
สิทธิในการเลี้ยงดูบุตร (อำนาจปกครองผู้เยาว์) | |
ไม่ได้จดทะเบียนสมรส สามีนอกใจ ขอเลิก แต่สามีต้องการให้เราออกจากบ้านไป และสามีจะยื่นเรื่องฟ้องศาลขอให้สิทธิในการเลี้ยงดูบุตร เราเป็นแค่แม่บ้าน มีรายได้น้อยคะ เราจะมีวิธีชนะแล้วให้ลูกอยู่กับเราได้ไหมคะ ที่ผ่านมา สามีส่งเสียและดูแลลูกมาตลอดคะ | |
ผู้ตั้งกระทู้ รส :: วันที่ลงประกาศ 2013-06-23 21:22:55 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2383528) | |
กรณีของคุณเป็นเรื่องเด็กที่เกิดจาก บิดา มารดา ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ดังนั้นบุตรที่เกิดมาจึงเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของมารดาแต่เพียงผู้เดียว มาตรา 1546 เด็กเกิดจากหญิงที่มิได้มีการสมรสกับชาย ให้ถือว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของหญิงนั้น เว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น เมื่อบิดายังคงเป็นบิดานอกกฎหมายอยู่ แม้จะมีชื่อในสูติบัตรว่าเป็นบิดาก็ตาม แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า เกิดความสัมพันธ์ในทางกฎหมายว่า เป็นบุตรและเป็นบิดาชอบด้วยกฎหมาย แต่กฎหมายก็เปิดช่องให้บิดาสามารถเป็นบิดาชอบด้วยกฎหมาย 3 วิธีคือ 1. จดทะเบียนสมรสกันในภายหลัง 2. รับรองบุตร (ที่สำนักทะเบียน ณ อำเภอ/เขต) 3. โดยคำพิพากษาของศาล มาตรา 1547 เด็กเกิดจากบิดามารดาที่มิได้สมรสกัน จะเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายต่อเมื่อบิดามารดาได้สมรสกันในภายหลังหรือบิดาได้จดทะเบียนว่าเป็นบุตรหรือศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร ดังนั้น สิทธิของบิดาที่จะฟ้องขอให้ศาลมีคำพิพากษาว่าเด็กเป็นบุตรย่อมเป็นสิทธิของบิดา ที่ไม่มีใครจะไปห้ามเขาได้ และเมื่อมีเหตุที่จะขอให้ศาลถอนอำนาจปกครองของมารดาในกรณีที่มารดาใช้อำนาจปกครองไม่ชอบก็อาจเกิดขึ้นได้ แต่หากไม่มีเหตุ แม้ศาลจะมีคำพิพากษาให้เด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายแล้วก็ตาม ศาลก็ยังให้บุตรอยู่ภายใต้อำนาจปกครองของมารดาได้เสมอ โดยมีคำสั่งให้บิดาจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบางส่วนได้ มาตรา 1564 บิดามารดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาตามสมควรแก่บุตรในระหว่างที่เป็นผู้เยาว์ มาตรา 1566 บุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะต้องอยู่ใต้อำนาจปกครองของบิดามารดา เมื่อเป็นบิดาชอบด้วยกฎหมายแล้ว ย่อมเกิดสิทธิที่จะติดต่อกับบุตรของตนได้ตามสมควรไม่ว่าบิดา หรือมารดา ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์ก็ตาม มาตรา 1584/1 บิดาหรือมารดาย่อมมีสิทธิที่จะติดต่อกับบุตรของตนได้ตามควรแก่พฤติการณ์ ไม่ว่าบุคคลใดจะเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองหรือผู้ปกครองก็ตาม | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนาย ลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ 0859604258 วันที่ตอบ 2013-07-08 18:34:13 |
ความคิดเห็นที่ 2 (2401010) | |
สิทธิที่จะติดต่อกับบุตร(เยี่ยมบุตร)
ดังนั้นหากผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรหรือผู้ปกครองบุตร ทำการขัดขวางมิให้บิดาหรือมารดาแล้วแต่กรณีซึ่งไม่ได้เป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรหรือถูกถอนอำนาจปกครองบุตรติดต่อกับบุตรได้ อาจร้องขอให้หน่วยงานภาครัฐหรือหน่วยงานภาคเอกชนซึ่งที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสิทธิเด็ก ช่วยเป็นสื่อกลางในการเจรจา เพื่อใช้สิทธิติดต่อกับบุตร หรือถ้าหากว่าเจรจาด้วยวิธีใดก็ไม่ได้ผล วิธีสุดท้ายคือการฟ้องหรือร้องขอต่อศาลเพื่อขอให้บังคับตามสิทธิ ในกรณีที่คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรจะนำบุตรไปอยู่ต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้คู่สมรสที่เลิกกันและไม่ได้เป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตร ไม่อาจใช้สิทธิที่จะติดต่อเยี่ยมเยียนบุตรได้โดยสะดวกนั้น ในแนวทางที่ปฏิบัติกันมายังคงถือว่าการนำบุตรไปอยู่ต่างประเทศ ยังไม่ถือว่าเป็นการขัดขวางการใช้สิทธิของผู้ที่ไม่มีอำนาจปกครองบุตรได้พบปะกับบุตร เพราะบุตรผู้เยาว์ต้องถือภูมิลำเนาของผู้ใช้อำนาจปกครอง บิดาหรือมารดาซึ่งไม่ได้เป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรจะมาร้องขอต่อศาล ให้มีคำสั่งห้ามมิให้นำบุตรออกนอกราชอาณาจักรไม่ได้ หนทางแก้ไขคือหากเห็นว่าเป็นการกีดกันและทำให้ตนและบุตรได้รับผลกระทบมาก ผู้ที่ถูกถอนอำนาจปกครองต้องร้องขอต่อศาลขอให้ศาลคืนอำนาจปกครองให้แก่ตนดังเดิม โดยให้ศาลถอนอำนาจปกครองของบิดาหรือมารดาที่ได้รับอำนาจปกครองบุตรเสีย ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ถูกถอนอำนาจปกครองบุตรไม่มีสิทธินำเด็กออกไปอยู่ต่างประเทศได้ อย่างไรก็ตาม การที่เด็กควรจะอยู่ในอำนาจปกครองของบิดาหรือมารดานั้น ต้องมีการพิสูจน์ให้เห็นกันว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ดูแลเด็กได้มากกว่ากัน ซึ่งมิใช่พิจารณาแต่เพียงฐานะทางการเงินเท่านั้น เพราะบิดาหรือมารดาซึ่งไม่มีอำนาจปกครองบุตรยังมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องส่งเสียค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้แก่บุตรจนกว่าเด็กจะบรรลุนิติภาวะเพราะการหย่าไม่ได้ทำให้อำนาจหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูของบิดามารดาที่มีต่อบุตรผู้เยาว์หลุดพ้นไปด้วย ดังนั้นอาจจะต้องพิจารณาจาก เวลาหรือการดูและเอาใจใส่จะเป็นสิ่งสำคัญเพื่อประกอบการพิจารณาว่าบุตรที่บิดามารดาเลิกกันนั้น ควรมีการเปลี่ยนแปลงอำนาจปกครองบุตรจากที่ทั้งคู่เคยตกลงกันไว้หรือที่ศาลเคยวินิจฉัยไว้เดิมหรือไม่ อย่างไรก็ตามโดยสรุปการที่บิดามารดาเลิกหรือหย่ากันแม้จะไม่ได้เป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรก็ตามยังมีสิทธิตามกฎหมายในอันที่จะติดต่อกับบุตรได้เสมอ .
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ โทร. 085-9604258 วันที่ตอบ 2013-08-15 22:08:32 |
[1] |