว


คำพิพากษาศาลฎีกาที่  2958/2541


 พ. มิได้เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของ น.ได้เป็นโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277แม้ตามคำฟ้องจะระบุว่า น.ผู้เยาว์โดย พ.บิดาผู้ปกครองผู้แทนโดยชอบธรรมเป็นโจทก์ แต่ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องปรากฏข้อเท็จจริงว่า น.เป็นบุตรของโจทก์อันเกิดกับ ร.ภรรยาของโจทก์ ซึ่งไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันตามกฎหมาย และ ร.หนีออกจากบ้านตั้งแต่ น.ยังเล็กอยู่ พ.เป็นผู้ให้ความอุปการะเลี้ยงดู ให้การศึกษา และให้ น.ใช้นามสกุลกรณีเป็นเรื่องมารดาผู้แทนโดยชอบธรรมของ น.ผู้เยาว์ไม่สามารถจะทำการตามหน้าที่ได้ ดังนั้น ญาติของ น.ผู้เยาว์หรือผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้องจึงอาจร้องขอต่อศาลชั้นต้นขอให้ตั้งเป็นผู้แทนเฉพาะคดีได้ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 6 การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ประทับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณา ถือได้โดยปริยายว่า ศาลชั้นต้นตั้งให้ พ.เป็นผู้แทนเฉพาะคดีตามกฎหมายอีกทั้งยังปรากฏว่าก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาศาลชั้นต้นยังมีคำสั่งตั้ง พ.เป็นผู้แทนเฉพาะคดีอีกด้วยเช่นนี้พ.จึงมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยแทน น. ผู้เยาว์ได้

 

  โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277

          ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง

          จำเลยให้การปฏิเสธ

          ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

          โจทก์อุทธรณ์

          ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคแรก จำคุก 5 ปี

          จำเลยฎีกา

 

 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่าเด็กหญิงนิภาพร ... เกิดเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2522เป็นบุตรของนายพร .... กับนางเรวดีซึ่งอยู่กินฉันสามีภรรยาโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส นางเรวดีหนีออกจากบ้านตั้งแต่เด็กหญิงนิภาพรยังเล็กอยู่ และนายพรเป็นผู้ให้ความอุปการะเลี้ยงดูให้การศึกษา และให้ใช้นามสกุล คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยเป็นประการแรกว่า นายพรมิใช่ผู้เสียหายหรือผู้มีอำนาจจัดการแทนเด็กหญิงนิภาพรผู้เสียหายจึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้น เห็นว่า แม้ตามคำฟ้องจะระบุว่าเด็กหญิงนิภาพร ธงชาย ผู้เยาว์ โดยนายพร ธงชาย บิดาผู้ปกครองผู้แทนโดยชอบธรรมโจทก์ก็ดีแต่ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องปรากฏข้อเท็จจริงว่า เด็กหญิงนิภาพรเป็นบุตรของโจทก์อันเกิดกับนางเรวดีภรรยาของโจทก์ แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันตามกฎหมายและนางเรวดีหนีออกจากบ้านตั้งแต่เด็กหญิงนิภาพรยังเล็กอยู่ซึ่งนายพรเป็นผู้ให้ความอุปการะเลี้ยงดู ให้การศึกษา และให้ใช้นามสกุล ภายหลังไต่สวนมูลฟ้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ประทับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณา ดังนี้กรณีเป็นเรื่องเด็กหญิงนิภาพรผู้เสียหายเป็นผู้เยาว์ซึ่งมารดาผู้เสียหายโดยชอบธรรมไม่สามารถจะทำการตามหน้าที่ได้ ญาติของผู้นั้นหรือผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้องอาจร้องขอต่อศาลชั้นต้นขอให้ตั้งเป็นผู้เฉพาะคดีได้ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 6 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเมื่อข้อเท็จจริงเรื่องนี้ปรากฏต่อศาลชั้นต้นในระหว่างการไต่สวนมูลฟ้อง การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ประทับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาจึงถือได้โดยปริยายว่า ศาลชั้นต้นตั้งให้นายพรเป็นผู้แทนเฉพาะคดีตามกฎหมายแล้ว อีกทั้งยังปรากฏว่าก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาคดีศาลชั้นต้นยังมีคำสั่งตั้งนายพรเป็นผู้แทนเฉพาะคดีได้ด้วยโจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง

          พิพากษายืน

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2010-01-19 18:20:39


ความคิดเห็นที่ 3 (4549859)

ศาลตั้งเป็นผู้แทนเฉพาะคดีเพื่อทำหน้าที่แทนเด็กได้ตามมาตรา 1556

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1833/2528

ส.มารดาเด็กหญิงว.ซึ่งเป็นผู้ปกครองของเด็กหญิงว. ยังไม่บรรลุนิติภาวะเป็นกรณีที่ผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กไม่สามารถทำหน้าที่ได้ผู้ร้องซึ่งเป็นยายของเด็กหญิงว. จึงมีอำนาจร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่าเด็กหญิง ว.เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของช. ผู้วายชนม์ได้

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่านาง ส. อายุ 18 ปีเป็นบุตรของผู้ร้อง ส.เป็นภริยา ช. โดยมิได้จดทะเบียนสมรส มีบุตรด้วยกันคือเด็กหญิงวันวิ ต่อมาวันที่ 5 กรกฎาคม2524 ช. ถึงแก่กรรม ระหว่างมีชีวิตอยู่ ช. ได้แสดงให้ปรากฏว่าเด็กหญิงวันวิ เป็นบุตรและได้ให้ความอุปการะเลี้ยงดูให้ใช้นามสกุลของ ช. เด็กหญิงวันวิ ผู้เยาว์จะรับบำเหน็จตกทอดของ ช. แต่ไม่อาจทำได้ ขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้ปกครองเด็กหญิงวันวิ  และสั่งให้ผู้เยาว์เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของ ช.

ผู้คัดค้านร้องว่า ผู้คัดค้านเป็นภริยาของ ช. จดทะเบียนสมรสแล้ว มีบุตรด้วยกัน5 คน นาง ส. ไม่ใช่ภริยาของ ช. เด็กหญิงวันวิ บุตรของนาง ส. ไม่ใช่บุตรของ ช.ช.ไม่เคยยกย่องเด็กหญิงวันวิ ว่าเป็นบุตรของตน ผู้ร้องไม่มีอำนาจมาร้องคดีนี้ เพราะอำนาจปกครองของผู้เยาว์อยู่กับนาง ส. มารดา

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า เด็กหญิงวันวิ  ผู้เยาว์เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของ ช.ซึ่งเกิดกับนาง ส. และแต่งตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้ปกครองเด็กหญิงวันวิ

ผู้คัดค้านอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์แผนกคดีเด็กและเยาวชนวินิจฉัยว่า อำนาจปกครองเด็กหญิงวันวิ ยังอยู่กับนาง ส. มารดาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1566 วรรคท้ายผู้ร้องจะขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้ปกครองเด็กหญิงวันวิ มิได้ แต่นาง ส. อายุ18 ปีเศษยังไม่บรรลุนิติภาวะ ผู้ร้องซึ่งเป็นยายร้องเป็นคดีนี้ขึ้นมา ย่อมถือได้ว่าผู้ร้องในฐานะญาติสนิทของเด็กร้องขอต่อศาลเพื่อให้ตั้งผู้แทนเฉพาะคดีเพื่อฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรในระหว่างที่เด็กเป็นผู้เยาว์นั่นเอง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1556 ผู้ร้องจึงมีอำนาจร้องเป็นคดีนี้ได้ พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำร้องในส่วนที่ขอให้แต่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้ปกครองเด็กหญิงวันวิสา ผู้เยาว์เสีย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ผู้คัดค้านฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีเด็กและเยาวชนวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่าปัญหาวินิจฉัยมีว่า ผู้ร้องไม่มีอำนาจร้องขอเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์แล้วมีอำนาจร้องขอให้ไต่สวนและสั่งว่าเด็กหญิงวันวิ เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของนายวิชาญ หรือไม่ เห็นว่า การร้องขอให้ศาลตั้งเป็นผู้ปกครองกับร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่าผู้เยาว์เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของผู้ตายเป็นคนละเรื่องกัน การไม่มีสิทธิทำอย่างหนึ่งอาจมีสิทธิทำอีกอย่างหนึ่งได้เมื่อกฎหมายบัญญัติให้ทำได้ คดีนี้นางสมใจมารดาเด็กหญิงวันวิ เป็นผู้ปกครองตามกฎหมายของเด็กหญิงวันวิ ยังไม่บรรลุนิติภาวะ จึงเป็นกรณีผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กไม่สามารถทำหน้าที่ได้ ผู้ร้องเป็นยายซึ่งเป็นญาติสนิมมีสิทธิร้องขอให้ศาลตั้งเป็นผู้แทนเฉพาะคดีเพื่อทำหน้าที่แทนเด็กได้ตามมาตรา 1556 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ที่ตรวจชำระใหม่ การที่ผู้ร้องร้องเป็นคดีนี้ขึ้นมาถือได้ว่าผู้ร้องในฐานะญาติสนิทของเด็กร้องขอต่อศาลเพื่อให้ตั้งเป็นผู้แทนเฉพาะคดีทำหน้าที่ร้องแทนเด็กหญิงวันวิ นั่นเอง ผู้ร้องจึงมีอำนาจร้องคดีนี้ได้ ฯลฯ

พิพากษายืน

ผู้แสดงความคิดเห็น admin วันที่ตอบ 2023-12-29 09:03:30



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล