ReadyPlanet.com


เอาโฉนดไปค้ำเงินกู้ให้หลานแล้วเกิดการฟ้องร้อง


เรื่องมันมีอยู่ว่า ในปี 2549 ไอ้หลานตัวดีมันไปฟ้องศาล เพื่อจะครอบครองที่ดินของผม (ฟ้องปรปัก) โดยอ้างว่าได้ทำกินในที่ดินผืนนี้เกินกว่าสิบปีแล้ว ( พ.ศ.2536 – 2549 ) และผมก็ต่อสู้ทางคดีความไป จนกระทั้งศาลชั้นต้นและ ศาลอุทรธรณ์ มีคำพิพากษาให้ที่ดินยังเป็นของผม และให้หลานมันออกจากที่ดินของผมไป ( ศาลยกฟ้อง ) หลานมันฎีกาต่อครับ แต่ศาลฎีกายังไม่มีคำพิพากษาลงมา ทำให้ผมนึกเสียใจที่ได้อุปการะเลี้ยงดูจนมันได้ดี มีที่ดิน มีบ้าน มีรถไถ รถเกี่ยว ซึ่งต่างจากวันที่มันมากราบขอร้องขอที่ทำกินผมในวันนั้น ตัวมันแทบจะไม่มีอะไรเลย มันน่าเจ็บใจจริง ๆ ครับ เข้าเรื่องเลยนะครับ
ผมได้นำโฉนดที่ดินให้หลานไปค้ำประกันเงินกู้กับธนาคาร ธ.ก.ส. เป็นจำนวน เงิน ( ณ ปัจจุบัน ที่ไปขอดูยอดเงินกู้ที่ ธ.ก.ส.เป็นจำนวนเงิน 510,050 บาท ) และให้หลานทำกินในที่ดินผืนนี้ ต่อมาในช่วงปี 2546 มันได้มาขอร้องให้ผมนำโฉนดที่ดินไปค้ำประกันเงินกู้ กับธนาคาร ธ.ก.ส.เพื่อจะกู้เงินจำนวนหนึ่ง โดยอ้างว่าจะเอาเงินไปเป็นทุนในการเพาะปลูก และซื้อที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง และรับปากกับผมว่า จะใช้หนี้ภายใน 3 - 4 ปีแน่นอน สาบานเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะไม่โกงผม ผมก็เห็นว่ามันเป็นหลานและอยากให้มันตั้งตัวได้ ผมก็ให้โฉนดและเซ็นยินยอมให้มันกู้เงิน ตอนแรกมันก็ขอกู้แค่ 300,000 บาท พอเวลาผ่านไป 3 ปี ผมต้องการจะให้หลานมันไถ่ถอนโฉนดออกจากธนาคาร ซึ่งผมจะนำที่ดินมาแบ่งให้ลูกอีก 2 คนที่กำลังเรียนอยู่ ตัวของผมก็อายุมากแล้วอยากทำอะไรให้มันเสร็จ ๆไป ผมก็ไปทวงสัญญากับมัน จนแล้วจนรอดมันก็ยังไม่ยอมใช้หนี้ เอาแต่ส่งดอกเบี้ย มิหนำซ้ำ ก่อนที่มันจะฟ้องปรปักผม มันก็ยังแอบไปเพิ่มวงเงินกู้โดยไม่บอกผมแม้แต่คำเดียวผมก็ไม่ค่อยเข้าใจในระบบธนาคาร ธ.ก.ส.เหมือนกันว่า เซ็นยินยอมครั้งเดียวผู้กู้สามารถกู้เท่าไหร่ก็ได้อย่างนั้นหรือ (?) และผมต้องทำอย่างไรถ้าปล่อยไว้อย่างนี้ ถ้ามันจะไปขอกู้เพิ่มอีก ยอดหนี้มันก็เพิ่มขึ้น เป็นดินพอกหางหมูต่อไป และที่สำคัญผมกลัวมันไม่ใช้หนี้มาก และโอกาสเป็นไปได้สูงมากครับที่มันไม่ยอมใช้หนี้ โฉนดผมต้องโดนยึดแน่ ๆ ผมจะทำอย่างไรดีครับ ตอนนี้ผมถึงทางตันจริง ๆ ครั้นจะหาเงินไปไถ่ถอนเองในภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้แถมต้องส่งลูกเรียนอีก 2 คน ผมไม่มีปัญญาที่จะไปไถ่ถอนโฉนดออกมาก่อนหรอกครับ ทำให้คนแก่อย่างผมคิดไม่ตกจริงๆ ผมก็คิดจะฟ้องหลานให้มันไถ่ถอนโฉนดที่ดินออกมา ก็กังวลอยู่อย่างเดียวคือ
ถ้าหลานมันไม่ยอมไถ่ถอนในระหว่างที่ฟ้องร้องกัน รวมถึงไม่ส่งดอกเบี้ย ผมกลัวทางธนาคาร ธ.ก.ส. จะยึดโฉนดของผมและให้กรมบังคับคดี เอาไปขายทอดตลาดในราคาถูก ๆ โดยที่ผมไม่รู้ตัว ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้มันต้องแย่แน่ ๆ มันมีวิธีใดบ้างที่จะทำให้อะไร ๆ มันดีขึ้นมาบ้าง พอจะมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ให้ผมได้หลุดพ้นบ้างหรือเปล่าครับ กระผมจึงอยากเรียนถามท่านทั้งหลายครับว่า ผมสมควรที่จะฟ้องศาล เพื่อให้หลานมันไถ่ถอนโฉนดออกจาก ธ.ก.ส. หรือไม่ครับโอกาสที่จะชนะคดีมีมากน้อยแค่ไหน (?) หากฟ้องได้จะหามูลเหตุอะไรไปฟ้องเพื่อที่จะให้ศาลรับฟังดีครับ (?) ที่ผมไปเซ็นยินยอมให้หลานมันกู้เงิน ในทางกฎหมายกรณีแบบนี้ หากฟ้องร้องไป ผมมีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่จะชนะคดีครับ (?) ผมควรทำอะไรก่อนหลังดี ช่วยแนะนำด้วยครับ ทุกคำตอบล้วนมีค่า ในการตัดสินใจมาก ๆ ครับ (?) คำถามสุดท้ายคดีแบบนี้ผมสามารถเรียกค่าเสียหายอะไรได้บ้างครับ หลานมันทำกับผมแรงเกินไปแล้ว (?)


ด้วยความเคารพ
เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด
 



ผู้ตั้งกระทู้ หลานตา :: วันที่ลงประกาศ 2010-02-04 13:45:38


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2032121)

1. เรื่องหนังสือมอบอำนาจตามปกติใช้ได้ครั้งเดียว คุณอาจเข้าใจอะไรผิดมากกว่า จริง ๆ อาจจะเป็นดอกเบี้ยก็ได้ ทำไมไม่ไปสอบถามธนาคารดูเพราะเราเป็นผู้ค้ำประกันทางธนาคารเขายินดีอธิบายให้ฟ้องอยู่แล้ว

2. เรื่องฟ้องหลานคงไม่มีกฎหมายรองรับให้ทำได้ คุณสมัครใจทำนิติกรรมตามนั้น เขาไม่ได้ข่มขู่หลอกลวง ก็เท่ากับเราเต็มใจทำเองจะไปฟ้องใครคงไม่ได้ หากคุณได้ปรึกษาทนายความก่อนทำนิติกรรมอะไร?คงช่วยได้มาก แต่มาปรึกษาตอนนี้คงสายไปแล้วครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2010-02-04 15:27:59


ความคิดเห็นที่ 2 (2032768)

//ตั้งสติก่อนครับ ตอนนี้ธนาคารยังไม่ฟ้อง แต่เมื่อธนาคารฟ้องเมื่อไรคุณเป็นจำเลยที่ 2 แน่นอนมาเลยครับพี่น้อง  ต่อจากนั้น ธกส.ก็ยึดที่ดินท่านออกขายทอดตลาด

** ถ้าเสียดายที่ดินก็ไปซื้อคืน  หลังจากนั้นก็ไปฟ้องไล่เบี้ยเอกับหลานคุณ ก็บอกว่ามันมีรถเกี่ยว ก็ยึดรถเกี่ยวมันนั้นแหละครับมาขายทอดตลาดอีกที ถ้าอย่างไรก็ปรึกษาท่านลีนนท์อีกทีน่ะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น รอยเปลื้อน วันที่ตอบ 2010-02-06 13:00:49



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล