ช่วยแม่หนูด้วยคะ

ช่วยแม่หนูด้วยคะ
คือว่าแม่ของหนูทำงานอยู่ในบริษัทรถทัวร์แห่งหนึ่งแม่ของหนูทำหน้าที่เป็นพนักงานบัญชีและคอยแก้ไขปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับบริษัทและรถทัวร์ และบริษัทแห่งนี้มีหุ้นส่วนอยู่ด้วยกัน 16 คน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น - เนื่องจากมีหุ้นส่วนคนหนึ่งต้องการที่จะขายรถทัวร์ของเขาเองแต่เขาซื้อมาในนามบริษัท แต่ว่าการที่จะขายรถทัวร์ได้นั้นต้องมีพยานเซ็นด้วย และคนที่เซ็นก็คือ ประธานบริษัทและแม่ของหนูเอง ทำให้ขายรถได้เงินจำนวน 4 ล้านบาท และเงินที่ขายได้นั้นทางเจ้าของรถก็เป็นคนเก็บไว้เองโดยที่แม่ของหนูและประธานบริษัทไม่ได้อะไรเลย แต่ว่าเรื่องก็เกิดขึ้นโดยมีหุ้นส่วนสองคนไปแจ้งความกับตำรวจว่าแม่ของหนูกับประธานบริษัทยักยอกทรัพย์ของบริษัทเพราะว่า เขาบอกว่าในเมื่อซื้อรถมาในนามบริษัทเมื่อขายได้เงินจำนวนนั้นก็ต้องนำมาเข้าเป็นเงินของบริษัท ทำให้แม่ของหนูกลายเป็นคนผิดซะงั้นด้วยการที่เป็นลูกน้องเขา ก็ทำอะไรไม่ได้เลยการที่จะให้เซ็นเป็นพยานก็ต้องเซ็นเพราะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นมา และหนำซ้ำยังโดนหุ้นส่วนสองคนนั้นโทรมาด่ามาว่าอย่างเสียๆหายๆอีกด้วย - การที่เขาไปแจ้งความก็เป็นเพราะว่าเขาไม่อยากที่จะชดใช้หนี้ของบริษัทที่มีอยู่ 4 ล้านบาทเพราะการที่จะชดใช้หนี้ให้กับบริษัทหุ้นส่วนทุกคนต้องเป็นคนชดใช้ทำให้เขาเห็นทางสว่างว่าการที่ไปแจ้งความอาจจะทำให้เขาได้เงินก้อนนี้มาชดใช้หนี้พอดีเพราะตอนนี้การเงินของบริษัทกำลังย่ำแย่เพราะตอนนี้ก็กำลังประกาศขายตึกของบริษัทอยู่ด้วยและบริษัทก็กำลังจะปิดตัวลงในอีกไม่นานเลยต้องรีบหาเงินมาชดใช้ - ขอความกรุณาให้คำปรึกษาด้วยนะคะว่าจะมีแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างไรได้บ้างทำให้แม่ของหนูพ้นผิดในข้อหานี้นะคะขอความกรุณาด้วยคะ (และไม่ทราบว่าคดีอย่างนี้สามารถยอมความได้หรือเปล่าคะ)
ผู้ตั้งกระทู้ kame :: วันที่ลงประกาศ 2010-02-04 11:08:34

[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2032066)

1.การลงชื่อในฐานะเป็นพยานคงไม่มีความผิดฐานยักยอกตามที่กล่าวหาครับ

2. รถยนต์ซื้อมาในนามบริษัทย่อมเป็นทรัพย์สินของบริษัท เงินที่ขายได้ก็ต้องเป็นของบริษัท ถูกต้องแล้วครับ

3. ความผิดฐานยักยอกเป็นความผิดอันยอมความได้

44. ติดต่อทนายความเพื่อต่อสู้คดีนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2010-02-04 13:08:21

[1]

แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *

ผู้แสดงความคิดเห็น *
อีเมล
	ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล