เมื่อมีการจดทะเบียนหย่ากัน ปกติเจ้าหน้าที่ สำนักทะเบียน ที่ทำเรื่องการหย่า จะสอบถามคู่หย่าทั้งสองว่าประสงค์ที่จะบันทึกข้อตกลงเรื่องบุตร และอำนาจปกครองบุตร รวมตลอดถึงเรื่องค่าอุปการะเลี้ยงดูด้วย แต่จากข้อเท็จจริงที่ให้มานั้นไม่ปรากฏว่าคู่หย่าทั้งสองได้มีบันทึกข้อตกลงท้ายทะเบียนกันหย่าไว้อย่างไร แต่ได้ความว่ามีบุตร 2 คน ทางผู้ถามส่งค่่าอุปการะเลี้ยงดู 7,000 บาทต่อเดือนซึ่งก็ยังไม่แน่ชัดว่าส่งตามข้อตกลงหรือส่งตามที่พอใจ หรือส่งตามฐานานุรูป

ข้อเท็จจริงต่อมาผู้ถามแจ้งว่า มีข้อตกลงด้วยวาจาว่าจะแบ่งกันดูแลบุตรฝ่านละคน เป็นการตกลงกันด้วยวาจาซึ่งเป็นเรื่องระหว่างที่รู้กันเพียง 2 ฝ่ายจะเท็จจริงอย่างไรก็เป็นเรื่องต้องพิสูจน์และยังไม่มีข้อเท็จจริงว่าขัดหรือฝ่าฝืนข้อตกลงในบันทัึกท้ายะเบียนการหย่าหรือไม่

ส่วนข้อเท็จจริงและคำถามเรื่องที่คู่หย่าฝ่ายหญิงมาระรานภรรยาใหม่ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของผู้ใหญ่ไม่ควรเอาบุตรมาต่อรองและอ้างต่อกันไม่ว่าฝ่ายใด แต่ควรจะใช้สิทธิทางศาลในเรื่องที่ได้รับความเสียหายจากกระทำของอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งจากข้อเท็จจริงที่ให้มาก็ไม่มีรายละเอียดในการกระทำระรานตามที่อ้าง จึงไม่สามารถวินิจฉัยว่า มีความผิดตามกฎหมายใด

แนะนำให้นำหลักฐานไปปรึกษาเจ้าหน้าที่ตำรวจดูก่อนครับ หากทางตำรวจให้ความเห็นว่ายังไม่เป็นความผิดในทางอาญา ก็ปรึกษารายละเอียดกับทนายความได้ครับ