ReadyPlanet.com
bulletรับฟ้องคดีแพ่ง/อาญา
bulletพระราชบัญญัติ
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletป.อาญา ฎีกา
bulletป.วิอาญา
bulletป.วิแพ่ง
bulletป.กฎหมายที่ดิน
bulletป.รัษฎากร
bulletฟ้องหย่า
bulletอำนาจปกครอง
bulletนิติกรรม
bulletคดีมรดก
bulletอายุความฟ้องร้องคดี
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletเอกเทศสัญญา
bulletเกี่ยวกับแรงงาน
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
bulletตั๋วเงินและเช็ค
bulletห้างหุ้นส่วน-บริษัท
bulletคำพิพากษาและคำสั่ง
bulletทรัพย์สิน/กรรมสิทธิ์
bulletอุทธรณ์ฎีกา
bulletเกี่ยวกับคดีล้มละลาย
bulletเกี่ยวกับวิแพ่ง
bulletเกี่ยวกับวิอาญา
bulletการบังคับคดี
bulletคดีจราจรทางบก
bulletการเล่นแชร์ แชร์ล้ม
bulletอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
bulletมรรยาททนายความ
bulletถอนคืนการให้,เสน่หา
bulletข้อสอบเนติบัณฑิต
bulletคำพิพากษา 2550
bulletทรัพย์สินทางปัญญา
bulletสัญญาขายฝาก
bulletสำนักทนายความ
bulletป-อาญา มาตรา1- 398
bulletภาษาอังกฤษ
bulletการสมรสและการหมั้น
bulletแบบฟอร์มสัญญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-แพ่ง
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2549-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2548-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2547-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2546-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2545-แพ่งพาณิชย์
bulletนิติกรรมสัญญา
bulletพระธรรมนูญศาล
bulletทรัพย์สิน-สามีภริยา
bulletบิดามารดา-รับรองบุตร
bulletคดีครอบครัว
bulletสัญญาระหว่างสมรส
bulletสิทธิครอบครองที่ดิน
bulletสัญญาซื้อขาย
bulletแปลงหนี้ใหม่
bulletการได้กรรมสิทธิ์
bulletคดีเรื่องบุตร
bulletเช่าซื้อรถยนต์
bulletถอนผู้จัดการมรดก
bulletฟ้องค่าทดแทน
bulletฟ้องหย่า-ฟ้องหย่า
bulletสินสมรส-สินสมรส
bulletบันดาลโทสะ
bulletเบิกความเท็จ
bulletสิทธิ-สัญญาเช่า
bulletค้ำประกัน
bulletเจ้าของรวม
bulletจำนอง
bulletลูกหนี้ร่วม
bulletคำพิพากษาฎีกาทั่วไป
bulletกระดานถาม-ตอบ
bulletป-กฎหมายยาเสพติด2564
bulletขนส่งทางทะเล
bulletสมรสเป็นโมฆะ
bulletสามีภริยา
bulletตัวการไม่เปิดเผยชื่อ
bulletทนายความของสภาจัดให้
bulletอาวุธปืน
bulletรับช่วงสิทธิ
bulletแพ่งมาตรา1-1755




ผิดสัญญาหมั้น | เรียกค่าทดแทน | สินสอด article

ทนายความคดีครอบครัว ฟ้องหย่า สินสมรส อำนาจปกครองบุตร ชู้สาว มรดก

 ผิดสัญญาหมั้น  |  เรียกค่าทดแทน  |  สินสอด

\ฝ่ายชายตกลงทำสัญญาหมั้นโดยมอบของหมั้นเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทตกลงจะให้สินสอดจำนวน 50,000 บาท แก่บิดามารดาเมื่อถึงกำหนดวันจัดพิธีแต่งงานและจดทะเบียนสมรสฝ่ายชายคู่หมั้นผิดสัญญาหมั้นทำให้หญิงคู่หมั้นได้รับความเสียหายต่อกายและชื่อเสียงคิดเป็นเงิน 50,000 บาท และจำเลยทั้งสามต้องร่วมกันชำระค่าสินสอดเป็นเงิน 50,000 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ฝ่ายชายคู่หมั้นชำระเงินตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 752/2550 

โจทก์ที่ 1 อ้างว่าการผิดสัญญาหมั้นของจำเลยทั้งสามทำให้โจทก์ที่ 1 ได้รับความเสียหายต่อกายและชื่อเสียงของโจทก์ที่ 1 จึงเรียกร้องให้จำเลยทั้งสามร่วมกันรับผิดใช้ค่าทดแทนความเสียหายเป็นเงิน 50,000 บาท ส่วนโจทก์ที่ 2 อ้างว่าจำเลยทั้งสามไปสู่ขอโจทก์ที่ 1 โดยตกลงให้สินสอดแก่โจทก์ที่ 2 เป็นเงิน 50,000 บาท แต่จำเลยทั้งสามผิดสัญญาหมั้นและไม่ชำระค่าสินสอด จึงเรียกร้องให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระค่าสินสอดจำนวนดังกล่าว แม้สิทธิเรียกร้องของโจทก์ทั้งสองต่างเกิดจากการผิดสัญญาหมั้น แต่โจทก์ที่ 1 เรียกร้องให้รับผิดใช้ค่าทดแทนความเสียหายต่อกายและชื่อเสียงของโจทก์ที่ 1 ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1440 (1) ส่วนโจทก์ที่ 2 เรียกร้องให้ชำระค่าสินสอดแก่โจทก์ที่ 2 ตามมาตรา 1437 วรรคสาม จึงเป็นกรณีที่โจทก์แต่ละคนต่างใช้สิทธิเฉพาะตัวตาม ป.วิ.พ. มาตรา 55 ก็ต้องถือทุนทรัพย์ของโจทก์แต่ละคนแยกกัน เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์ที่ 1 จำนวน 50,000 บาท และให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์ที่ 2 จำนวน 50,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ จำเลยทั้งสามอุทธรณ์ว่า จำเลยทั้งสามไม่ต้องรับผิดชำระเงินจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์ทั้งสอง ทุนทรัพย์พิพาทในชั้นอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสามต่อโจทก์แต่ละคนไม่เกินห้าหมื่นบาท ทั้งมิใช่คดีเกี่ยวด้วยสิทธิแห่งสภาพบุคคลหรือสิทธิในครอบครัว จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามมาตรา 224 วรรคหนึ่ง

อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสามที่ว่า จำเลยทั้งสามผิดสัญญาหมั้นตั้งแต่วันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 6 ปี 2543 แต่โจทก์ทั้งสองเพิ่งจะยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2544 พ้นกำหนด 6 เดือน นับแต่วันผิดสัญญาหมั้น ฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความแล้วนั้น เป็นการอุทธรณ์โต้แย้งข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นรับฟังมาว่า จำเลยทั้งสามผิดสัญญาหมั้นเมื่อวันขึ้น 10 ค่ำ เดือนหก หรือเดือนมิถุนายน 2544 เพื่อนำไปสู่ข้อกฎหมายว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความแล้วจึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 224

โจทก์ทั้งสองฟ้องว่า โจทก์ที่ 1 มีอายุ 18 ปี เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ที่ 2 เมื่อเดือนธันวาคม 2541 จำเลยทั้งสามทำสัญญาหมั้นโจทก์ที่ 1 เพื่อให้สมรสกับจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นบุตรของจำเลยที่ 1 และที่ 2 โดยมอบของหมั้นเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ให้แก่โจทก์ที่ 1 ในวันทำสัญญาหมั้นจำเลยที่ 1 และที่ 2 ตกลงจะให้สินสอดจำนวน 50,000 บาท แก่บิดามารดาของโจทก์ที่ 1 เมื่อโจทก์ที่ 1 สมรสกับจำเลยที่ 3 กำหนดวันจัดพิธีแต่งงานและจดทะเบียนสมรสในวันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 6 หรือเดือนมิถุนายน 2542 แต่เมื่อถึงวันดังกล่าวจำเลยที่ 3 ไม่ยอมสมรสกับโจทก์ที่ 1 ทำให้โจทก์ที่ 1 ได้รับความเสียหายต่อกายและชื่อเสียงคิดเป็นเงิน 50,000 บาท และจำเลยทั้งสามต้องร่วมกันชำระค่าสินสอดเป็นเงิน 50,000 บาท แก่โจทก์ที่ 2 ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินจำนวน 100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวนดังกล่าวนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ทั้งสอง

จำเลยทั้งสามยื่นคำให้การว่า จำเลยทั้งสามไม่เคยสู่ขอหมั้นโจทก์ที่ 1 ให้สมรสกับจำเลยที่ 3 และไม่เคยตกลงว่าจะให้สินสอดจำนวน 50,000 บาท แก่โจทก์ทั้งสอง โจทก์ทั้งสองมิได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายภายใน 6 เดือน ฟ้องโจทก์ทั้งสองจึงขาดอายุความและตามคำฟ้องระบุว่าโจทก์ที่ 1 มีอายุ 20 ปี ซึ่งมีอำนาจฟ้องด้วยตนเองได้ แต่โจทก์ทั้งสองกลับบรรยายฟ้องว่าโจทก์ที่ 1 อายุ 18 ปี เป็นผู้เยาว์มีโจทก์ที่ 2 เป็นผู้แทนโดยชอบธรรมทำให้จำเลยทั้งสามไม่ทราบว่าโจทก์ที่ 1 อยู่ในฐานะอย่างไร และโจทก์ที่ 2 มีอำนาจฟ้องแทนโจทก์ที่ 1 ได้หรือไม่ ฟ้องโจทก์จึงเคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์ที่ 1 จำนวน 50,000 บาท และชำระเงินแก่โจทก์ที่ 2 จำนวน 50,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 30 สิงหาคม 2544) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ กับให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ทั้งสอง โดยกำหนดค่าทนายความเป็นเงิน 5,000 บาท

            จำเลยทั้งสามอุทธรณ์

            ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสาม ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ

 จำเลยทั้งสามฎีกา
 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสามว่า คดีของจำเลยทั้งสามต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงหรือไม่ โดยจำเลยทั้งสามฎีกาว่า โจทก์ทั้งสามฟ้องขอให้จำเลยทั้งสามร่วมกันรับผิดใช้ค่าทดแทนความเสียหายต่อกายและชื่อเสียงของโจทก์ที่ 1 และค่าสินสอดรวมกันเป็นเงิน 100,000 บาท สิทธิเรียกร้องของโจทก์ทั้งสองเกิดจากการผิดสัญญาหมั้น มูลคดีไม่อาจแบ่งแยกออกจากกันได้ ต้องถือว่าคดีมีทุนทรัพย์พิพาทในชั้นอุทธรณ์เป็นเงิน 100,000 บาท จึงไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 วรรคหนึ่ง นั้น เห็นว่า ตามคำฟ้องโจทก์ที่ 1 อ้างว่าการผิดสัญญาหมั้นของจำเลยทั้งสามทำให้โจทก์ที่ 1 ได้รับความเสียหายต่อกายและชื่อเสียงของโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 1 จึงเรียกร้องให้จำเลยทั้งสามร่วมกันรับผิดใช้ค่าทดแทนความเสียหายต่อกายและชื่อเสียงของโจทก์ที่ 1 เป็นเงิน 50,000 บาท ส่วนโจทก์ที่ 2 อ้างว่าจำเลยทั้งสามไปสู่ขอโจทก์ที่ 1 โดยตกลงให้สินสอดแก่โจทก์ที่ 2 เป็นเงิน 50,000 บาท แต่จำเลยทั้งสามผิดสัญญาหมั้นและไม่ชำระค่าสินสอด จึงเรียกร้องให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระค่าสินสอดจำนวนดังกล่าว แม้สิทธิเรียกร้องของโจทก์ทั้งสองต่างเกิดจากการผิดสัญญาหมั้นดังที่จำเลยทั้งสามฎีกาก็ตาม แต่การใช้สิทธิของโจทก์ที่ 1 เป็นการเรียกร้องให้จำเลยทั้งสามร่วมกันรับผิดใช้ค่าทดแทนความเสียหายต่อกายและชื่อเสียงของโจทก์ที่ 1 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1440 (1) ส่วนโจทก์ที่ 2 เรียกร้องให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระค่าสินสอดแก่โจทก์ที่ 2 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1437 วรรคสาม จึงเป็นกรณีที่โจทก์แต่ละคนต่างใช้สิทธิเฉพาะตัวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 แม้โจทก์ทั้งสองจะฟ้องรวมกันมาก็ต้องถือทุนทรัพย์ของโจทก์แต่ละคนแยกกัน ปรากฏว่าศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์ที่ 1 จำนวน 50,000 บาท และให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์ที่ 2 จำนวน 50,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ จำเลยทั้งสามอุทธรณ์ว่า จำเลยทั้งสามไม่ต้องรับผิดชำระเงินจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์ทั้งสอง ทุนทรัพย์พิพาทในชั้นอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสามต่อโจทก์แต่ละคนไม่เกินห้าหมื่นบาท ทั้งมิใช่คดีเกี่ยวด้วยสิทธิแห่งสภาพบุคคลหรือสิทธิในครอบครัว จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 วรรคหนึ่ง ที่จำเลยทั้งสามอุทธรณ์ว่า จำเลยทั้งสามไม่ได้ไปสู่ขอและทำการหมั้นโจทก์ที่ 1 เป็นการโต้แย้งข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นรับฟังมาว่า จำเลยทั้งสามได้ทำสัญญาหมั้นโจทก์ที่ 1 จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว ส่วนที่จำเลยทั้งสามอุทธรณ์ว่า จำเลยทั้งสามผิดสัญญาหมั้นตั้งแต่วันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 6 ปี 2543 แต่โจทก์ทั้งสองเพิ่งจะยื่นฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2544 พ้นกำหนด 6 เดือน นับแต่วันที่ผิดสัญญาหมั้น ฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความแล้วนั้น เป็นการอุทธรณ์โต้แย้งข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นรับฟังมาว่า จำเลยทั้งสามผิดสัญญาหมั้นเมื่อวันขึ้น 10 ค่ำ เดือนหก หรือเดือนมิถุนายน 2544 เพื่อนำไปสู่ข้อกฎหมายว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความแล้ว จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงต้องห้ามตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวเช่นเดียวกัน ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสาม เป็นการสั่งรับอุทธรณ์โดยไม่ชอบ ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ชอบที่จะไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสาม ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาให้ยกอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสามนั้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยทั้งสามฟังไม่ขึ้น

อนึ่ง เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 4 ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสาม ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ย่อมจะต้องสั่งคืนค่าธรรมเนียมศาลอุทธรณ์ให้แก่จำเลยทั้งสามทั้งหมดตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 151 วรรคหนึ่ง ปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาเห็นสมควรหยิบยกขึ้นแก้ไขให้ถูกต้อง”

    พิพากษายืน แต่ให้คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ทั้งหมดให้แก่จำเลยทั้งสาม ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 752/2550  ทำสัญญาหมั้นมอบของหมั้นเป็นสรั้อยคอ สินสอด 50,000 บาท ถึงกำหนดชายคู่หมั้นผิดสัญญาหมั้น หญิงคู่หมั้นได้รับความเสียหายต่อกายและชื่อเสียง เรียกค่าทดแทน ทุนทรัพย์ไม่เกิน 50,000 บาท ห้ามอุทธรณ์

สัญญาหมั้น, ผิดสัญญาหมั้น, ความเสียหายแก่กายและชื่อเสียง, ค่าทดแทนความเสียหาย

จำเลยพาโจทก์ไปซื้อแหวนเรือนทองฝังเพชร แล้วส่งมอบให้โจทก์ที่ร้านที่ซื้อแล้วพูดว่า "ผมจองคุณแล้วนะ" ถือว่าสัญญาหมั้นเกิดขึ้นแล้ว จำเลยไปเข้าสู่พิธีสมรสกับหญิงอื่น จำเลยจึงผิดสัญญาหมั้น โจทก์เชื่อว่าจำเลยจะสมรสกับโจทก์จึงยอมมีความสัมพันธ์ถึงขั้นร่วมประเวณี การที่จำเลยผิดสัญญาหมั้น ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายต่อกายและชื่อเสียง โจทก์จึงมีสิทธิเรียกค่าทดแทนความเสียหาย




คำพิพากษาศาลฎีกา

การรับสภาพหนี้มิได้ก่อให้เกิดมูลหนี้ขึ้นใหม่ article
สิทธิเรียกร้องไล่เบี้ยลูกจ้าง article
อายุความเรียกค่าเสียหาย | ค่าสินไหมทดแทน | ฟ้องนายจ้าง article
สัญญาขายฝาก-การวางทรัพย์-การขยายกำหนดเวลาไถ่ article
ตรวจค้น-จับกุมมิชอบด้วยกฎหมาย article
ไม่แจ้งสิทธิให้ผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหาทราบไม่ทำให้การสอบสวนคดีไม่ชอบ article
ผู้รับจำนองย่อมมีสิทธิได้รับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่นที่นำยึดทรัพย์ article
แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน- สภาพการจ้าง article
สัญญากู้ยืมเงินแบบไม่มีกำหนดระยะเวลาชำระหนี้,การคิดดอกเบี้ยผิดนัด article
การเข้ามอบตัวถือว่าจำเลยถูกจับแล้ว article
ฟ้องโจทก์ไม่สมบูรณ์ | ปัสสาวะสีม่วง | เสพเมทแอมเฟตามีน article
สัญญาที่ผู้บริโภคเสียเปรียบเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า การเลิกจ้างในระหว่างการทดลองงาน article
ปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม-ผู้เสียหาย article
ครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่าย 62 เม็ด โทษ 4 ปี 9 เดือน article
ความผิดฐานร่วมกันบุกรุกที่ดินราชพัสดุ article
ผลของการไม่ชำระค่าปรับภายในสามสิบวัน article
นับอายุความละเมิดเรียกค่าเสียหาย article
มีเหตุสมควรให้รอการลงโทษ article
ทุนทรัพย์ไม่เกินสามแสน | เขตอำนาจศาลแขวง article
นำสืบประกอบคำให้การรับสารภาพ article
การกระทำต่อเนื่อง-ความผิดฐานบุกรุก article
ภาระจำยอมโดยอายุความ-ใช้ทางในลักษณะปรปักษ์ article
ดอกผลนิตินัย article
พรากผู้เยาว์,กระทำชำเราเด็กหญิงไม่เกิน 15 ปี article
ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง- “สภาพการจ้าง” คืออะไร? article
รับของโจร รับซื้อทรัพย์ของกลางโดยรู้อยู่ว่าได้มาโดยการลักทรัพย์ article
อายุความสิทธิเรียกร้องมูลละเมิด article
เจ้าเพนักงานพิทักษ์ทรัพย์-สิทธิจัดการทรัพย์สินลูกหนี้ article
กฎหมายยกเลิกความผิด-การใช้กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่จำเลย article
ประมาททำให้เกิดเพลิงไหม้ | ความรับผิดของผู้ว่าจ้าง article
เรียกค่าเสียหายเลิกจ้างไม่เป็นธรรม article
ความผิดฐานบุกรุกเคหสถาน article
ความผิดฐานพรากเด็ก(ผู้เยาว์)อายุยังไม่เกิน 15 ปี article
การนับระยะเวลาอายุความคดีอาญา article
เขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม article
การฟอกเงิน-ยกประโยชน์แห่งความสงสัย article
กรณีมีเหตุสมควรอนุญาตให้พิจารณาใหม่ตามคำขอของจำเลย article
รายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิและขาดทุนสุทธิ article
บิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก article
การใช้ดุลพินิจของอนุญาโตตุลาการ article
รับสมอ้างต่อศาลว่าเป็นจำเลย ละเมิดอำนาจศาล เปลี่ยนตัวจำเลย article
ฎีกาไม่มีลายมือชื่อไม่ชอบด้วยกฎหมาย ฎีกาของจำเลยไม่ได้ลงลายมือชื่อผู้ฎีกา article
ทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดที่ต้องริบเสียทั้งสิ้น article
สิทธิในการดำเนินคดีเป็นโจทก์ร่วม article
คำร้องสอดเป็นฟ้องซ้อน-ปัญหาข้อกฎหมาย article
ความรับผิดของผู้รับประกันภัย article
ละเมิดอำนาจศาล-ทนายความเรียกค่าวิ่งเต้นคดี article
ศาลไม่อาจลงโทษเกินไปกว่าที่โจทก์บรรยายในคำฟ้อง เมทแอมเฟตามีน article
ผู้มีส่วนได้เสียเท่านั้นที่จะขอให้ศาลเพิกถอนผู้จัดการมรดก article
ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น,ชั้นอุทธรณ์ article
ผลของคำสั่งให้เลิกห้างหุ้นส่วนจำกัด | ผู้ชำระบัญชี article
ผู้จัดการมรดก-ผู้ถูกตัดมิให้รับมรดก พินัยกรรม article
สิทธิหยุดพักผ่อนของลูกจ้าง article
ตั๋วสัญญาใช้เงินที่จะต้องนำไปให้ผู้ออกตั๋วจดรับรู้ article
ผู้ลงลายมือชื่อรับรองในตั๋วเงิน article
สินทรัพย์ด้อยคุณภาพ, ปรับโครงสร้างหนี้ article
ข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบ article
ค่าอุปการะเลี้ยงดู ค่าเลี้ยงชีพ อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์ article
ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน article
ครอบครองปรปักษ์ก่อนออกโฉนดที่ดินไม่นำมารวมหลังออกโฉนด article
โอนที่ดินให้บุตรไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ article
ร้องขัดทรัพย์-ตัวการไม่เปิดเผยชื่อ article
ช่วยซ่อนเร้นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิด article
ขอให้ศาลรวมโทษจำคุก,ความผิดหลายกรรม article
ฐานค่าจ้างในการคำนวณจ่ายค่าชดเชย article
ค่าชดเชยการเลิกจ้างและดอกเบี้ย article
สิทธิแจ้งความร้องทุกข์ของผู้เสียหาย article
ผู้ค้ำประกันไม่ได้รับสภาพหนี้ มิได้เป็นการแปลงหนี้ใหม่ หนี้เดิมไม่ระงับ article
อุทธรณ์ปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา article
การประเมินภาษีเงินได้-อำนาจออกหมายเรียก article
คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ อำนาจศาลชั้นต้นที่จะสั่งแก้ไขคำสั่งที่ผิดหลง article
การจราจรติดขัดไม่ใช่เหตุสุดวิสัย article
หนี้ที่จะต้องรับผิดตามสัญญาจำนอง article
คำวินิจฉัยอุทธรณ์เป็นที่สุด article
พิพากษาเกินไปกว่าคำขอท้ายฟ้อง article
ผู้ให้เช่าซื้อ(เจ้าหนี้)ใช้สิทธิติดตามเอาทรัพย์คืนจากลูกหนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์ article
ฎีกาปัญหาข้อกฎหมาย ฟ้องซ้ำ หลายกรรมต่างกัน article
เหตุสุดวิสัย หรือ ประมาทเลินเล่อ เรียกค่าขาดไร้อุปการะ article
ไม่เข้าเหตุถอนคืนการให้ | หมิ่นประมาทอย่างร้ายแรง article
ขอเพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า article
ขอให้ศาลแรงงานพิจารณาคดีใหม่       article
ถอนคืนการให้-ประพฤติเนรคุณ หมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรง article
ศาลรับฟังพยานหลักฐานที่ไม่ชอบหรือไม่? article
คำสั่งยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ | อุทธรณ์คำสั่งยกคำร้อง article
ใบแต่งทนาย-ทนายความขอแรง article
คำร้องขอคืนรถยนต์ของกลาง คำสั่งระหว่างพิจารณา article
อำนาจสอบสวน ความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค article
ควบคุมหรือขังโดยมิชอบด้วยกฎหมาย article
ลูกหนี้ร่วม-เจ้าหนี้ฟ้องให้ล้มละลายได้ article
ทางจำเป็นและทางภาระจำยอม article
หนี้ร่วมระหว่างสามีภริยา หนังสือให้ความยินยอมทำนิติกรรม article
ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิดที่ศาลสั่งริบ article
เรียกค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัย article
การริบทรัพย์สินของกลาง ทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิด article
ลูกจ้างฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน article
การรับสภาพหนี้อายุความสะดุดหยุดลง article
สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินสะสมไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี article
การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้อง article