จากข้อเท็จจริงของคุณ ได้จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายกับสามี บุตรทั้งสามคนจึงเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของบิดา มารดา การที่สามีคุณไปอยู่กินฉันสามีภริยากับหญิงอื่นในขณะที่มีคู่สมรสอยู่นั้น คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งหมายถึงคุณจึงมีสิทธิอ้างเป็นเหตุฟ้องหย่าได้ เพราะ เป็นการแสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับยกย่องหญิงอื่นฉันภริยา หรือคุณอาจจะเลือกที่จะฟ้องเรียกค่าทดแทนจากหญิงชู้คนนั้นโดยไม่ต้องฟ้องหย่าก็ได้ครับ 

คุณมีบุตรชอบด้วยกฎหมายด้วยกัน จึงมีหน้าที่ร่วมกันอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาแก่บุตรผู้เยาว์ตามสมควร เสมือนเป็นลูกหนี้ร่วมกัน บุตรมีสิทธิได้รับค่าอุปการะเลี้ยงดูหรือได้รับการอุปการะเลี้ยงดูไม่เพียงพอแก่อัตภาพ บุตรย่อมมีสิทธิเรียกค่าเลี้ยงดูจากบิดา มารดาได้ ค่าอุปการะเลี้ยงดูตามสมควรคืออย่างไร? ค่าอุปการะเลี้ยงดูตามสมควรคือตามฐานะหรือฐานานุรูปของผู้ให้ ดังนั้นตามข้อเท็จจริงของคุณนั้น สามีมีรายได้เดือนละ 10,000 บาทรวมค่าล่วงเวลาอีก 6,000 บาท เป็น 16,000 บาท จึงต้องพิจารณาว่าสมควรจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรในจำนวนที่สามีก็ต้องสามารถดำรงชีพได้ ซึ่งกฎหมายก็ไม่ได้กำหนดจำนวนเงินไว้ชัดแจ้งจึงเป็นดุลพินิจของศาลในการกำหนดค่าอุปการะเลี้ยงดูให้ครับ ดังนั้นที่ถามว่าจะฟ้องเท่าไหร่ดีนั้นจึงตอบได้ว่าพอเหมาะสมกับรายได้ของเขาครับเช่น เดือนละ 6,000 บาทก็น่าจะเหมาะสมกับรายได้ครับ แต่หากสถานการณ์เปลี่้ยนแปลงไป เช่นสามีคุณมีรายได้มากขึ้นก็ไปขอให้ศาลมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงค่าอุปการะเลี้ยงดูให้เพิ่มจำนวนเงินค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรได้อีกครับ