สวัสดีค่ะ 

ดิฉันมีเรื่องอยากสอบถาม และขอความกรุณาให้ช่วยตอบด้วยค่ะ

คือดิฉันได้รู้จักกับชาวต่างชาติ (พม่า)  ช่วงแรกดิฉันยังไม่ทราบว่าเค้ามีภรรยาแล้ว

และเค้าก็โกหกว่าเป็นชาวสิงค์โปร์ และเป็นเจ้าของบริษัทกฏหมาย แต่ใช้ตำแหน่งว่า seniou consultant   

ก็ตกลงคบกัน  ตัวดิฉันเคยหมั้นกับแฟนชาวไทย   แต่ว่าเรามีปัญหากันตลอด ซึ่งแฟนใหม่ก็ทราบเรื่องด้วย

เพราะดิฉันมีอะไรก็เล่าให้แฟนใหม่ที่เป็นชาวต่างชาติฟัง  แต่แล้วช่วงประมาณเดือนมิถุนายน ก็ได้รับข้อความว่า

ทำลายครอบครัวผู้อื่นอยู่  ก็งง ช่วงนั้นแฟนชาวต่างชาติก็ไปต่างประเทศ ติดต่อลำบาก  แต่แล้วดิฉันก็ได้รับโทรศัพท์จากทางครอบครัวของชายชาวต่างชาติว่า ขอโทษที่ต้องโกหก เป็นเพราะว่าเรื่องสัญชาติทำให้กลัวว่าจะไม่ยอมรับ แต่ว่าก็จะเลิกกับภรรยาและมาแต่งงานกับดิฉันจริงๆๆ

ดิฉันนั้นมีหนี้สินที่เคยกู้ร่วมกับแฟนเก่าชาวไทยก็ได้โทรไปปรึกษา ทั้งเขียนอีเมลหาแฟนเก่าว่า  เสียใจ ที่เรื่องราวมันกลับตาลปัตร ไม่เหมือนที่เคยคิดไว้ เพราะได้ไปแย่งสามีผู้อื่น และได้ทราบข่าวว่าแฟนชาวไทยมีแฟนใหม่  และพอมีฐานะ  ด้วยความที่รู้เท่าไม่ถึงการเลยเขียนอีเมลไปหาแฟนเก่าว่าถ้าหากว่ามีก็ช่วยใช้เงินคืนเรามาบ้าง  เพราะว่าเป็นเงินส่วนที่เค้าเอาไปและยังต้องส่งอยู่  ของหมั้น (แหวน) ก็ได้คืนทางฝ่ายชายไปเรียบร้อย และทางแฟนใหม่ก็ได้เจอกับแฟนเก่าด้วย ก็มีการขอโทษกันนิดหน่อย  ประมาณช่วงเดือนสิงหาคม จากนั้นก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกันอีก มีแต่เพียงอีเมลหาบ้างเท่านั้น

ช่วงตั้งแต่สิงหาคม-กันยายน เป็นต้นมา ดิฉันได้พาแฟนใหม่ ซึ่งภายหลังทราบว่าเป็นเจ้าของบริษัทกฏหมายในประเทศพม่าด้วย  เข้าเจอญาติผู้ใหญ่  ซึ่งผู้ใหญ่ก็รักและเอ็นดู  บางครั้งแฟนเก่าก็โทรมาถามสารทุกข์สุขดิบบ้าง แต่ไม่ได้คุยฉันชู้สาว  และโทรมาปรึกษาเรื่องแฟนสาวของเค้าท้อง ดิฉันก็ได้แต่รับฟัง ไม่ได้คิดว่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โต

เดือนธันวาคม  แฟนชาวต่างชาติ ได้ขออนุญาตกับครอบครัว ว่าอยากแต่งงาน  และมาพูดกับผู้ใหญ่ปีใหม่ที่ผ่านมา  เราได้ฤกษ์เป็นวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2553  ซึ่งก็ใกล้จะถึงวันงาน  แต่เมื่อวันที่ 26 มกราคม แฟนได้เดินทางกลับบ้านที่ประเทศพม่า  และมีคนส่งจดหมายภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ ไปให้ที่ออฟฟิศในย่างกุ้ง  และยังส่งมาที่บ้านพี่สาวของดิฉันด้วย  จดหมายเหมือน ๆ กัน แต่ว่าด้วยความที่ภาษาไทย ไปแปลเป็นภาษาอังกฤษนั้น  และจดหมายเขียนด้วยอารมณ์ ณ ตอนนั้นของดิฉัน  อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นได้ 

ทางญาติของฝ่ายชายโกรธมาก หาว่าทางแฟนเก่าเป็นผู้ส่งจดหมาย  และต่อว่าดิฉันทางอีเมลต่าง ๆๆ นานา  ส่วนทางแฟนชาวต่างชาติ อยู่ ๆ ดิฉันก็ได้ข้อมูลว่าเป็นมะเร็งที่ปอด และเจ็บปวดมาก รวมถึงเวลาโทรไปที่ออฟฟิศที่พม่า ก็ไม่มีใครทราบ หรือพูดสายกับดิฉัน  เค้าไม่ตอบจดหมายของดิฉันเลย  และเขียนแค่ว่าเค้าได้อยู่ในช่วงเวลาของการลาพักร้อน เนื่องจากเป็นปัญหาสุขภาพ  แต่ว่างานแต่งงานของดิฉันที่ใกล้จะถึงแล้ว ทำให้ไม่ทราบว่า กรณีแบบนี้ ดิฉันมีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้าง  และ ควรจะทำอย่างไร  เพราะมีเวลาอีกแค่สองอาทิตย์

แฟนต่างชาติไม่ได้ติดต่อดิฉันตั้งแค่วันที่ 10 กุมภา ที่ผ่านมา  และให้พี่สาว รวมถึงภรรยาเก่ามาติดต่อดิฉัน  ดิฉันเริ่มไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่  ทุกคนพยายามคาดคั้นเรื่องจดหมายว่าให้ดิฉันได้ยอมรับ  ดิฉันยอมรับได้เพราะว่าดิฉันพิมพ์เอง  แต่ว่าหากแปลเป็นภาษาอังกฤษ เช่นคำว่า his wife attach me? ซึ่งดิฉันหมายถึง ภรรยาเก่าเค้าได้จู่โจมดิฉัน (คือการโทรมาหาโดยไม่ทันตั้งตัว)  และถ้าหากว่าดิฉันได้กระทำจริงตามจดหมายที่กล่าวไว้นั้นในเรื่องการเอาเงินทองของเค้าไป ดิฉันจะยอมรับ  แต่ดิฉันยังไม่ได้เอาเงินทองของเค้าไปเลยด้วยซ้ำ  จ่ายเช็คไว้ให้ส่งรถ เช็คก็เด้ง  เงินทองเรื่องจัดงานก็ไม่ได้ให้ไว้ บอกแต่ว่าจะกลับมาแล้วเอาเงินให้ ซึ่งกำหนดกบับตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม  และเลื่อนมาเป็น 7 กุมภาพันธ์

ตอนนี้พี่สาวเค้าและภรรยาเก่าจะมาเมืองไทย เพื่อตรวจสอบเรื่องอีเมล และข้อความในจดหมาย จากทางบริษัทของดิฉัน  ซึ่งดิฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ควรจะทำเช่นนี้  และหากว่าเค้าไม่อยากแต่งเพราะรับไม่ได้เรื่องจดหมาย หรือ สุขภาพ ก็ควรจะบอกกันดี ๆๆ  เพราะทางบ้านก็ได้แจกการ์ดญาติผู้ใหญ่ และเพื่อน ๆ ของคุณพ่อ คุณแม่ ไปหมดแล้ว กรณีแบบนี้ ดิฉันสามารถทำอะไรได้บ้างมั๊ยคะ

ดิฉันมีพยาน เรื่องการโอนเงินนะคะ ไม่ได้โอนเงินให้แฟนเก่าเลย ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา  ซึ่งเราสรุปกันจบที่เดือนพฤษภาคม  แต่ที่มาเจอกันนั้นเพราะว่ามาปรับทุกข์ และมาเอาเอกสาร ของหมั้นบางส่วนคืนไป

เข้าใจค่ะว่าเรื่องความรู้สึกตัดสินยาก แต่ว่าทำแบบนี้เท่ากับดิฉันโดนหลอกใช่หรือไม่  แล้วเรื่องที่เตรียมงานจะให้ดิฉันทำอย่างไร  อีกฝ่ายเป็นเจ้าของบริษัทกฏหมาย ทำให้ดิฉันค่อนข้างกลัวว่าเค้าจะมาเล่นแง่ต่าง ๆ กับเราเรื่องอีเมลค่ะ