ReadyPlanet.com
bulletรับฟ้องคดีแพ่ง/อาญา
bulletพระราชบัญญัติ
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletป.อาญา ฎีกา
bulletป.วิอาญา
bulletป.วิแพ่ง
bulletป.กฎหมายที่ดิน
bulletป.รัษฎากร
bulletฟ้องหย่า
bulletอำนาจปกครอง
bulletนิติกรรม
bulletคดีมรดก
bulletอายุความฟ้องร้องคดี
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletเอกเทศสัญญา
bulletเกี่ยวกับแรงงาน
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
bulletตั๋วเงินและเช็ค
bulletห้างหุ้นส่วน-บริษัท
bulletคำพิพากษาและคำสั่ง
bulletทรัพย์สิน/กรรมสิทธิ์
bulletอุทธรณ์ฎีกา
bulletเกี่ยวกับคดีล้มละลาย
bulletเกี่ยวกับวิแพ่ง
bulletเกี่ยวกับวิอาญา
bulletการบังคับคดี
bulletคดีจราจรทางบก
bulletการเล่นแชร์ แชร์ล้ม
bulletอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
bulletมรรยาททนายความ
bulletถอนคืนการให้,เสน่หา
bulletข้อสอบเนติบัณฑิต
bulletคำพิพากษา 2550
bulletทรัพย์สินทางปัญญา
bulletสัญญาขายฝาก
bulletสำนักทนายความ
bulletป-อาญา มาตรา1- 398
bulletภาษาอังกฤษ
bulletการสมรสและการหมั้น
bulletแบบฟอร์มสัญญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-แพ่ง
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2549-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2548-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2547-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2546-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2545-แพ่งพาณิชย์
bulletนิติกรรมสัญญา
bulletพระธรรมนูญศาล
bulletทรัพย์สิน-สามีภริยา
bulletบิดามารดา-รับรองบุตร
bulletคดีครอบครัว
bulletสัญญาระหว่างสมรส
bulletสิทธิครอบครองที่ดิน
bulletสัญญาซื้อขาย
bulletแปลงหนี้ใหม่
bulletการได้กรรมสิทธิ์
bulletคดีเรื่องบุตร
bulletเช่าซื้อรถยนต์
bulletถอนผู้จัดการมรดก
bulletฟ้องค่าทดแทน
bulletฟ้องหย่า-ฟ้องหย่า
bulletสินสมรส-สินสมรส
bulletบันดาลโทสะ
bulletเบิกความเท็จ
bulletสิทธิ-สัญญาเช่า
bulletค้ำประกัน
bulletเจ้าของรวม
bulletจำนอง
bulletลูกหนี้ร่วม
bulletคำพิพากษาฎีกาทั่วไป
bulletกระดานถาม-ตอบ
bulletป-กฎหมายยาเสพติด2564
bulletขนส่งทางทะเล
bulletสมรสเป็นโมฆะ
bulletสามีภริยา
bulletตัวการไม่เปิดเผยชื่อ
bulletทนายความของสภาจัดให้
bulletอาวุธปืน
bulletรับช่วงสิทธิ
bulletแพ่งมาตรา1-1755




ต่อสู้คดีอ้างครอบครองปรปักษ์แต่ขาดเจตนาเป็นเจ้าของ10 ปี article

การครอบครองปรปักษ์ต้องบรรยายให้ครบองค์ประกอบ

ในการอ้างสิทธิการครอบครองปรปักษ์ในที่ดินมีโฉนดของผู้อื่นได้นั้นจะต้องอ้างให้ครบองค์ประกอบตามที่กฎหมายกำหนดไว้ให้ครบคือ ครอบครองโดยสงบและโดยเปิดเผย และที่สำคัญคือด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลากว่าสิบปีแล้ว ในคดีนี้จำเลยต่อสู้อ้างการครอบครองปรปักษ์แต่ไม่ได้ให้การให้ครบถ้วนว่าด้วยเจตนาเป็นเจ้าของครบ 10 ปีแล้ว

คำให้การว่าได้ครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นจนได้กรรมสิทธิ์นั้นต้องให้การให้ครบถ้วน

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยโดยฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่า จำเลยที่ 3 ได้กรรมสิทธิ์ที่พิพาทโดยการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นข้อพิพาทหรือไม่ **แต่จำเลยให้การอ้างแต่เพียงว่า ได้ครอบครองที่พิพาทโดยสงบและเปิดเผย โดยมิได้อ้างว่าด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีแล้วมาด้วยดังนี้ถือไม่ได้ว่าจำเลยให้การต่อสู้ว่าได้ครอบครองที่พิพาทจนได้กรรมสิทธิ์

      คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5415/2537

การให้การต่อสู้ว่าครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นจนได้กรรมสิทธิ์เป็นข้ออ้างที่เป็นการรอนสิทธิในทรัพย์สินของผู้อื่น ดังนั้นข้ออ้างจะต้องชัดแจ้งตามเกณฑ์ที่ได้บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 กล่าวคือ นอกจากจะต้องอ้างว่าได้ครอบครองโดยสงบและเปิดเผยแล้ว ยังจะต้องอ้างว่าโดยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีแล้วด้วย ถ้าทรัพย์สินนั้นเป็นอสังหาริมทรัพย์ เมื่อจำเลยให้การแต่เพียงว่าได้ครอบครองที่พิพาทโดยสงบและเปิดเผย โดยมิได้อ้างว่าด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี ถือไม่ได้ว่าจำเลยให้การต่อสู้ว่าได้ครอบครองที่พิพาทจนได้กรรมสิทธิ์ จึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทดังกล่าวในคดีการที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยที่ 3ได้ครอบครองที่พิพาทจนได้กรรมสิทธิ์ จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นข้อพิพาทและปัญหานี้เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนโจทก์มีสิทธิยกขึ้นอ้างในชั้นศาลฎีกาได้

โจทก์ทั้งสามฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า โจทก์ทั้งสามเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน โฉนดเลขที่ 9046 โจทก์ทั้งสามเพิ่งทราบว่าจำเลยทั้งสามกับพวกได้บุกรุกเข้ามาปลูกตึกแถว เลขที่ 855/2ในที่ดินของโจทก์ทั้งสามเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2528 โจทก์ทั้งสามได้แจ้งให้จำเลยทั้งสามรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไป แต่จำเลยทั้งสามไม่ยอมรื้อถอน การกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ทั้งสาม ทำให้โจทก์ทั้งสามไม่สามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินได้ซึ่งหากให้เช่า แล้วจะได้ค่าเช่าเดือนละ 4,000 บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามรื้อถอนตึกแถวเลขที่ 855/2 กับสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆออกไปจากที่ดินดังกล่าวของโจทก์ทั้งสามพร้อมทั้งทำให้ที่ดินเป็นไปตามเดิม ให้จำเลยทั้งสามและบริวารออกไปจากที่ดินของโจทก์ทั้งสาม ห้ามไม่ให้เกี่ยวข้องอีกต่อไป และร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้งสามเป็นเงิน 22,000 บาท กับค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้งสามเป็นรายเดือนเดือนละ 4,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจำเลยทั้งสามและบริวารจะรื้อถอนตึกแถวเลขที่ 855/2 กับสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ ออกไปจากที่ดินของโจทก์ทั้งสาม

จำเลยที่ 1 ที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การและจำเลยทั้งสามขาดนัดพิจารณา

จำเลยที่ 3 ให้การว่า จำเลยที่ 3 ทำสัญญาซื้อขายตึกแถวเลขที่ 855/2 พร้อมที่ดินพิพาทจากนายเจริญ พรหมศร เมื่อวันที่17 มีนาคม 2517 ปรากฏตามเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข 1 ก่อนและขณะทำสัญญาซื้อขายนายเจริญแจ้งให้จำเลยที่ 3 ทราบว่ามิได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ แต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่พิพาทให้ปลูกสร้างตึกแถวเลขที่ 855/2 ในที่ดินและเจ้าของที่ดินได้สัญญากับผู้ขายว่าจะโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวให้แก่ผู้ซื้อ จำเลยที่ 3 จึงทำสัญญาซื้อขายและได้ย้ายเข้าอยู่ในตึกแถวเลขที่ 855/2 นับแต่วันทำสัญญาโดยสงบและเปิดเผย โจทก์ทั้งสามไม่เคยบอกกล่าวให้จำเลยที่ 3รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไป จำเลยที่ 3 ได้สิทธิตามสัญญาซื้อขายมาโดยสุจริตเสียค่าตอบแทน โจทก์ทั้งสามยินยอมโดยนิตินัยให้จำเลยที่ 3 เข้าอยู่อาศัยโดยเปิดเผย ขอให้ยกฟ้อง

ระหว่างพิจารณา ห้างหุ้นส่วนจำกัดเจริญเขตสถาปัตย์ ที่ 1นายเจริญ พรหมศร ที่ 2 ผู้ร้องสอดร้องขอเข้าเป็นจำเลยร่วมศาลชั้นต้นอนุญาต

        ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง

โจทก์ทั้งสามอุทธรณ์

         ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

     โจทก์ทั้งสามฎีกา
     ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "เห็นสมควรวินิจฉัยปัญหาตามฎีกาโจทก์ทั้งสามในข้อกฎหมายที่ว่าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยโดยฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่า จำเลยที่ 3 ได้กรรมสิทธิ์ที่พิพาทโดยการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นข้อพิพาทหรือไม่เสียก่อน โจทก์ฟ้องอ้างว่าจำเลยทั้งสามบุกรุกเข้ามาปลูกตึกแถวเลขที่ 855/2 ในที่พิพาทซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ทั้งสาม ขอให้จำเลยทั้งสามรื้อถอนตึกแถวห้องดังกล่าวออกไปจากที่พิพาท และชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ จำเลยที่ 3ให้การต่อสู้มีใจความเป็นสำคัญว่าจำเลยที่ 3 ไม่ได้บุกรุกที่พิพาทหากแต่จำเลยที่ 3 ซื้อตึกแถวเลขที่ 855/2 พร้อมที่พิพาทจากจำเลยร่วมที่ 2 โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนโดยจำเลยร่วมที่ 2ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่ดินให้ปลูกสร้างตึกแถวดังกล่าวแล้วเจ้าของที่ดินให้สัญญาว่าจะโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทแก่ผู้ซื้อหลังจากซื้อแล้ว จำเลยที่ 3 ได้ครอบครองที่พิพาทโดยสงบเปิดเผย ขอให้ยกฟ้องมีปัญหาว่าคำให้การของจำเลยที่ 3 ดังกล่าวถือได้หรือไม่ว่าจำเลยที่ 3ให้การต่อสู้ว่าได้ครอบครองที่พิพาทจนได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การให้การต่อสู้ว่าครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นจนได้กรรมสิทธิ์เป็นข้ออ้างที่เป็นการรอนสิทธิในทรัพย์สินของผู้อื่น ดังนั้นข้ออ้างจะต้องชัดแจ้งตามเกณฑ์ที่ได้บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382ที่ว่าบุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี ท่านว่าบุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์ตามบทบัญญัติมาตราดังกล่าวซึ่งนอกจากจะต้องอ้างว่าได้ครอบครองโดยสงบและเปิดเผยแล้วยังจะต้องอ้างว่าโดยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีแล้วด้วย ถ้าทรัพย์สินนั้นเป็นอสังหาริมทรัพย์ แต่จำเลยให้การอ้างแต่เพียงว่า ได้ครอบครองที่พิพาทโดยสงบและเปิดเผย โดยมิได้อ้างว่าด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีแล้วมาด้วยดังนี้ถือไม่ได้ว่าจำเลยให้การต่อสู้ว่าได้ครอบครองที่พิพาทจนได้กรรมสิทธิ์ตามบทกฎหมายมาตราดังกล่าว จึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทดังกล่าวนี้ในคดี ที่ศาลล่างทั้งสองฟังต้องกันว่าจำเลยที่ 3ได้ครอบครองที่พิพาทจนได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1382 จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นข้อพิพาท แม้โจทก์ทั้งสามจะมิได้ยกปัญหานี้ขึ้นมาในชั้นศาลอุทธรณ์ แต่ปัญหานี้เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน โจทก์มีสิทธิยกขึ้นอ้างในชั้นศาลฎีกาได้ ฎีกาโจทก์ทั้งสามฟังขึ้น สำหรับปัญหาตามฎีกาโจทก์ทั้งสามที่ว่าโจทก์มีสิทธิฟ้องให้จำเลยทั้งสามรื้อถอนตึกแถวเลขที่ 855/2กับสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ ออกไปจากที่ดินของโจทก์ทั้งสามหรือไม่และค่าเสียหายมีเพียงใดนั้น เห็นว่า ปัญหาดังกล่าวศาลล่างทั้งสองยังไม่ได้วินิจฉัย ศาลฎีกาเห็นสมควรย้อนสำนวนไปให้ศาลทั้งสองวินิจฉัยเสียก่อน เนื่องจากผลแห่งคำวินิจฉัยของศาลล่างทั้งสองอาจเกี่ยวโยงไปถึงสิทธิในการอุทธรณ์ฎีกาคดีนี้ต่อไปอีก"

           พิพากษายกคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี


หมายเหตุ

(1) คำให้การของจำเลยในคดีความถือได้ว่าเป็นการแสดงเจตนาอย่างหนึ่ง แม้จะไม่ถือว่าเป็นนิติกรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 149 และในการตีความแสดงเจตนาให้เพ่งเล็งถึงเจตนาอันแท้จริงยิ่งกว่าถ้อยคำสำนวนหรือตัวอักษร (มาตรา 171)ก็ตาม แต่การแสดงเจตนาที่ได้แสดงออกก็ต้องครบถ้วนตรงกับเจตนาอันซ่อนเร้นอยู่ในใจของผู้แสดง (มาตรา 154)

(2) คำให้การของจำเลยในคดีนี้อ้างแต่เพียงว่าได้ครอบครองที่พิพาทโดยสงบและเปิดเผย มิได้อ้างว่าด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันเป็นเวลาสิบปีแล้วมาด้วย ศาลฎีกาถือว่าจำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ว่าได้ครอบครองที่พิพาทจนได้กรรมสิทธิ์ เพราะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 จะต้องประกอบด้วยหลักเกณฑ์เจตนาเป็นเจ้าของตลอดเวลาสิบปีด้วย

(3) แต่ที่ศาลฎีกาว่านอกจากจะต้องอ้างว่าได้ครอบครองโดยสงบและเปิดเผยแล้ว ยังจะต้องอ้างว่าโดยเจตนาเป็นเจ้าของ ฯลฯ ด้วยนั้นแม้จะไม่อ้างถึงขนาด ดังนี้โดยอ้างแต่เพียงว่าได้ครอบครองปรปักษ์จนได้กรรมสิทธิ์ เมื่อตีความแสดงเจตนาโดยเพ่งเล็งถึงเจตนาอันแท้จริงยิ่งกว่าถ้อยคำสำนวนหรือตัวอักษรตามมาตรา 171 ดังกล่าวแล้วก็พอถือได้ว่าได้อ้างว่าเจตนาเป็นเจ้าของเข้าหลักเกณฑ์ตามมาตรา 1382แล้ว เพราะการได้ครอบครองปรปักษ์ (adversarypossession) จนได้กรรมสิทธิ์ ก็หมายความว่าได้ครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นจนได้กรรมสิทธิ์นั่นเอง

ไพจิตรปุญญพันธุ์

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 1382 บุคคลใด ครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยสงบและโดยเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาห้าปีไซร้ ท่านว่าบุคคลนั้นได้ กรรมสิทธิ์

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

มาตรา 142 คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลที่ชี้ขาดคดีต้องตัดสินตามข้อหาในคำฟ้องทุกข้อ แต่ห้ามมิให้พิพากษาหรือคำสั่งให้สิ่งใด ๆ เกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง เว้นแต่
(1) ในคดีฟ้องเรียกอสังหาริมทรัพย์ ให้พึงเข้าใจว่าเป็นประเภท เดียวกับฟ้องขอให้ขับไล่จำเลย ถ้าศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีเมื่อ ศาลเห็นสมควรศาลจะมีคำสั่งให้ขับไล่จำเลยก็ได้ คำสั่งเช่นว่านี้ให้ใช้ บังคับตลอดถึงวงศ์ญาติทั้งหลายและบริวารของจำเลยที่อยู่บน อสังหาริมทรัพย์นั้น ซึ่งไม่สามารถแสดงอำนาจพิเศษให้ศาลเห็นได้
(2) ในคดีที่โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์ใด ๆ เป็นของตนทั้งหมด แต่พิจารณาได้ความว่าโจทก์ควรได้แต่ส่วนแบ่ง เมื่อศาลเห็นสมควร ศาลจะพิพากษาให้โจทก์ได้รับแต่ส่วนแบ่งนั้นก็ได้
(3) ในคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ชำระเงิน พร้อมด้วยดอกเบี้ยจนถึงวันฟ้อง เมื่อศาลเห็นสมควรศาลจะพิพากษาให้จำเลยชำระดอกเบี้ยจนถึงวันที่ได้ชำระเสร็จตามคำพิพากษาก็ได้
(4) ในคดีที่โจทก์ฟ้องเรียกค่าเช่าหรือค่าเสียหายอันต่อเนื่อง คำนวณถึงวันฟ้อง เมื่อศาลเห็นสมควร ศาลจะพิพากษาให้ชำระค่าเช่าและค่าเสียหายเช่นว่านี้จนถึงวันที่ได้ชำระเสร็จตามคำพิพากษาก็ได้
(5) ในคดีที่อาจยกข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนขึ้นอ้างได้นั้นเมื่อศาลเห็นสมควรศาลจะยกข้อเหล่านั้นขึ้นวินิจฉัยแล้วพิพากษาคดีไปก็ได้
(6) ในคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ชำระเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยซึ่งมิได้มีข้อตกลงกำหนดอัตราดอกเบี้ยกันไว้ เมื่อศาลเห็นสมควรโดยคำนึง ถึงเหตุสมควรและความสุจริตในการสู้ความหรือการดำเนินคดี ศาลจะพิพากษาให้จำเลยชำระดอกเบี้ยในอัตราที่สูงขึ้นกว่าที่โจทก์มีสิทธิได้รับตามกฎหมาย แต่ไม่เกินร้อยละสิบห้าต่อปีนับตั้งแต่วันฟ้องหรือวันอื่นหลังจากนั้นก็ได้

มาตรา 177 เมื่อได้ส่งหมายเรียกและคำฟ้องให้จำเลยแล้วให้จำเลย ทำคำให้การเป็นหนังสือยื่นต่อศาลภายในสิบห้าวัน

ให้จำเลยแสดงโดยชัดแจ้งในคำให้การว่า จำเลยยอมรับหรือปฏิเสธ ข้ออ้างของโจทก์ทั้งสิ้นหรือแต่บางส่วน รวมทั้งเหตุแห่งการนั้น

จำเลยจะฟ้องแย้งมาในคำให้การก็ได้ แต่ถ้าฟ้องแย้งนั้นเป็นเรื่อง อื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมแล้ว ให้ศาลสั่งให้จำเลยฟ้องเป็นคดีต่างหาก

ให้ศาลตรวจดูคำให้การนั้นแล้วสั่งให้รับไว้ หรือให้คืนไป หรือสั่งไม่รับตามที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 18

บทบัญญัติแห่ง มาตรานี้ ให้ใช้บังคับแก่บุคคลภายนอกที่ถูกเรียก เข้ามาเป็นผู้ร้องสอดตาม มาตรา 57 (3) โดยอนุโลม

 




ครอบครองปรปักษ์/ภาระจำยอม/ทางจำเป็น

การใช้ที่ดินข้างเคียงเป็นทางผ่านโดยถือวิสาสะไม่ได้ภาระจำยอม article
อำนาจฟ้องคดี ครอบครองปรปักษ์ที่ดินของตนเองไม่ได้
ครอบครองที่ดินมรดกตกทอดหาใช่การครอบครองปรปักษ์ในที่ดินของผู้อื่นไม่
นับเวลาซึ่งผู้โอนครอบครองอยู่ก่อนนั้นรวมเข้ากับเวลาครอบครองของตนก็ได้
ทางจำเป็นเกิดขึ้นได้กี่วิธี -ผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน
คลองสาธารณะไม่ได้ใช้สัญจรไม่ทำให้สิ้นสภาพการเป็นทางสาธารณะได้
การโอนกรรมสิทธิ์ในระยะที่ดินถูกครอบครองปรปักษ์กระทบสิทธิครอบครอง
อุทิศที่ดินให้กับทางราชการเพื่อสร้างถนนสาธารณะแล้วจะขอเรียกคืน
ทายาททำหนังสือยินยอมให้ใช้ทางไม่ได้สิทธิภาระจำยอม
ได้กรรมสิทธิ์ตาม มาตรา 1382 เพราะเจ้าของสละแล้ว
ความแตกต่างของทางจำเป็นกับภาระจำยอม
ทางออกมีที่ดินสูงชันขวางอยู่ขอให้เปิดทางจำเป็นได้
ค่าทดแทนการใช้ทางเดือนละเท่าไหร่เหมาะสม
ฟ้องขอให้เปิดทางจำแต่เจ้าของที่ดินแปลงอื่นตกลงจดภาระจำยอมให้
เจ้าของที่ดิน น.ส. 3 ก ออกเอกสารสิทธิทับที่ดินมีโฉนดอ้างครอบครองปรปักษ์
ใช้ทางโดยสำคัญผิดว่าทางนั้นอยู่ในที่ดินของตนกว่า10 ปีได้ภาระจำยอม
การใช้สิทธิวางท่อน้ำ,สายไฟฟ้าในที่ดินของผู้อื่น
ครอบครองโดยสำคัญผิดได้กรรมสิทธิ์โดยปรปักษ์หรือไม่?
ค่าทดแทนทางจำเป็นและท่อระบายน้ำสายไฟฟ้า
จดภาระจำยอมให้แค่เดินผ่านแต่ปลูกสร้างหลังคาและวางของขาย
เจ้าของที่ดินมีสิทธิสร้างแผงร้านค้าบนทางภาระจำยอมหรือไม่?
ภาระจำยอมที่เกิดจากการจัดสรรที่ดินขาย
ใช้ทางอย่างเป็นปรปักษ์กับใช้ทางเป็นการวิสาสะ
ยึดถือที่ดินเพื่อตนกับมีชื่อในทะเบียนสิทธิใดดีกว่า?
ตกเป็นภาระจำยอมแล้วจึงรับโอนมาทั้งสิทธิและหน้าที่
ภาระจำยอมหมดประโยชน์หรือไม่?
คนต่างด้าวครอบครองปรปักษ์ห้องชุด
เพิกถอนโฉนดที่ดินออกทับที่ดินของผู้มีสิทธิครอบครอง
ภาระจำยอมเป็นสิทธิในประเภทรอนสิทธิ
ครอบครองปรปักษ์ที่ดินที่ซื้อมาไม่จดทะเบียน
ตกอยู่ในภาระจำยอมตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 286
ความรู้เกี่ยวกับเรื่องภาระจำยอม 3-(ต่อ)
ความรู้เกี่ยวกับเรื่องภาระจำยอม 2-(ต่อ)
เหตุตามกฎหมายทำให้ภาระจำยอมสิ้นไป
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เป็นทางจำเป็น ศาลอุทธรณ์ให้จดภาระจำยอม
มีทางออกสู่ทางสาธารณะอื่นทางจำเป็นที่สิ้นความจำเป็นแล้ว
การยึดถืออย่างสิทธิครอบครอง กับครอบครองเจตนาเป็นเจ้าของ
ความรู้เกี่ยวกับเรื่องภาระจำยอม 4-(ต่อ)
ทางที่ประชาชนเดินเข้าออกสู่ถนนสาธารณะมานานโดยเจ้าของที่ดินไม่หวงห้าม
ทางจำเป็นคืออะไร | เงินค่าทดแทนใช้ทาง
แม้ภาระจำยอมโดยนิติกรรมไม่บริบูรณ์แต่มีสิทธิได้โดยอายุความ
ความรู้เกี่ยวกับเรื่องภาระจำยอม
ยกเลิกภาระจำยอมได้ไหม?
ที่ดินตาบอดมีที่ดินแปลงอื่นล้อมอยู่ไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะ ขอเปิดทางจำเป็น
การครอบครองปรปักษ์ขาดตอนเมื่อเปลี่ยนเจ้าของ-การนับระยะเวลาครอบครองปรปักษ์
การครอบครองปรปักษ์จนได้กรรมสิทธิ์-การครอบครองอย่างเป็นเจ้าของ
ที่ดินแบ่งแยกเป็นเหตุให้ไม่มีทางออกมีสิทธิเรียกให้เปิดทางจำเป็น
สัญญาประนีประนอมยอมความเกิดจากคู่ความฉ้อฉล
ปรปักษ์ใช้ยันผู้ได้สิทธิมาโดยจ่ายค่าซื้อที่ดินและจดทะเบียนโอนแล้วไม่ได้
รับโอนที่ดินมาโดยสุจริต เสียค่าตอบแทน และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริต
ตกลงยินยอมให้ใช้ทางเป็นการทำนิติกรรมก่อตั้งสิทธิภาระจำยอมระหว่างกัน
การครอบครองปรปักษ์กับการนับเวลาการครอบครองต่อเนื่องต่อจากเจ้าของเดิม
ผู้ขายสละการครอบครอง ผู้ซื้ออ้างครอบครองปรปักษ์ได้
ขอเปิดทางจำเป็นจากที่ดินแบ่งแยก
เจ้าของที่ดินจำต้องยอมให้ที่ดินมีแนวเขตติดต่อวางท่อน้ำ ท่อระบายน้ำ สายไฟฟ้าได้
ฟ้องขอเปิดทางจำเป็นแต่ระหว่างพิจารณาคดีได้สิทธิภาระจำยอมแปลงอื่น
กรรมสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์ไม่ใช่สิทธิเฉพาะตัวของผู้ครอบครอง
ครอบครองอาศัยสิทธิไม่บอกเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือ
ภาระจำยอมคืออะไร การใช้ทางโดยไม่มีใครห้ามและไม่ต้องรับอนุญาต
ได้กรรมสิทธิ์ปรปักษ์แล้วไม่ได้จดทะเบียนการได้มา