มรดกของปู่ กับบุตรนอกกฎหมาย, รับมรดกแทนที่ | |
บิดามารดาไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่บิดาไม่ได้มีภริยาคนอื่นอีก คือผัวเดียวเมียเดียว แต่ไม่ได้จดทะเบียนกันเท่านั้น บิดาเสียเสียชีวิตก่อนปู่กับย่า อย่างนี้ลูกนอกกฎหมายของบิดาที่เสียชีวิต มีสิทธิรับมรดกของปู่กับย่าหรือไม่
| |
ผู้ตั้งกระทู้ ปันย่า :: วันที่ลงประกาศ 2008-10-30 15:43:24 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (1858159) | |
แม้บิดามารดาจะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน และบุตรที่เกิดมาจากบิดาที่ไม่ได้สมรสกับมารดา แต่บิดาให้ใช้นามสกุลและเลี้ยงดูให้การศึกษาตลอดมา กฎหมายให้ถือว่าบุตรนอกกฎหมายดังกล่าวสามารถรับมรดกของบิดานอกกฎหมายได้ตาม มาตรา 1627 บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้รับรองแล้วและบุตรบุญธรรม นั้นให้ถือว่าเป็นผู้สืบสันดานเหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายตามความ หมายแห่งประมวลกฎหมายนี้ การที่กฎหมายให้เป็นผู้สืบสันดานย่อมมีผลให้บุตรนอกกฎหมายดังกล่าวเป็นทายาทโดยธรรมมีสิทธิรับมรดกได้ตาม มาตรา 1629 ทายาทโดยธรรมมีหกลำดับเท่านั้น และภายใต้บังคับ แห่ง มาตรา 1630 วรรคสอง แต่ละลำดับมีสิทธิได้รับมรดกก่อนหลังดั่ง ต่อไปนี้ คือ คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นก็เป็นทายาทโดยธรรม ภายใต้บังคับของ บทบัญญัติพิเศษแห่ง มาตรา 1635 เมื่อเป็นทายาทโดยธรรมแล้วย่อมมีสิทธิรับมรดกแทนที่บิดา ผู้มีสิทธิรับมรดกของปู่ เมื่อบิดาของตนเองเสียชีวิตก่อนปู่ ดังนั้นคำตอบคือ สามารถรับมรดกของปู่ได้ครับ เรียกว่า การรับมรดกแทนที่ มาตรา 1639 ถ้าบุคคลใดซึ่งจะเป็นทายาทตาม มาตรา 1629 (1) (3) (4) หรือ (6) ถึงแก่ความตาย หรือถูกกำจัดมิให้รับมรดกก่อน เจ้ามรดกตาย ถ้าบุคคลนั้นมีผู้สืบสันดานก็ให้ผู้สืบสันดานรับมรดกแทนที่ ถ้าผู้สืบสันดานคนใดของบุคคลนั้นถึงแก่ความตายหรือถูกกำจัด มิให้รับมรดกเช่นเดียวกัน ก็ให้ผู้สืบสันดานของผู้สืบสันดานนั้นรับ มรดกแทนที่ และให้มีการรับมรดกแทนที่กันเฉพาะส่วนแบ่งของบุคคล เป็นราย ๆ สืบต่อกันเช่นนี้ไปจนหมดสาย
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น admin วันที่ตอบ 2008-10-31 17:52:50 |
ความคิดเห็นที่ 2 (1858599) | |
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ข้อเท็จจริงที่คู่ความมิได้ฎีกาโต้แย้งกันรับฟังเป็นที่ยุติได้ว่า โจทก์ที่ 3 เป็นบุตรนอกกฎหมายที่นายพงษ์เทพ พัฒโนทัย ผู้เป็นบิดาได้รับรองแล้ว เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2542 ลูกจ้างของจำเลยขับรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน 81 - 0304 นครสวรรค์ ไปในทางการที่จ้างของจำเลยด้วยความประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้ชนกับรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บง-1797 อุทัยธานีซึ่งมีนายพงษ์เทพโดยสารมาและนายพงษ์เทพถึงแก่ความตาย อันเป็นการกระทำละเมิดต่อนายพงษ์เทพ คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ที่ 3 ว่า บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้รับรองแล้ว ซึ่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1627 ให้ถือว่าเป็นผู้สืบสันดานเหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย จึงเป็นทายาทโดยธรรมมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายได้ตามมาตรา 1629 (1) นั้นจะมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิดเพราะเหตุที่การตายลงนั้นทำให้ตนต้องขาดไร้อุปการะหรือไม่ เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443 วรรคสาม นั้น กำหนดให้ผู้กระทำละเมิดในกรณีทำให้เขาถึงตายรับผิดต่อบุคคลที่ต้องขาดไร้อุปการะเฉพาะที่ผู้ตายมีหน้าที่อุปการะตามกฎหมายเท่านั้น แต่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1563 และมาตรา 1564 บัญญัติให้บุตรและบิดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูกันนั้น หมายถึง บุตรและบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น ไม่มีบทบัญญัติกำหนดสิทธิและหน้าที่ให้บิดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรนอกกฎหมายแต่ประการใด ดังนั้น แม้บุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้วจะเป็นทายาทโดยธรรมมีสิทธิรับมรดกของบิดาได้ แต่ก็ไม่มีสิทธิเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูจากบิดา บุตรนอกกฎหมายจึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าขาดไร้อุปการะจากผู้กระทำละเมิดให้บิดาตนถึงแก่ความตายได้ ปัญหาดังกล่าวเกี่ยวกับอำนาจฟ้องซึ่งเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะมิได้ให้การต่อสู้และมิได้ยกขึ้นอ้างในการยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 6 ก็เห็นสมควรยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 (5) ประกอบมาตรา 246 คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 6 ชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ที่ 3 ฟังไม่ขึ้น" พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1409/2548
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น admin วันที่ตอบ 2008-11-02 12:35:03 |
ความคิดเห็นที่ 3 (2427493) | |
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 381/2538
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น admin วันที่ตอบ 2013-11-04 17:22:22 |
[1] |